สะเทือนใจคนทั้งประเทศ เมื่อมีการเผยแพร่ข่าว ไอ้โหดลงมือฆ่าปาดคอ 2 ตายายเจ้าของร้านขายของชำใน จ.ปราจีนบุรี จากนั้นได้ทิ้งศพไว้ในห้องเช่านานหลายวัน กว่าจะมีคนไปพบ ซ้ำร้ายที่สุดคือ อดีตผู้ต้องหารายนี้ เป็นเพื่อนข้างห้องของตายาย แถมเคยก่อคดีฆ่าพี่ชายแท้ๆ ของตนเองและเพิ่งจะพ้นโทษจากเรือนจำได้ไม่นานนัก  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ยกตัวอย่างเทียบเคียง โอกาสเป็นไปได้สูงไหมสำหรับอดีตผู้ต้องหาที่กลับมาก่อคดีซ้ำใหม่ พร้อมเปิดสัมภาษณ์อดีตผู้ต้องหาหนุ่ม เคยต้องโทษจำคุกคดีพยายามฆ่า และคดี ยาเสพติด ถูกจับกุมทั้งสิ้น 3 ครั้ง ปัจจุบันออกมาใช้ชีวิตปกติอยู่ในโลกภายนอก ประกอบอาชีพค้าขายลำพังจากเงินสนับสนุนของคนในครอบครัว "นายไก่" (นามสมมติ) เปิดทุกความรู้สึกที่มาที่ไป อะไรดลใจให้กระทำผิดเข้าไปติดคุกถึง 3 ครั้ง ก่อนจะพ้นโทษออกมาประกอบอาชีพสุจริต รวมไปถึงการให้ข้อมูลของตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เรื่องของอดีตนักโทษที่ออกมาก่อคดีซ้ำๆ 

บางรายลงมือฆ่าเพราะ "จำเป็น" บางรายก็ทำเพราะ "สันดาน" 

"ติดคุกรอบแรกผมไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นการเล่นกับเพื่อน ถือปืนขู่กันเล่นๆตามประสาวัยรุ่นเพื่อนในกลุ่ม จากนั้นลองลั่นไกปืนเพราะคึกคะนอง ปรากฏว่าลูกปืนโดนเพื่อนเจ็บสาหัส ทำให้ผมตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่า กระทั่งพ้นโทษออกมาใช้ชีวิตอยู่ภายนอกสักระยะ ผมถูกจับคดีเสพ ติดคุกไปอีกประมาณ 5-6 ปี แล้วออกมาเปิดร้านขายอาหาร จนสุดท้ายเมื่อปลายปี 2561 เพื่อนสนิทผมถูกจับข้อหาขายยา ผมจึงโดนร่างแหเพราะถูกตรวจเจอว่ามีสารเสพติดในร่างกายเนื่องจากเสพด้วย จำคุกเพียง 5 เดือน ก็พ้นโทษอีกครั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา" 

...

นายไก่ ย้อนเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เราฟังว่า เรื่องทุกอย่างมันเริ่มต้นจากการผิดพลาดตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อสมัยวัยรุ่น เมื่อชีวิตถูกดึงไปสู่วงจรคนรอบตัวที่พร้อมจะชักนำเราไปสู่พฤติกรรมที่คล้ายคลึงกัน คนที่ใจไม่แข็งพอ จึงเดินหลงเข้าไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งตนเองเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น

"คุกไม่ใช่สวรรค์ คุกเหมือนนรกดีๆ นี่เอง ต้องจำทน อดทนอยู่ใช้ชีวิตให้ผ่านไปวันๆ การใช้ชีวิตในคุกหายใจทิ้งไปวันๆ คนที่เคยติดคุกแล้ว แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเข้าไปติดซ้ำอีก ในส่วนของผมยอมรับว่าทำผิดซ้ำซาก และเป็นความผิดที่ไม่น่าให้อภัยเลย การกลับเข้าไปอยู่ในคุกครั้งล่าสุดได้ทบทวนหลายๆ อย่างและบอกกับตัวเองว่าจะเลิกทำสิ่งผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด เพราะผมเสียสิ่งที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ มันเหมือนฝันร้าย และบอกกับคนในครอบครัวว่า มันจะไม่มีเรื่องราวแบบนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว" 

