เหตุ “ฆ่าหั่นศพ” มักจะปรากฏเป็นข่าวให้ผู้คนได้พบเห็นผ่านตาอยู่หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งแต่ละคดีมักเป็นที่โจษจันและตกอยู่ในความสนใจของประชาชนเสมอ เพราะด้วยความโหดเหี้ยมที่ผู้ก่อเหตุสามารถหั่นเนื้อมนุษย์ด้วยกันได้นั้น เป็นสิ่งที่เข้าไปติดอยู่ในความรู้สึกของผู้ติดตามข่าว
เมื่อพูดถึงคดีฆ่าหั่นศพโดยทั่วไป ไม่ได้เฉพาะเจาะจงกับคดีใดคดีหนึ่งนั้น แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ให้ความเห็นกับทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์เอาไว้อย่างน่าสนใจ
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กล่าวถึงการฆ่าหั่นศพด้วยตัวคนเดียวว่า “หากจะพิจารณาว่า ผู้ก่อเหตุฆ่าหั่นศพสามารถก่อเหตุด้วยตัวคนเดียวได้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น 1. ขนาดตัวของผู้ก่อเหตุ 2. ขนาดตัวของผู้เสียชีวิต 3. อาวุธ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ และ 4. ทักษะประสบการณ์ของผู้ก่อเหตุ
...
“ถ้าถามว่า ฆ่าหั่นศพ ทำคนเดียวทำได้หรือไม่ คำตอบ คือ ทำได้อยู่แล้ว เพราะในอดีตที่ผ่านมาก็มีให้เห็นมากมายหลายคดี แต่เหนือสิ่งอื่นใด จะต้องพิจารณาจากปัจจัยทั้ง 4 ข้อที่บอกไป เพราะถ้าผู้ก่อเหตุตัวเล็ก แต่ต้องหั่นร่างผู้เสียชีวิตที่มีขนาดตัวใหญ่ ก็คงทำได้ลำบาก”
“ส่วนปัจจัยในเรื่องของทักษะประสบการณ์ ผู้ก่อเหตุอาจไม่จำเป็นจะต้องมีประสบการณ์ใดๆ มาเลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องของการทำลายศพมาเลยก็ได้ เพราะการก่อเหตุฆ่าหั่นศพอาจมีแรงจูงใจมาจากความโกรธแค้น หรือมาจากสัญชาตญาณ” แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าว
ส่วน "คดีฆ่าหั่นศพแม่" ที่เป็นข่าวใหญ่อยู่ ณ ขณะนี้ และมีผู้คนในสังคมให้ความสนใจ พร้อมตั้งข้อสงสัยในประเด็นต่างๆ หลากหลายประเด็นนั้น แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวถึงเรื่องน้ีว่า “นี่คือภาพสะท้อนว่า 1. ประชาชนไทยไม่ไว้วางใจระบบสืบสวนสอบสวนของไทย 2. ประชาชนไม่ไว้วางใจกระบวนการยุติธรรมไทย จึงเป็นที่มาที่ประชาชนต้องช่วยกันสืบและแสดงความเห็น”
“เพราะเมื่อประชาชนให้ความสนใจ ความยุติธรรมจึงเข้าถึง ฉะนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องส่องกระจก หรือพิจารณาการทำงานของตัวเองแล้วว่า มันเกิดอะไรขึ้น เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ มาจากความไม่เชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่” แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวถึงประเด็นที่หลายคนมองข้าม.