(ภาพ) พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร
สถิติผู้เสพสารเสพติดทั่วประเทศที่มีอยู่ 200,000 คน แยกเป็นผู้เสพสารกลุ่มแอมเฟตามีน (ยาบ้า ยาไอซ์) 160,000-180,000 คนต่อปี คิดเป็นร้อยละ 85 เปอร์เซ็นต์ พล.ต.ท.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เปิดตัว “โครงการบำบัดรักษาผู้ป่วยติดสารกลุ่มแอมเฟตามีน ระยะที่ 1”
3 หน่วยงานหลัก โรงพยาบาลตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภายใต้แนวคิด “ผู้เสพคือผู้ป่วย” เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ติดสารกลุ่มแอมเฟตามีน เช่น ยาบ้า ยาไอซ์ ยาเค ให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบตามมาตรฐานวิชาชีพและถูกต้องตามหลักกฎหมายและหลักจริยธรรม
เพิ่มช่องทางบำบัดผู้เสพยา
พ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด กำหนดให้ผู้ที่ได้รับการตรวจพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้เสพหรือติดยาเสพติดจะต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดสารเสพติด โครงการบำบัดรักษาผู้ป่วยติดสารกลุ่มแอมเฟตามีน ระยะที่ 1 ถือเป็นอีกช่องทางเลือกสำหรับผู้เสพหรือติดสารเสพติดที่ต้องการเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการรักษาในส่วนที่เกินจากสิทธิ์การรักษาของตัวเอง ผู้เสพหรือผู้ติดสารเสพติดที่มิได้อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย แต่มีความสมัครใจที่จะเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ขอเข้าร่วมโครงการได้เช่นกัน
เปิดกว้างแก้ปัญหาสังคม
โรงพยาบาลตำรวจหวังว่าโครงการนี้จะเป็นหนึ่งแรงผลักดันให้ผู้เสพหรือติดสารเสพติดตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดและเริ่มต้นกับเส้นทางชีวิตใหม่ เป็นการทำงานในเชิงบูรณาการร่วมกันของหลายหน่วยงานในหลายมิติ
...
ในส่วนของตำรวจ สถานบำบัดรักษา ครอบครัวและชุมชน หากมีการทำงานประสานกันระหว่างตำรวจในพื้นที่กับสถานพยาบาลจะเป็นประโยชน์ในการติดตามผลการบำบัดรักษาได้ ครอบครัวที่มีผู้ติดสารเสพติดควรให้กำลังใจ ส่งเสริมให้ผู้เสพเข้าบำบัด
กรณีผู้เสพมีอาการรุนแรงอาจจำเป็นต้องเข้ารับการบำบัดรักษาแบบผู้ป่วยใน ปัจจุบันสถานบำบัดแบบผู้ป่วยในมีไม่เพียงพอเนื่องจาก สถาบันธัญญารักษ์มีเพียง 7 แห่งทั่วประเทศ มีผู้เสพสารเสพติดที่สมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาจำนวนมาก แต่สถานพยาบาลทั่วไปไม่สามารถรองรับกลุ่มผู้ป่วยที่ติดสารเสพติดได้ทั้งหมด
ส่วนผู้ที่ไม่สมัครใจเข้ารับการบำบัดมักเป็นเยาวชนที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ หากเยาวชนกลุ่มนี้ได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและทางสถานบำบัดมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง
จนเลิกใช้สารเสพติดได้และกลับเป็นคนดีของสังคม ถือเป็นสิ่งที่ดี.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th