‘เหยื่อ’ ภาค 8 หลงเชื่อ เดนคุกไม่เข็ดถูกจับ
รวบหนุ่มใหญ่สุดแสบ อ้างตัวเป็นรองผู้การ 9 อยู่สำนักงาน “บิ๊กอวบ” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.สุ่มโทรศัพท์ไปหลอกเหยื่อนายตำรวจระดับรองสารวัตรว่าสามารถช่วยเหลือเป็นสารวัตรได้ เรียกเงินเหยื่อรายละ 2-3 แสนบาท ได้เงินเข้ากระเป๋านับล้าน หลังรองผู้การ 9 ตัวจริงรู้เรื่อง ส่งชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม ตามลากคอได้ แจ้งข้อหาดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา สอบประวัติเคยถูกกองปราบฯ จับติดคุกมาแล้วจากพฤติกรรมแบบเดียวกัน แต่ไม่เข็ดหลาบออกจากคุกกลับมาก่อเหตุอีก
ตำรวจรวบ 18 มงกุฎหลอกเงินตำรวจรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 13 ก.ย. พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์ ผกก.สน.ท่าข้าม นำกำลังฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม จับกุมนายกานพล หรือกฤต กองมงคล อายุ 50 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.477/2562 ลงวันที่ 9 ก.ย.62 ข้อหาร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือแค่บางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันพยายามฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และบัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ จับกุมผู้ต้องหาได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 76 หมู่ 4 ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ จ.ลำพูน
พ.ต.อ.ธีระ เถระพัฒน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ผู้เสียหายคือ พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.น.9 เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้ามว่า มีผู้แอบอ้างนำรูปประจำตัวไปสมัครแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อหลอกลวงนายตำรวจหลายคนว่า สามารถช่วยเหลือการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งตำรวจได้ ทำให้มีผู้เสียหายหลายรายหลงเชื่อโอนเงินให้ผู้ต้องหาเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็น พ.ต.อ.สุริยาจริงๆ กระทั่งฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม สืบทราบว่า นายกานพล ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาก่อน ถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมเมื่อปี 2555 ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 8 เดือน เมื่อพ้นโทษออกมาไม่เข็ดหลาบ ยังมีพฤติกรรมแบบเดิมอีก รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนตามไปจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ในท้องที่ จ.ลำพูน
...
สอบสวนนายกานพล ผู้ต้องหายอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นพ่อค้าตระเวนขายผลไม้อยู่ในพื้นที่ภาคเหนือ เคยคลุกคลีกับพรรคพวกที่เป็นตำรวจ ตชด.มาก่อน ทำให้รู้แนวทางการวิ่งเต้นแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ไปซื้อซิมการ์ดหมายเลขโทรศัพท์ 08-2478-0347 มาใช้กับโทรศัพท์มือถือส่วนตัว ก่อนนำมาสมัครแอปพลิเคชันไลน์ในชื่อ พ.ต.อ.สุริยา และใช้รูปประจำตัวของ พ.ต.อ.สุริยา ที่หามาจากโซเชียลมีเดียตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ จากนั้นใช้วิธีสุ่มโทรศัพท์ไปตามโรงพักต่างๆหลอกลวงนายตำรวจสัญญาบัตร อ้างตัวเป็นนายตำรวจระดับสูงปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงาน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. สามารถช่วยเหลือเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายได้ เมื่อเหยื่อตายใจหลงเชื่อจะใช้แอปพลิเคชันไลน์ทักไปหาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ที่ผ่านมาทำสำเร็จมาแล้ว 4 ครั้งได้เงินครั้งละ 200,000-300,000 บาท เงินที่ได้นำมาเที่ยวเตร่และใช้จ่ายจนหมด
ต่อมา พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.น.9 ที่ถูกแอบอ้างเดินทางมาสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตนเอง กล่าวว่า ยืนยันตนไม่เคยรู้จักผู้ต้องหารายนี้มาก่อน ก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือน ส.ค. มีผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่ จ.สุราษฎร์ธานี โทรศัพท์มาสอบถามว่า ตนใช้เบอร์โทรศัพท์กับแอปพลิเคชันไลน์เบอร์เดิมหรือไม่ เพราะมีคนแอบอ้างตัวเป็น พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว โทรศัพท์ไปหาพนักงานสอบสวนที่โรงพักแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี อ้างว่าสามารถช่วยเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายได้ พอตนนำเบอร์โทรศัพท์ของคนแอบอ้างมาทดลองแอดไลน์ ปรากฏว่ารูปโปรไฟล์เป็นรูปตนที่ถ่ายไว้เมื่อปี 2560 พอทราบว่าเป็นการนำรูปไปแอบอ้างและน่าจะได้รับความเสียหายแน่นอนแล้ว เข้าแจ้งความ สน.ท่าข้าม ให้ฝ่ายสืบสวนแกะรอยล่าตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี
“จากการตรวจสอบเงินในบัญชีของผู้ต้องหาพบว่า มีเงินหมุนเวียนนับล้านบาท ที่ผ่านมาผู้ต้องหารายนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ บช.ภ.5 แต่จะสุ่มโทรศัพท์ติดต่อไปหาตำรวจสัญญาบัตรระดับรองสารวัตร ตำแหน่งร้อยตำรวจเอกที่กำลังจะขึ้นสารวัตรในพื้นที่ บช.ภ.8 ให้ไกลจากภูมิลำเนาตัวเอง เชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายหลงเชื่อหลายรายจากหลายสิบโรงพัก แต่คงไม่มีใครกล้าเข้าแจ้งความ ในฐานะเป็นผู้เสียหายที่โดนแอบอ้างจะดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งแพ่งและอาญากับผู้ต้องหารายนี้อย่างถึงที่สุด” พ.ต.อ.สุริยากล่าว