นายไก่ แสดงความคิดเห็น ถึงเรื่องของผู้ต้องหาคดีฆ่าที่พ้นโทษมาแล้วก่อเหตุซ้ำว่า "เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของแต่ละบุคคล จะเหมารวมว่าคนที่มีประวัติ มีคดีจะมีพฤติกรรมซ้ำๆ เดิมๆ เหมือนกันทั้งหมดคงไม่ใช่ เพราะหลายคนพ้นโทษมาก็เป็นคนดี ทำมาหากินสร้างครอบครัว ซึ่งก็อยู่ที่ว่าคนรอบข้างพร้อมที่จะให้โอกาสเขาหรือเปล่า ส่วนคนที่พ้นโทษมาแล้วก่อคดีซ้ำๆ น่าจะเกิดจาก 1. ความจำเป็น 2. ความชินชา และ 3. สันดานที่ติดมากับตัว ในฐานะที่ผมก็รู้จักผู้ต้องหาคดีฆ่ามา หลายคนที่พ้นโทษไปเขาก็ปรับตัวเป็นคนดีของสังคมได้ ส่วนคนที่ยังทำซ้ำๆ เขาก็ต้องกลับเข้าไปลงนรก ไปชดใช้ชีวิตในคุก เหมือนที่ผมเคยเข้าไปอยู่ในนั้นคดีเสพ" นายไก่ ให้ข้อมูลทิ้งท้ายกับเรา 

ตำรวจ "พบบ่อย" จับผู้ต้องหาก่อคดีซ้ำๆ โดยเฉพาะเรื่องฉ้อโกง 

พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาในส่วนของตนเอง เคยจับผู้ต้องหาหลายคดี โดยเฉพาะคดีฉ้อโกง หรือคดีที่จำคุกไม่นาน ซึ่งก็พบว่า ที่ผ่านมาผู้ต้องหาหลายคนเคยมีประวัติฉ้อโกงมาก่อน บางคนพ้นโทษคดีเก่ามาแล้วแต่มาก่อคดีในลักษณะเดิมซ้ำๆ ในขณะที่บางคนมีหมายจับติดตัวหลายคดีในลักษณะเดียวกัน ถือว่าเกิดขึ้นเป็นปกติ ในส่วนของคดีฆ่าก็มีเช่นกันแต่มีไม่มาก ยกตัวอย่างมีอยู่เคสหนึ่ง ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุฆ่าแฟนสาวอายุ 14 ปี ในขณะที่ตัวเขาเองอายุเพียง 18 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาไม่นานนัก ก็ลงมือก่อเหตุฆ่าเกย์หนุ่มอีกครั้ง 

"ปัจจุบันหากเปิดให้ประชาชนสามารถเข้าเช็กประวัติอาชญากรรม หรือหมายจับได้ทั่วถึง ยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก เนื่องจากเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หากมีความจำเป็นที่จะรับพนักงานเข้าบริษัท หรือรับคนทำงานบ้าน โดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เพื่อเป็นการป้องกันขั้นแรกนั้น นำรายชื่อของบุคคลเหล่านั้นส่งไปตรวจสอบยังกองทะเบียนประวัติอาชญากรรม ซึ่งทุกคนสามารถทำได้" 

...

ผู้ต้องหาคดีฆ่า ออกมาเป็นคนดีก็มาก - ผู้ต้องหาฉ้อโกง ลักวิ่ง ชิงปล้น มักทำผิดซ้ำๆ  

นายนที จิตสว่าง อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นักอาชญาวิทยา กระบวนการยุติธรรม ราชทัณฑ์ และการวิจัยเชิงคุณภาพ ให้ข้อมูลกับเราถึงเรื่องดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาผู้ต้องหาคดีร้ายแรง มักจะไม่ค่อยออกมาก่อคดีซ้ำ เนื่องจากโทษสูงติดคุกยาว เรียกได้ว่าเป็นส่วนน้อยหากเทียบกับผู้ต้องหาเคสอื่นๆ นานๆ จะมีสักคน 

