อีกรายตามจับสาว ได้ยาบ้า2.1ล้านเม็ด
ปส.เปิดยุทธการสยบไพรี 62/9 “สาวสวย สังหาร” ลุยค้น 8 จังหวัด จับ 4 ผู้ต้องหาร่วมสมคบคิด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด พร้อมอายัดทรัพย์สิน บ้าน รถยนต์ มูลค่ารวม 20,700,000 บาท บิ๊กอวบเผยขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาลดความอ้วนเมื่อช่วงต้นปี แฉ 1 ในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเป็นหมอเจ้าของคลินิกที่เมืองสองแคว อีก 3 คนเป็นตัวกลางระหว่างนายทุนกับแพทย์ สั่งจ่ายยามีฤทธิ์ต่อจิตประสาทและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ลอบนำมาขายในช่องทางออนไลน์ ด้านนครบาลจับสาววัย 26 ปี พร้อมยาบ้า 2.1 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 83 กก. เคตามีนอีก 25 กก.
ปส.ลุยไม่เลิก จับเพิ่มเครือข่ายยาลดความอ้วนมรณะ โดยเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 1 ส.ค. พล.ต.ท. ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พ.ต.อ.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบก.ปส.1 บช.ปส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ สยบไพรี เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 8/189 ภายในหมู่บ้านเพฟ รามอินทรา-วงแหวน แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ มี น.ส.จารุวรรณ หรือทิพ แย้มศรี เป็นผู้รับหมาย และนำตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ก่อนจับกุมตามความผิด พ.ร.บ.ยาเสพติด
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ อย. เดินทางมาสมทบ ที่บ้านหลังดังกล่าว ร่วมกันแถลงผลการตรวจค้น 16 จุด 17 เป้าหมายใน 8 จังหวัด ตามยุทธการสยบไพรี 62/9 “สาวสวย สังหาร” พร้อมจับกุม น.ส.จารุวรรณ หรือทิพ แย้มศรี อายุ 33 ปี น.ส.ขนิษฐ์สีนี เจนกิจกุลเกษม อายุ 30 ปี นายอดิศร ส่งเสริมธนะ อายุ 30 ปี และ น.ส.พัชรา ชิราวัฒน์ อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 6 มิ.ย.62 ข้อหาสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน อายัดทรัพย์สินเป็นบ้าน 4 หลัง รถยนต์ 3 คัน รวมมูลค่า 20,700,000 บาท
...
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ ขยายผลการจับกุมเครือข่ายยาลดความอ้วนจากปฏิบัติการ “ยาสวยสังหาร 1” เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สามารถออกหมายจับผู้กระทำผิด 7 ราย ผลตรวจค้นในวันนี้จับกุมผู้ต้องหาได้ 4 ราย โดย น.ส.จารุวรรณที่ถูกจับกุมวันนี้ เป็นลูกน้อง น.ส.วิไรรัตร อุตทอง นายทุนเครือข่ายยาลอตแรก ทำหน้าที่จัดหาแพทย์ พร้อมทำเอกสารเวชระเบียนผู้ป่วย และนำเงินจ่ายให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง 1 ในนั้นคือนายอดิศร เจ้าของคลินิกอดิศรเวชกรรมที่ลักลอบเบิกจ่ายยาอันตราย อยู่ จ.พิษณุโลก ก่อนจะย้ายที่ทำการ และถูกจับได้ที่ จ.ชลบุรี รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ได้จากการตรวจตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ในเครือข่ายทั้ง 2 ครั้ง รวม 57,557,500 บาท
ขณะที่ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.กล่าวเสริมว่า พฤติกรรมของขบวนการนี้จะมีกลุ่มนายทุนใหญ่ไปว่าจ้างแพทย์ให้หาแพทย์ที่เพิ่งจบใหม่ หรือที่เปิดคลินิกเสริมความงามตามต่างจังหวัด ให้สั่งยาลดความอ้วนจาก อย. แต่จะทำเอกสารเท็จว่าจะนำมาใช้ในคลินิกของตัวเองที่เปิดอยู่ เมื่อได้ยามาแล้วจะส่งให้กับแพทย์ที่สั่งการ และส่งให้นายทุนนำไปขายต่อตามในช่องทางออนไลน์ จะมีราคาขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัว กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 ที่ถูกจับกุมในวันนี้ เป็นนายทุน 3 ราย และแพทย์อีก 1 ราย คือนายอดิศร หลบหนีการจับกุมอีก 3 ราย ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งหมดปฏิเสธ และขอให้การพร้อมทนายในชั้นศาล เบื้องต้นนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.1 ขยายผลตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ และติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ อย. กล่าวว่า สำหรับตัวยา อย.