ขสมก.เตรียมเวิร์กช็อป ปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ตามนโยบาย รมว.คมนาคม ตั้งเป้า 4 ประการ ชง 21 พ.ย.นี้ มั่นแนวทางที่เสนอ ช่วยสร้างความเข้มแข็ง ขสมก.ยั่งยืน ไม่เป็นภาระรัฐบาล

เมื่อวันที่ 18 พ.ย.62 นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า ในวันที่ 21 พ.ย.นี้ เวลา 14.00 น. ขสมก.จะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เรื่อง "การปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก." ตามนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม โดยมีเป้าหมาย 4 ประการ ดังนี้

1. การแก้ไขปัญหาหนี้สินและสร้างความเข้มแข็งให้กับ ขสมก.อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหลักการที่ทำให้มีการปรับปรุงแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ใหม่ จากเดิมที่จะต้องมีการจัดซื้อรถโดยสารใหม่ 2,511 คัน ใช้งบประมาณในการจัดซื้อมากกว่า 20,000 ล้านบาท ทำให้เป็นภาระงบประมาณของประเทศ จึงเสนอให้มีการจ้างผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนมาให้บริการ แล้วนำรายได้จากการให้บริการมาจ่ายเป็นค่าจ้าง ซึ่งปัจจุบัน ขสมก.ได้ดำเนินการอยู่แล้วในหลายเส้นทาง ทั้งนี้วิธีดังกล่าวจะไม่เป็นการสร้างหนี้ให้กับ ขสมก. และไม่เป็นภาระกับภาครัฐ ที่ต้องนำเงินภาษีประชาชนมาอุดหนุนและแก้ปัญหาหนี้สิน ขสมก.

2. การยกระดับคุณภาพบริการที่ดี และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นนโยบายหลักของกระทรวงคมนาคม ซึ่งผลการศึกษาของคณะทำงาน ขสมก. พบว่า มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนได้ จากแผนฟื้นฟูเดิมที่มีแนวคิดว่าหากประชาชนเดินทาง 2 เที่ยวต่อวัน จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ วันละ 48 บาท และจะมีค่าใช้จ่ายเป็นวันละ 30 บาท เมื่อใช้บริการรถโดยสารปรับอากาศ โดยมีเงื่อนไขที่จะต้องมีการปรับเส้นทางการเดินรถ ให้เป็นระบบเชื่อมต่อสายหลักกับสายรองอย่างครบถ้วน และใช้ระบบการจัดเก็บค่าโดยสารระบบเดียวกัน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่จะนำเสนอในที่ประชุมเชิงปฏิบัติการ ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพบริการ ด้วยการใช้รถโดยสารปรับอากาศทั้งระบบ และเป็นรถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คือ NGV หรือ ไฟฟ้า เพื่อลดปริมาณมลพิษ PM 2.5

...

3. การสร้างขวัญกำลังใจที่ดีแก่พนักงาน ขสมก. และให้ความเป็นธรรมแก่พนักงาน ที่จะได้รับผลกระทบจากแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งจากการศึกษามีเพียงกลุ่มเดียว คือ พนักงานเก็บค่าโดยสาร ประมาณ 5,000 คน ซึ่งเป็นไปตามแผนฟื้นฟูที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.62 เนื่องจากรถโดยสารในอนาคตจะใช้ระบบ E-ticket ซึ่งจะต้องมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับพนักงาน อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม โดยดำเนินการอย่างนุ่มนวลร่วมกับองค์กรตัวแทนพนักงาน คือ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก. ในเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินชดเชยประมาณ 5,000 ล้านบาท และ 4. การดำเนินการด้วยระบบธรรมาภิบาล และพร้อมให้ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่แผนฟื้นฟูกิจการที่จะต้องให้ทุกฝ่ายและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและเปิดรับฟังเสียงประชาชนผู้ใช้บริการมากที่สุด

อย่างไรก็ตามทาง ขสมก.เชื่อว่าด้วยแนวทางทั้ง 4 ประการที่จะนำเสนอในที่ประชุมเชิงปฏิบัติการ ในวันที่ 21 พ.ย.นี้ จะทำให้ได้รับความคิดเห็นที่ดีจากผู้เข้าร่วมประชุม และจะได้นำแผนฟื้นฟู พร้อมทั้งข้อเสนอจากที่ประชุม มารายงานให้ประชาชนผู้ใช้บริการรับทราบผ่านทางเว็บไซต์ ขสมก. เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย และมีความมั่นใจว่าแนวทางที่นำเสนอนี้ จะเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาและสร้างความเข้มแข็งให้กับ ขสมก.อย่างยั่งยืน ไม่เป็นภาระของรัฐบาลอีกต่อไป 

"ที่สำคัญที่สุด คือ จะเป็นแนวทางที่ทำให้ประชาชนได้ใช้บริการที่ดี และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จากการศึกษาของ ขสมก. พบว่า หากแผนฟื้นฟูกิจการฉบับนี้ ได้รับความเห็นชอบให้สามารถดำเนินการได้ จะสามารถกำหนดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้ไม่เกินเดือนละ 900 บาท และหากซื้อตั๋วเดือน จะมีค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 750 บาท และรถโดยสารทุกคันจะเป็นรถโดยสารปรับอากาศที่ไม่สร้างมลภาวะทางอากาศอีกด้วย" นายสุระชัย กล่าว