"แต่ผู้ต้องหาที่ก่อคดีลัก วิ่ง ชิง ปล้น ฉ้อโกง ฯลฯ หรือคดีอื่นๆ ที่ไม่ใช่คดีฆ่าจะมีสถิติที่กลับมาก่อเหตุอาชญากรรมสูงกว่า และจะทำพฤติกรรมซ้ำๆ ติดคุก 2-3 ปี ก็ออกมาก่อเหตุอีก ซึ่งแน่นอนว่ากฎหมายมันระบุโทษไว้แบบนี้ ซึ่งในความเป็นจริงคนที่กระทำความผิดโดยสันดานและออกมาสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในสังคม เราควรกันออกไปให้ห่าง เพราะถือว่าเป็นนิสัยที่ยากต่อการแก้ไข"

นายนที จิตสว่าง บอกด้วยว่า ที่ผ่านมาก็มีในเคสที่เคยติดคุกคดีลักทรัพย์ ออกมาก็ทำผิดเรื่องยาเสพติด กลับเข้าไปติดคุกใหม่ พอพ้นโทษอีกครั้งก็กลับมาก่อคดีฆ่าคนตาย แบบนี้ก็พบบ่อย ในส่วนของผู้ต้องหาที่เคยก่อคดีฆ่าพี่ชาย แล้วออกมาฆ่าสองตายายตาย สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องรับโทษหนักติดคุกตลอดชีวิต ไม่ควรให้ออกมาเดินปะปนกับคนภายนอกอีกเพราะค่อนข้างอันตราย 

"ที่ผ่านมานักโทษคดีร้ายแรงอย่างฆ่าคนตาย บางคนก็ฆ่าเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ฆ่าเพราะป้องกันตัว ฯลฯ ที่ผ่านมาพบว่าเมื่อพ้นโทษก็อายุมากแล้ว ออกมาใช้ชีวิตปกติกับลูกเมีย ช่วยกันทำมาหากินเป็นคนดีของสังคม แบบนี้มีเยอะกว่ากลับไปก่อคดีซ้ำใหม่" 

...

สถิติอดีตผู้พ้นโทษกลับมาก่อคดีติดคุกซ้ำ 

ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ให้ข้อมูลว่า ผู้พ้นโทษย้อนกลับมาติดคุกใหม่ 12% ทั้งนี้นับเฉพาะผู้ที่ใช้ชื่อ-นามสกุลเดียวกัน และซ้ำคุกเดิม ไม่นับรวมผู้ที่ใช้ชื่อ-นามสกุลปลอม และติดคุกอื่น (ยังไม่มีระบบฐานข้อมูลหรือพิมพ์ลายนิ้วมือร่วมทุกคุก) นอกจากนี้ยังไม่รวมพวกติดคุกเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หากนับเฉพาะพวกค้ายาเสพติดที่ยังอาจเกี่ยวเนื่องกับการปล้นจี้ลักทรัพย์ การติดคุกซ้ำอาจสูงถึงหนึ่งในสามก็ได้ แสดงว่าการปล่อยคนคุก อาจไม่ใช่ทางแก้ที่ดี

"ทั้งนี้นับจากเดือนพฤษภาคม 2557 - พฤษภาคม 2562 ปรากฏว่าจำนวนคนคุกเพิ่มขึ้นมหาศาล โดยในเดือนพฤษภาคม 2557 มีจำนวนคนคุกหรือผู้ต้องราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 296,727 ราย แต่พอมาในเดือนพฤษภาคม 2562 กลับมีจำนวนเพิ่มเป็น 386,902 รายหรือเพิ่มขึ้น 90,175 รายหรือเท่ากับเพิ่มจำนวนขึ้นถึง 30% หรืออีกราว 1/3 เลยทีเดียว" 

ดร.โสภณ พรโชคชัย บอกด้วยว่า การเพิ่มขึ้นของคนคุกแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศคงย่ำแย่ หลายคนจึงไปประกอบอาชญากรรม แสดงให้เห็นว่าตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาของ คสช. (พ.ศ.2557-2562) เศรษฐกิจในภาคประชาชนกลับยากจนตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย ยิ่งอาชญากรรมเพิ่มขึ้น โอกาสคนเข้าคุกยิ่งมากขึ้น อย่างไรก็ตามตัวเลขข้างต้นนี้ยังถือว่าน้อย เพราะเรามีคุกไม่มาก 

...