ทส.ผลักดันไทยสู่บทบาทผู้นำอาเซียน ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขยายผลต่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เนื่องในโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 34 และ 35

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.62 รายงานข่าวแจ้งว่า ปี 2562 ประเทศไทยจะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 34 และ 35 รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 30 จึงนับเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยในการผลักดันงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มีความสำคัญและเกิดความร่วมมือระดับอาเซียน และขยายผลต่อไปให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ

โดย นายโสภณ ทองดี ผู้ตรวจราชการกระทรวง ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ผ่านมากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินการจัดประชุมครั้งสำคัญระดับอาเซียนไปแล้ว 2 ครั้ง ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษด้านขยะทะเล (Special ASEAN Ministerial Meeting on Marine Debris) และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ เรื่องการป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย (Special ASEAN Ministerial Meeting on Illegal Wildlife Trade) โดยมีรัฐมนตรีกลุ่มประเทศอาเซียน และผู้นำองค์กรระดับนานาชาติเข้าร่วมประชุมหารือ โดยประเทศไทยได้แสดงท่าทีและจุดยืนในการเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และแก้ไขปัญหาด้านต่างๆ และสร้างความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนในระดับภูมิภาค

...

ด้าน นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ประเทศไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคอาเซียน โดยประเทศไทยได้ผลักดันข้อริเริ่มของไทยในหลากหลายสาขาด้านสิ่งแวดล้อมอาเซียนให้มีความโดดเด่น และเป็นที่ยอมรับของทุกประเทศ ทั้งนี้ประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนทั้งในด้านวิชาการ ความช่วยเหลืออื่นๆ รวมถึงสนับสนุนงบประมาณในการเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดประชุม การรับเป็นประเทศผู้นำ (Lead Country) ในแผนการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมอาเซียนสาขาต่างๆ ซึ่งหากมีการดำเนินงานที่เห็นผลเป็นรูปธรรม จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคอาเซียนไปโดยปริยาย ซึ่งจะทำให้ทุกประเทศก้าวไปด้วยกันและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน อันจะสอดคล้องกับ Theme ของอาเซียนที่เน้นว่า "เราจะก้าวไปด้วยกันและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"

นายวิจารย์ กล่าวโดยสรุปว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมรับนโยบายของรัฐบาลมาผลักดัน และแสดงบทบาทท่าทีของประเทศ เพื่อให้เกิดข้อตกลงและความร่วมมือในระดับภูมิภาคอาเซียน โดยในระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน 2562 นี้ ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 ณ โรงแรม พลาซ่า แอททินี กรุงเทพมหานคร โดย ทส.ได้จัดเตรียมเอกสารผลลัพธ์จากการประชุม 2 ครั้งที่ผ่านมา เสนอให้มีการรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 จำนวน 1 ฉบับ ได้แก่ ร่างปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน และเสนอเพื่อทราบ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ แถลงการณ์เชียงใหม่ของรัฐมนตรีอาเซียน ที่รับผิดชอบการดำเนินการตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่า ว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย และกรอบปฏิบัติการอาเซียนว่าด้วยขยะทะเล อีกเรื่องหนึ่ง

ขณะที่ นายโสภณ กล่าวในช่วงท้ายว่า บทบาทของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ผ่านมา ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ให้ประชาชนได้รับทราบและเผยแพร่ข้อมูลผลการดำเนินงานความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม ตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้และตระหนักถึงบทบาทของไทยในเวทีอาเซียน อีกทั้งกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวในการแสดงบทบาทของตน โดยการมีส่วนร่วมในการรักษาและอนุรักษ์ เพื่อให้ทรัพยากรและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของไทยและอาเซียน จะได้อยู่ในระดับดีและมีความยั่งยืนสืบไป.