"ศักดิ์สยาม" ย้ำกรมทางหลวง เฝ้าระวังเป็นพิเศษ เส้นทางที่มีความเสี่ยงอุบัติเหตุ 43 สายทาง 53 แห่ง ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 แนะ ปชช.แวะพักจุดบริการทางหลวง ให้พร้อมทั้ง "รถ-คน" ก่อนเดินทางต่อ
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.62 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้มอบนโยบายเน้นย้ำเรื่องความพร้อมในการให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ทุกด้าน ต้องได้รับความสะดวกและปลอดภัยในการเดินทาง ทั้งนี้หนึ่งในมาตรการของกรมทางหลวง ในการอำนวยความสะดวกและปลอดภัย เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงปีใหม่ 2563 ภายใต้สโลแกนของกระทรวงคมนาคม "ใส่ใจกำลังสาม เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยตลอดปีใหม่"
ทั้งนี้กรมทางหลวงมีมาตรการด้านการป้องกันและรณรงค์ลดอุบัติเหตุ โดยรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุ เพื่อวางแผนป้องกันลดอุบัติเหตุแก้ไขจุดเสี่ยง/จุดอันตราย ปิดจุดกลับรถ/ทางร่วมทางแยกบูรณาการร่วมบริหารการจราจรบริเวณจุดตัดรถไฟ ซึ่งปีนี้มีจุดที่ต้องเฝ้าระวังจำนวน 43 สายทาง 53 แห่ง ดังนี้
1.จุดเสี่ยงที่เกิดจากการขับเร็ว/มีกิจกรรม 2 ข้างทาง 19 สายทาง 24 แห่ง ได้แก่
1) ทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-ปากทางท่าลี่ กม.ต้น 25+000 กม.ท้าย 30+000 พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
2) ทางหลวงหมายเลข 11 อุโมงค์-กองบิน 41 กม.ต้น 550+000 กม.ท้าย 555+000 พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
3)ทางหลวงหมายเลข 11 ภาคเหนือ-ขุนตาน กม.ต้น 475+000 กม.ท้าย 480+000 พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
4) ทางหลวงหมายเลข 1 พาน-สันทรายหลวง กม.ต้น 915+000 กม.ท้าย 920+000 พื้นที่จังหวัดเชียงราย
5) ทางหลวงหมายเลข 1021 แม่ต๋ำ-บ้านใหม่ กม.ต้น 15+000 กม.ท้าย 20+000 พื้นที่จังหวัดพะเยา
6) ทางหลวงหมายเลข 22 กุรุคุ-นครพนม กม.ต้น 235+000 กม.ท้าย 240+000 พื้นที่จังหวัดนครพนม
...
7) ทางหลวงหมายเลข 212 ย้อมพัฒนา-นาโพธิ์ กม.ต้น 420+000 กม.ท้าย 425+000 พื้นที่จังหวัดมุกดาหาร
8) ทางหลวงหมายเลข 12 กลางสะพานมิตรภาพที่แม่สอด (เขตแดนไทย/พม่า)-แม่ละเมา กม.ต้น 5+000 กม.ท้าย 10+000 พื้นที่จังหวัดตาก
9) ทางหลวงหมายเลข 2 โนนสะอาด-อุดรธานี กม.ต้น 440+000 กม.ท้าย 445+000 พื้นที่จังหวัดอุดรธานี
10) ทางหลวงหมายเลข 221 แยกการช่าง-เชิงบันไดเขาพระวิหาร กม.ต้น 60+000 กม.ท้าย 65+000 พื้นที่จังหวัดหลวงศรีสะเกษ
11) ทางหลวงหมายเลข 2 สระบุรี-ตาลเดี่ยว กม.ต้น 0+000 กม.ท้าย 5+000 พื้นที่จังหวัดสระบุรี
12) ทางหลวงหมายเลข 3188 ท่าเยี่ยม-ขอนหอม กม.ต้น 0+000 กม.ท้าย 5+000 พื้นที่จังหวัดสระบุรี
13) ทางหลวงหมายเลข 321 ตอนแจง-สุพรรณบุรี กม.ต้น 100+000 กม.ท้าย 105+000 พื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี
