กทม.ปิ๊งไอเดียสร้างถนนเลียบชายทะเลบางขุนเทียนเชื่อม"สมุทรปราการ-สมุทรสาคร" หวังส่งเสริมการท่องเที่ยว อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ยกสะพานเลียบชายทะเลชลมารควิถีชลบุรี เป็นโมเดลต้นแบบ...

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ส.ค. นายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วยนายณรงค์ เรืองศรี ผอ.สำนักการระบายน้ำ นายสมชาย เดชากรณ์ ผอ.สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง นายไทวุฒิ ขันแก้ว รองผอ.สำนักการโยธา นายกิติศักดิ์ อร่ามเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) นายมานิต เตชอภิโชค กรรมการผู้อำนวยการ เคที นายพลเฉลิม ศรมณี ผอ.สำนักงานเขตบางขุนเทียน ตัวแทนสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ศึกษาดูงานสะพานเลียบชายทะเลชลมารควิถี จ.ชลบุรี โดยมีผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดชลบุรี บรรยายความเป็นมาของโครงการดังกล่าวที่ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรม เพื่อกทม.จะได้นำไปเป็นแนวทางจัดทำโครงการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนต่อไป

นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า กรุงเทพฯ มีพื้นที่ติดทะเลคือเขตบางขุนเทียน ซึ่งมีพื้นที่ติดชายทะเล ประมาณ 4.7 กิโลเมตร กทม.มีแนวคิดที่จะจัดทำโครงการถนนเลียบชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน เพื่อเชื่อมต่อกับจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดสมุทรสาคร เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติบริเวณป่าชายเลนบางขุนเทียน รวมทั้งสร้างโอกาสการเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน ซึ่งการพัฒนาพื้นที่บางขุนเทียน มีการพูดคุยกันมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโครงการที่เป็นรูปธรรม การศึกษาดูงานครั้งนี้ จะเป็นแนวทางในการพิจารณาดำเนินโครงการลักษณะดังกล่าวในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำข้อมูลไปพิจารณาและนำมาเสนอ โดยตนจะเชิญหน่วยงานมาประชุม เพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง ก่อนจะเชิญจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดสมุทรสาคร มาร่วมกันบูรณาการการทำงานเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

...

สำหรับโครงการก่อสร้างสะพานเลียบชายทะเลชลมารควิถี สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดชลบุรี มีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจร ซึ่งโครงการดังกล่าวได้บรรจุอยู่ในการวางผังเมืองรวมจังหวัดชลบุรีตั้งแต่ฉบับแรก และมีการปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นผังเมืองรวมจังหวัดชลบุรี ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมครั้งที่ 3 โดยโครงการดังกล่าว มีระยะทาง รวม 6,990 เมตร ระยะห่างจากฝั่ง ประมาณ 200 เมตร ตอม่อเป็นรูปแบบกลมสามารถต้านแรงลมได้อย่างเหมาะสม และไม่กีดขวางทางเดินน้ำ ความกว้างของถนน ตั้งแต่ 17-23 เมตร ความสูง 4 เมตร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 5 ช่วง แล้วเสร็จ 2 ช่วง อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 3 ช่วง โดยใช้งบประมาณของเทศบาล อบจ.ชลบุรี สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดชลบุรี ประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ก่อนทำการก่อสร้าง ได้สูญเสียพื้นที่ป่าชายเลนไป 4 ไร่ ภายหลังจากก่อสร้างแล้วเสร็จได้ปลูกป่าชายเลนเพื่อคืนพื้นที่เพิ่มเป็น 100 ไร่ ซึ่งพบว่าธรรมชาติมีความสมบูรณ์มากกว่าเดิม มีการงอกตกตะกอนเพิ่มขึ้น สามารถป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเลได้ อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างดังกล่าวไม่ได้เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาการจราจรเท่านั้น แต่กลับทำให้จ.ชลบุรี มีทัศนียภาพสวยงาม เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันยังได้พื้นที่ป่าชายเลนเพิ่มขึ้น.