"ปัดฝุ่น" ร่างเดิมของศาล! เสนอคณะกรรมการใหม่
เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เผยเตรียมตั้งแผนกจราจรในชั้นศาล หลังนำร่างกฎหมาย “วิธีพิจารณา คดีจราจร” มาปัดฝุ่นพิจารณาใหม่ ส่วนแนวคิดไม่ควรนำมาตรการรอการลงโทษมาใช้ในคดีเมาแล้วขับนั้น เห็นว่าการจำคุกระยะสั้นไม่เกิดประโยชน์ แต่ละคดีไม่สามารถตัดสินลงโทษตามกระแสสังคม
เตรียมตั้งแผนกจราจรในชั้นศาล โดยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงแนวความคิดการตั้งศาลจราจรว่า ตามที่ตนเป็น 1 ในคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายด้านกระบวนการยุติธรรม มีนายอัชพร จารุจินดา เป็นประธาน ยังเป็นเพียงร่างกฎหมาย “วิธีพิจารณาคดีจราจร” ซึ่งเป็นตัวเดียวกับศาลยุติธรรมเคยยกร่างไว้ กระทั่งมีสภาปฏิรูปแห่งชาติ ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเกิดขึ้น จึงนำร่างนั้นมาปัดฝุ่นใหม่และส่งเรื่องกลับมาสำนักงานศาลยุติธรรม ต้องเสนอเป็นวาระต่อคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) พิจารณา โดยหลักการแล้วจะให้ศาลยุติธรรมที่มีอยู่ดำเนินการ จัดตั้งเป็นแผนกจราจร ใช้ “ร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีจราจร” ทั้งนี้ ประธานศาลฎีกายังไม่มีนโยบายเปิดศาลเพิ่มตอนนี้ เพราะมองว่าปัจจุบันคดีในศาลยุติธรรม 275 แห่งทั่วประเทศ มีปริมาณคดีเกือบ 2 ล้านคดี เทียบกับปริมาณศาลที่ให้บริการอยู่ถือว่าเพียงพอ สำหรับแนวทางจะเกิดเป็น “ร่าง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีจราจร” หรือทำเป็นแผนกคดีจราจร ไม่น่าจะเกิดขึ้นภายในปี 62 เพราะการพิจารณาร่างกฎหมายต้องใช้เวลาและยังมีอีกหลายประเด็นที่ต้องพิจารณา
“ที่มีการเสนอความคิดไม่ควรใช้มาตรการรอการลงโทษมาใช้ในคดีเมาแล้วขับนั้น ผมเห็นว่าการรอลงอาญาเป็นช่องทางหนึ่งที่เห็นว่าการจำคุกระยะสั้นไม่เกิดประโยชน์อะไร แทนที่จะให้เขากลับตัวเป็นคนดีและเยียวยาชดใช้ให้สังคม กลไกกฎหมายเรื่องการใช้ดุลพินิจรอการลงโทษตามประมวลความอาญา ม.56 มีไว้เพื่อสร้างความสมดุล การพิจารณาแต่ละเรื่องไม่สามารถลงโทษตามกระแสสังคม ต้องมองภาพรวมทั้งหมด ผมมองว่าการเน้นเรื่องรณรงค์ป้องกันนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ทุกองคาพยพในสังคมต้องช่วยกัน” นายสราวุธกล่าว
...