14) ทางหลวงหมายเลข 305 ต่างระดับรังสิต-วัดนาบุญ กม.ต้น 0+000 กม.ท้าย 5+000 พื้นที่จังหวัดปทุมธานี
15) ทางหลวงหมายเลข 303 ราษฎร์บูรณะ-พระสมุทรเจดีย์ กม.ต้น 10+000 กม.ท้าย 20+000 พื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ
16) ทางหลวงหมายเลข 35 แสมดำ -สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนฝั่ง-นาโคก กม.ต้น 25+000 กม.ท้าย 35+000 พื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร
17) ทางหลวงหมายเลข 3091 อ้อมน้อย-สมุทรสาคร กม.ต้น 15+000 กม.ท้าย20+000 พื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร
18) ทางหลวงหมายเลข 4 สระพระ-ห้วยทรายใต้ กม.ต้น 200+000 กม.ท้าย 205+000 พื้นที่จังหวัดเพชรบุรี
19) หลวงหมายเลข 4 คลองจีจาง-หลุมดิน กม.ต้น 95+000 กม.ท้าย 100+000 พื้นที่จังหวัดราชบุรี
20) ทางหลวงหมายเลข 35 นาโคก-แพรกหนามแดง กม.ต้น 60+000 กม.ท้าย 65+000 พื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม
21) ทางหลวงหมายเลข 41 สวนสมบูรณ์เกาะมุกข์ กม.ต้น 110+000 กม.ท้าย 115+000 พื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี
22) ทางหลวงหมายเลข 4 ตลาดเก่า-คลองท่อม กม.ต้น 975+000 กม.ท้าย 980+000 พื้นที่จังหวัดกระบี่
23) ทางหลวงหมายเลข 402 หมากปรก-เมืองภูเก็ตกม.ต้น 30+000 กม.ท้าย 35+000 พื้นที่จังหวัดภูเก็ต
24) ทางหลวงหมายเลข 43 นาหม่อม- จะนะ กม.ต้น 20+000 กม.ท้าย 30+000 พื้นที่จังหวัดสงขลา
2.จุดเสี่ยงที่เกิดจากขับเร็วทางโค้ง 6 สายทาง 6 แห่ง ได้แก่
1) ทางหลวงหมายเลข 101 หนองห้า-สวนป่า กม.ต้น 270+000 กม.ท้าย 275+000 พื้นที่จังหวัดแพร่
2) ทางหลวงหมายเลข 1090 แม่สอด-ห้วยน้ำริน กม.ต้น 30+000 กม.ท้าย 35+000 พื้นที่จังหวัดตาก
3) ทางหลวงหมายเลข 2 มวกเหล็ก-บ่อทอง กม.ต้น 50+000 กม.ท้าย 55+000 พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
4) หมายเลขทางหลวง 340 สุพรรณบุรี-ศรีประจันต์ กม.ต้น 90+000 กม.ท้าย 95+000 พื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี
5) ทางหลวงหมายเลข 41 ควบคุมเกาะมุกข์-ควนรา กม.ต้น 130+000 กม.ท้าย 135+000 พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
6) ทางหลวงหมายเลข 406 ปากจ่า-ค่ายรวมมิตร กม.ต้น 35+000 กม.ท้าย 40+000 พื้นที่จังหวัดสตูล
3.เตือนข้ามฝั่ง (เกาะสี) 5 สายทาง 5 แห่ง
1) ทางหลวงหมายเลข 105 แม่สอด-ห้วยบง กม.ต้น 5+000 กม.ท้าย 10+000 พื้นที่ จังหวัดตาก
2) ทางหลวงหมายเลข 208 ท่าพระ-หนองสระพัง กม.ต้น 0+000 กม.ท้าย 5+000 พื้นที่จังหวัดขอนแก่น
3) ทางหลวงหมายเลข 206 ตลาดแค-วังหิน กม.ต้น 5+000 กม.ท้าย 10+000 พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา 4) ทางหลวงหมายเลข 3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน กม.ต้น 5+000 กม.ท้าย 10+000 พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
5) ทางหลวงหมายเลข 4034 ปากน้ำกระบี่-เขาทอง กม.ต้น 5+000 กม.ท้าย 10+000 พื้นที่จังหวัดกระบี่
3.จุดเสี่ยงที่เกิดจากโค้งลาดชัน 8 สายทาง 9 แห่ง
...
