ตำรวจนครบาล ประชุมสรุปความคืบหน้าคดีรุมทำร้ายจ่านิว ยังไม่สามารถออกหมายจับได้ เนื่องจากคนร้ายอำพรางใบหน้า จยย.ไม่ติดป้ายทะเบียน ใช้รถประจำทางกำบังหลบมุมกล้อง ยากต่อการติดตาม

จากกรณี นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว ถูกกลุ่มคน้รายรุมใช้ไม้เบสบอลทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสที่ปากซอยรามอินทรา 109 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ก่อนมีพลเมืองดีช่วยกันพาตัวส่ง รพ.นวมินทร์ ก่อนย้ายไป รพ.มิชชั่น เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 28 มิ.ย. ท้องที่ สน.มีนบุรี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 ก.ค. ที่กก.สส.บก.น.3 พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรมรม รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมนึก น้อยคง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผบก.น.3 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 ร่วมกันประชุมความคืบหน้าคดี

ภายหลังการประชุมนาน 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.สมนึก กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบพยานไปแล้ว 15 ปาก และยังไม่สามารถออกหมายจับคนร้ายได้ เนื่องจากขณะก่อเหตุคนร้ายมีการอำพรางใบหน้าและรถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายขณะนี้ฝ่ายสืบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายสามารถหลบหลีกภาพจากกล้องวงจรปิดได้บางจุด จึงเชื่อได้ว่าอาจจะมีการเตรียมการอย่างดีและอาศัยช่วงจราจรหนาแน่หลบมุมกล้อง จึงยากต่อการติดตามตัว

สำหรับ การคุ้มครองจ่านิว สายตรวจได้ให้ความคุ้มครอง เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ และขณะนี้ยังไม่ตัดประเด็นการก่อเหตุประเด็นใดทิ้ง ทั้งปัญหาส่วนตัว การเมือง

รายงานข่าวแจ้งว่า กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้เป็นบางจุดโดยคนร้ายมีการใช้รถประจำทางบังตามมุมกล้องวงจรปิดต่างๆ เพื่อหลบหนี จึงเชื่อได้ว่าคนร้ายมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่จะใช้หลบหนี และอาจมีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย หรือรถจยย. ที่ใช้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย

...