หลังเครือข่ายแผงลอยร้องนายก
จากกรณีเครือข่ายแผงลอยไทยเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอให้พิจารณาดำเนินการใน 3 ข้อ คือ
1.เร่งรัดแต่งตั้งผู้รับผิดชอบดูแลการแก้ปัญหาหาบเร่แผงลอยอย่างเร่งด่วน เพราะการยกเลิกการค้าหาบเร่แผงลอยใน กทม.ส่งผลกระทบต่อผู้ค้าหาบเร่แผงลอยและผู้บริโภค
2.ในการจัดระเบียบแผงลอยในกรุงเทพฯ ขอให้รัฐบาลกำหนดให้ผู้ค้า ผู้ซื้อ ผู้ใช้ทางเท้าชุมชน นักวิชาการ สำนักงานเขต และผู้ที่เกี่ยวข้อง มีส่วนร่วมในการกำหนดกติกาในการจัดระเบียบตามบริบททางกายภาพ และตามเงื่อนไขของแต่ละพื้นที่ให้เกิดความเหมาะสม
3.ขอให้จุดที่ทำการค้าซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว ที่เป็นจุดผ่อนผัน ได้รับโอกาสในการทบทวนและพิจารณาใหม่จากรัฐบาล ตามหลักเกณฑ์ที่มีการกำหนดร่วมกันจากทุกภาคส่วนโดยเท่าเทียม
เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ขณะนี้ กทม.ยังไม่มีนโยบายในการทบทวนจุดผ่อนผันที่ได้ยกเลิกไปแล้ว และจุดที่จัดระเบียบไปแล้วคงไม่อนุญาตให้กลับมาขายได้อีก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลที่จะพิจารณาเรื่องนี้อย่างไร แต่หลายจุดให้กลับมาขายไม่ได้จริงๆ เพราะกระทบต่อการจราจรมาก ขณะจุดที่อนุญาตให้ทำการค้าขายได้ ส่วนใหญ่เป็นจุดเด่น เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น ที่ถนนข้าวสาร เยาวราช เนื่องจากเป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาจุดผ่อนผัน มีคณะกรรมการในการพิจารณา ซึ่งไม่ได้มีแต่ กทม.หน่วยเดียว มีตำรวจและหน่วยอื่นๆด้วย ขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยก็มีคณะกรรมการในการพิจารณาเรื่องนี้เพื่อความเหมาะสม ส่วนการช่วยเหลือผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบ ที่ผ่านมา กทม.พยายามหาที่ค้าขายให้ใหม่ แต่ผู้ค้าไม่เอาและอยากขายที่เดิม ซึ่ง กทม.ให้ไม่ได้ ทั้งนี้ อยากให้มองประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า.
...