2 สาว ร้อง ป.ป.ช.สอบฮั้วประมูลถนนยางพารา หลังกลิ่นทุจริตโชยจนได้เรื่อง แฉคนมีสีเกี่ยวข้อง ชาวบ้านโอดถูกบังคับข่มขู่
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2562 น.ส.สุพัตรา นามลักษณ์ และ น.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์ ได้เดินทางมายื่นหนังสือที่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมี นายธนิต สุวรรณากาศ หัวหน้ากลุ่มปฏิบัติการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นผู้รับเรื่อง เพื่อตรวจสอบกรณีทุจริตฮั้วประมูล ล็อกสเปกน้ำยางพารา และโครงการถนนยางพาราดินซีเมนต์ทั่วประเทศ หลังก่อนหน้านี้ได้ไปร้องถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)
โดย น.ส.ช่อฉัตร กล่าวว่า “การเดินทางมายื่นหนังสือที่ สำนักงาน ป.ป.ช.เพราะเชื่อมั่นว่าองค์กรแห่งนี้เป็นหน่วยงานที่ปราบปรามการทุจริตโดยตรง โดยทางกลุ่มผู้ประกอบการยางพารา รวมไปถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบ อย่างผู้รับเหมา ชาวบ้าน และเกษตรกร ต้องการนำเรื่องนี้ให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ เพื่อตีแผ่ความเป็นจริงให้กับสังคมรับทราบว่า มันเกิดอะไรขึ้น
เรื่องนี้มีการทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งมีข้าราชการบางคนเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะข้อพิรุธในการได้มาซึ่งบริษัทผู้จำหน่ายน้ำยางพารา 3 บริษัท เพื่อทำถนนในโครงการถนนยางพารา 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร ทั่วประเทศ วงเงินงบประมาณหลายพันล้านบาท ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามข้อกำหนดใน TOR (Term of Reference – ข้อกำหนดของผู้ว่าจ้าง ประกอบด้วยขอบเขตและรายละเอียดของงาน) แต่กลุ่มบุคคลที่ร่วมกันกระทำการทุจริตก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุด และยังเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
"โดยเฉพาะคำพูดหนึ่งในข้าราชการที่ร่วมอยู่ขบวนการ มีการพูดเชิงข่มขู่ ในทำนองว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้ เพราะเป็นคนมีบารมีและใหญ่โตในแวดวงยางพารา ที่ผ่านมามีการบังคับให้ซื้อน้ำยางจากเพียงแค่ 3 บริษัท และหากใครที่ไม่ยอมซื้อจาก 3 บริษัทนี้ ก็จะถูกข่มขู่เอาเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปตรวจสอบ เวลานี้ทั้งผู้รับเหมาและเกษตรกรชาวสวนยาง ต่างรู้สึกหวาดกลัวและอึดอัดใจ เพราะเหมือนชีวิตกำลังถูกบังคับและคุกคามจากกลุ่มคนแสวงหาผลประโยชน์"
...
น.ส.ช่อฉัตร กล่าวต่อว่า แม้แต่ น.ส.สุพัตรา ก็ยังถูกชายลึกลับ 2 คน บุกไปยังบ้านเพื่อข่มขู่และจะตามหาตัว น.ส.สุพัตรา ซึ่งขณะนั้นไม่ได้อยู่บ้าน แต่กล้องวงจรปิด 2 ตัวสามารถจับใบหน้าได้อย่างชัดเจน
ล่าสุดได้มีพลเมืองดีส่งข้อมูล ชื่อ และรูปภาพของผู้ต้องส่งสัยมาให้ ผ่าน ตู้ ปณ.57 เมืองฉะเชิงเทรา ทางผู้เสียหายได้เข้าไปหาข้อมูลจนทำให้ทราบว่า 1 ในบุคคลต้องสงสัยในคลิป คือ ข้าราชการยศระดับร้อยตำรวจเอก ทำให้เกิดความหวาดกลัวในความปลอดภัยตัวเองและครอบครัว จึงเข้าร้องต่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เพื่อให้ช่วยดูแลคดี แต่วันนี้เราสองคนตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่แล้วว่า จะเดินหน้าต่อไปเพื่อสู้กับ “อำนาจมืด” ในแวดวงราชการ และเปิดโปงการทุจริตที่เกิดขึ้นเพื่อให้สังคมได้รับทราบ”
ด้าน นายธนิต หัวหน้ากลุ่มปฏิบัติการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวว่า “สำนักงาน ป.ป.ช. ยินดีรับเรื่องราวดังกล่าว และพร้อมที่จะดำเนินการเร่งตรวจสอบ เพื่อให้เรื่องนี้เกิดความกระจ่างโดยเร็วที่สุด”