ประธานนปช. วอน ตร.จับผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดป่วนกรุงเทพฯ ให้สำเร็จ แนะรัฐอย่าแทรกแซง หากจับไม่ได้เหมือนปี 49 และ 57 ก็จะเป็นสิ่งที่มีไว้สำหรับสาดโคลนใส่กัน แฉมีบึมปุ๊บ จนท.มาถ่ายรูปทันที

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2562 ที่ร้านกาแฟพีซคาเฟ่ ศูนย์การค้าอิมพีเรียลลาดพร้าว กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนมากเดินทางไปร่วมกิจกรรมต่อลมหายใจพีซทีวี ที่มี "ทอม ดันดี" หรือ นายธานัท ธนวัชรนนท์ วัย 60 ปี อดีตดาราและนักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง เดินทางมาร้องเพลงขับกล่อม

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า วันนี้วิเคราะห์เรื่องเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เพราะ ผบ.ทบ.และ ผบ.ตร. หยิบยกมาเทียบเคียงกับ 2 กรณี คือเหตุระเบิดเมื่อปี 2549 และปี 2557 หลายปีที่ผ่านมาระเบิดที่เกิดมักถูกหยิบยกมาเป็นเครื่องมือทำลายกันทางการเมือง ไม่ได้มีการแสวงหาข้อเท็จจจริงอย่างที่ควรจะเป็น เช่น เหตุระเบิดวันส่งท้ายปีเก่า 31 ธ.ค.49 เกิดหลังการยึดอำนาจ 19 ก.ย.49 แต่ไม่สามารถจับคนร้ายได้ เพราะเป็นระเบิดที่ไม่ได้มุ่งหมายชีวิตต้องการแค่ผลลัพธ์ทางการเมือง เมื่อปี 57 ก็เช่นกัน เกิดระเบิดในภาคใต้ มีการจับกุมคนชราที่แม้แต่ถือระเบิดก็ยังไม่มีปัญญาสุดท้ายก็ปล่อยตัวไป แน่นอนระหว่างนั้นแต่ละฝ่ายก็หยิบฉวยเหตุการณ์นี้ว่าเป็นฝีมือของอีกฝ่ายหนึ่ง

“ครั้งนี้ทำกันอย่างตรงไปตรงมาสักครั้งได้หรือไม่ ไม่เอาแพะ หรือเป็นแค่เรื่องการเมืองได้หรือไม่ ที่ควรต้องระวังคือถ้าไปบอกว่าผู้ทำมาจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็เหมือนเป็นการชี้ว่ามีการปฏิบัติการข้ามมาถึงกรุงเทพแล้ว แบบนี้เศรษฐกิจซึ่งกำลังพินาศอยู่จะยิ่งย่อยยับ ขอสักครั้งทั้งสองฝ่าย รัฐบาลก็ไม่ต้องแทรกแซงปล่อยเป็นไปตามกระบวนการสืบสวน คนที่เป็นผู้ต้องหาก็ควรได้รับสิทธิ์ แล้วพิสูจน์กันว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่เลวทรามต่ำช้า มิฉะนั้นสถานการณ์แบบนี้จะถูกหยิบฉวยมาใช้งานท่ามกลางความหายนะของประเทศ เมื่อ 2-3 วันก่อนมีคนบอกเล่าว่า เจ้าหน้าที่มาสถานีพีซทีวีกันจำนวนมาก พร้อมกับบันทึกภาพ“ ประธาน นปช.กล่าว

...

นายจตุพร กล่าวด้วยว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ พวกเราแทบไม่ต้องทำอะไร รัฐบาลทำตัวเองหมดทั้งจากเรื่องการแถลงนโยบาย ที่ผิดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีการชี้แจงรายได้ที่จะมาดำเนินโครงการ และการกล่าวถวายสัตย์ฯ ของนายกฯ และ ครม.ที่ไม่ครบถ้วน ซึ่งถ้าเป็นรัฐบาลอื่นก็คงต้องออกจากตำแหน่งไปแล้ว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฝ่ายค้าน สิ่งที่เราต้องตั้งหลักและมุ่งมั่น คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญปี60 ถึงแม้ยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา แต่ถ้ากระแสประชาชนแรงเหมือนสมัยพฤษภาคม 2535 ก็ทำได้ ยิ่งเศรษฐกิจเป็นแบบนี้และคนที่เข้ามาบริหารทีมเศรษฐกิจเป็นคนเดิม สถานการณ์ที่เกิดตอนนี้ ยิ่งรุกยิ่งช้ายืนดูดีกว่ารุก ไม่มีใครทำลายรัฐบาลได้ดีเท่าตัวรัฐบาลเอง แค่สตาร์ตเครื่องก็พังไปสองเกียร์แล้ว.