1) ทางหลวงหมายเลข 1095 กิ่วคอหมา-แม่นะ กม.ต้น 75+000 กม.ท้าย 80+000 พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
2) ทางหลวงหมายเลข 1020 โป่งเกลือ-บ้านปล้อง กม.ต้น 35+000 กม.ท้าย 40+000 พื้นที่จังหวัดเชียงราย
3) ทางหลวงหมายเลข 11 ปางเคาะ-ปางมะโอ กม.ต้น 415+000 กม.ท้าย 420+000 พื้นที่จังหวัดแพร่
4) ทางหลวงหมายเลข 213 สร้างค้อ-สกลนคร กม.ต้น 155+000 กม.ท้าย 160+000 พื้นที่จังหวัดสกลนคร
5) ทางหลวงหมายเลข 11 บึงหลัก-หนองน้ำเขียว กม.ต้น 350+000 กม.ท้าย 355+000 พื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์
6) ทางหลวงหมายเลข 21 หนองบง-ภูสวรรค์ กม.ต้น385+000 กม.ท้าย 390+000 พื้นที่จังหวัดเลย
7) ทางหลวงหมายเลข 4 ตรัง-เขาพับผ้า กม.ต้น 1120+000 กม.ท้าย 1125+000 พื้นที่จังหวัดตรัง
8) ทางหลวงหมายเลข 4028 ห้าแยกฉลอง-กะรน กม.ต้น 0+000 กม.ท้าย 5+000 พื้นที่จังหวัดภูเก็ต
9) ทางหลวงหมายเลข 4029 กะทู้-ป่าตอง กม.ต้น 0+000 กม.ท้าย 5+000 พื้นที่จังหวัดภูเก็ต
4.จุดเสี่ยงที่เกิดจากหลับใน 5 สายทาง 9 แห่ง
1) ทางหลวงหมายเลข 1 วังม่วง-แม่เชียงรายบน กม.ต้น 536+000 กม.ท้าย 541+000 พื้นที่จังหวัดตาก
2) ทางหลวงหมายเลข 340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ต้น 49+500 กม.ท้าย 51+500 พื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี
3) ทางหลวงหมายเลข 1 ประตูพระอินทร์-หนองแค กม.ต้น 70+000 กม.ท้าย 73+000 พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
4) ทางหลวงหมายเลข 4 วังยาว-หนองหมู กม.ต้น 265+000 กม.ท้าย 269+000 พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
5) ทางหลวงหมายเลข 4 หนองหมู-ห้วยยาง กม.ต้น 298+000 กม.ท้าย 303+000 พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
6) ทางหลวงหมายเลข 37 วังโบสถ์ – ปราณบุรี กม.ต้น 33+500 กม.ท้าย 35+500 พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
...
7) ทางหลวงหมายเลข 4 นาโหนด-ห้วยทราย กม.ต้น 1191 + 500 กม.ท้าย 1193+ พื้นที่จังหวัดพัทลุง
8) ทางหลวงหมายเลข 4 ห้วยทราย-พรุพ้อ กม.ต้น 1216+5000 กม.ท้าย 1218 +500 พื้นที่จังหวัดพัทลุง
9) ทางหลวงหมายเลข 7 บางปะกง-หนองรี กม.ต้น 51+500 กม.ท้าย 53+500 ถนนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7
นอกจากนี้ นายสราวุธ ยังกล่าวอีกว่า ในจุดที่ต้องเฝ้าระวังจำนวน 43 สายทาง 53 แห่งนี้ กรมทางหลวงได้ดำเนินการแก้ไขและป้องกันจุดเสียงต่างๆ ทั้งติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ ติดตั้ง Barrier น้ำ และกรวยยาง ช่วงทางโค้ง หรือจุดที่มีความเสี่ยง จัดเตรียมเจ้าหน้าที่และรถสำหรับตรวจสอบจุดเฝ้าระวัง บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมความเร็วจุดเฝ้าระวัง โดยกรมทางหลวงแนะนำให้พักที่จุดบริการกรมทางหลวงที่ตั้งอยู่บนสายทางเนื่องจากมีความพร้อมในการรองรับทั้งที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องดื่ม รวมถึงข้อแนะนำต่างๆ
ทั้งนี้ควรหยุดพักทุก 2 ชั่วโมง แต่อย่างไรก็ตามกรมทางหลวง ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางศึกษาเส้นทางก่อนการออกเดินทาง ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารแต่พอดี รวมทั้งหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่สำคัญขอให้เคารพกฎจราจรและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้หากมีปัญหาในการเดินทาง โทรสอบถามได้ที่สายด่วน กรมทางหลวง 1586 โทรฟรี 24 ชม.