เป็นผู้ผูกขาดที่ได้รับการอนุญาตให้จำหน่ายเพียงผู้เดียวเท่านั้น ก่อนหน้านี้พบว่ากลุ่มเครือข่ายยาจะลอบนำชื่อคนตายมาใช้เบิกจ่ายยาโดยตอนนี้ได้ปรับระบบให้ผู้เบิกยานำบัตรประชาชนมายืนยันตัวตนเท่านั้น ต่อจากนี้จะสั่งระงับคลินิกที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายให้หยุดจำหน่ายยาดังกล่าว พร้อมทั้งส่งรายชื่อแพทย์ผู้กระทำผิดไปให้แพทยสภาพิจารณาความผิดเพิกถอน หรือพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแล้ว สำหรับตัวยาที่พบในวันนี้ มีชื่อว่าดูโรมีน (duromine) และแพนบีซี (panbesy) กำลังมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังพบยาชนิดใหม่คือลอคาเซริน ในเดือนนี้จะนำเสนอคณะกรรมการวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 ให้ขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายต่อไป หากมีผู้ลักลอบนำมาจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จะต้องโทษปรับสูงสุด 2 ล้านบาท และจำคุกสูงสุด 20 ปี
ต่อมาเวลา 12.30 น. วันเดียวกัน ชุดสยบไพรีคุมตัวนายอดิศร ส่งเสริมธนะ อายุ 30 ปี แพทย์เจ้าของคลินิกใน จ.ชลบุรี เครือข่ายลอบจำหน่ายยาลดความอ้วนหลังจับกุมตัวได้ที่บ้านพักที่ จ.ชลบุรีมาสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยา เสพติด (บช.ปส.) โดยมี พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.ร่วมสอบปากคำ
พล.ต.ท.ชินภัทรกล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวน พบว่า นายอดิศร เป็นแพทย์ที่มีใบประกอบโรคศิลป์ แต่ไม่สังกัด รพ. ใด โดยออกมาเปิดคลินิกเป็นของตนเองมาเป็นเวลานาน และเป็นคนสั่งเบิกจ่ายยาให้กับกลุ่มนายทุนเพื่อนำไปขายต่อ จากการสอบสวนนายอดิศรรับสารภาพว่าได้ไปเบิกจ่ายยาลดความอ้วนออกมาจำหน่ายจริง โดยมี น.ส.จารุวรรณ หรือทิพ แย้มศรี อายุ 33 ปี ตัวกลางประสานงานระหว่างกลุ่มทุนและแพทย์ ซึ่งถูกจับกุมได้เมื่อช่วง เช้ามืดคาบ้านพักย่านสายไหม เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง และเริ่มเข้ามาทำตั้งแต่ช่วงต้นปี รับค่าจ้างเป็นลอตๆ หรือรายเดือน โดยนายอดิศรยังอ้างว่าปัจจุบันได้เลิกกิจการคลินิกไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตำรวจได้จับกุมหมอในเครือข่ายไปแล้ว 3 ราย จากนี้จะขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดที่เหลือมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก ส่วนนายอดิศรหลังจากสอบสวนเสร็จเจ้าหน้าที่นำตัวเข้าห้องควบคุมเพื่อนำตัวไปฝากขังในวันที่ 2 ส.ค.
จากนั้นเวลา 11.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าว พ.ต.อ.คมกฤช สุขไทย ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.วิชัย สนสกุล รอง ผกก.สส.บก.น.8 จับกุม น.ส.ศุภลักษณ์ หรือแฮ็ค หรือซีเอี่ยมทวี อายุ 26 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 50/85 หมู่บ้านศศิธร ถนนบางบอน 3 แขวงและเขตบางแค กทม. ข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมของกลางยาบ้า 2,158,000 เม็ด ยาไอซ์หนัก 83 กก. ยาเคหรือเคตามีน หนัก 25 กก. รถเก๋งนิสสัน อัลเมร่า สีขาว ทะเบียน 2 กอ 2150 กรุงเทพมหานคร และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง
...
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า คดีนี้จับกุมได้เมื่อเช้ามืดวันที่ 31 ก.ค. ขณะขับรถเก๋งของกลาง มาจอดริมถนน ในหมู่บ้านสินวงศ์ การ์เด้น ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. ก่อนนำยาไอซ์ 2 กก.มาวางทิ้งไว้ในพงหญ้าข้างทาง ก่อนขยายผลตรวจค้นบ้าน 2 หลังที่เช่าไว้ในหมู่บ้านสินวงศ์ การ์เด้น เลขที่ 999/827 และที่บ้านเลขที่ 2 ซอยอัสสัมชัญ 13 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. ในราคาเดือนละ 7,000 บาท และ 10,000 บาท ตามลำดับ โดยรับจ้างเฝ้าและส่งยาเสพติดจากนายบัง หรือวุฒิ แฟนเก่าที่ยังหลบหนี ได้เงินเดือนละ 20,000 บาท เริ่มทำตั้งแต่เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง บช.ปส.ดำเนินคดี พร้อมเร่งขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการต่อไป