เหตุการณ์ฝนตกหนักน้ำท่วมในพื้นที่ กทม.หลายจุด เมื่อวันศุกร์ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นอีกวันประวัติศาสตร์ที่คนกรุงไม่ลืมเลือน ทั้งรถติดหนักฝ่าน้ำท่วมขัง รถหลายคันจอดเสียจมไปกับน้ำ ทำให้ทุกคำถามพุ่งไปยังผู้ว่าฯ กทม. ว่าเกิดจากสาเหตุใด จึงไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) หน่วยงานหลักที่กำกับดูแล และบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ระบุ ได้เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูฝนปี 2562 และพบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ค่อยพอใจกับสถานการณ์น้ำฝนที่ตกมาเมื่อ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดย กทม. ไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้ จนทำให้กรุงเทพน้ำท่วม เนื่องจากอุโมงค์ส่งน้ำมีปัญหาไฟฟ้าดับ ไม่สามารถระบายน้ำได้

ทั้งนี้ในช่วงฤดูฝนหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับน้ำ รวมทั้ง กทม. ต้องเตรียมพร้อมเพื่อรับมือสถานการณ์ฝนที่อาจตกหนัก และสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม และในส่วนภาคประชาชน หากพบว่าเครื่องมือของทางการชำรุด หรือใช้งานไม่ได้ ให้แจ้งมา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุน้ำท่วมขึ้น

"นายกฯ ไม่แฮปปี้ กทม.ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน จนเกิดเหตุน้ำท่วมนาน ทาง สทนช. จึงเรียก กทม.มาหารือ ได้เชิญ ผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ กทม.มาให้ความชัดเจนถึงสาเหตุที่ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน และถ้าเกิดฝนตกอีกจะทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ซ้ำรอยฝนตกในช่วงที่ผ่านมา ก่อนจะนำเรียนข้อเท็จจริงกับนายกฯ ต่อไป"

...

ขณะที่ กทม.ได้รายงานจุดเสี่ยงน้ำท่วมขัง 14 จุด กรณีฝนตกไม่ถึง 60 มิลลิเมตร ได้แก่

  • 1. ถนนแจ้งวัฒนะ จากคลองประปาถึงคลองเปรมประชากร

  • 2. ถนนรัชดาภิเษก ช่วงหน้าธนาคารกรุงเทพ

  • 3. ถนนพหลโยธิน ช่วงหน้าตลาดอมรพันธ์และแยกเกษตร

  • 4. ถนนประชาราษฎร์สาย 2 ช่วงแยกเตาปูน

  • 5. ถนนราชวิถี ช่วงหน้าราชภัฏสวนดุสิตและเชิงสะพานกรุงธน

  • 6. ถนนพญาไท ช่วงหน้ากรมปศุสัตว์

  • 7. ถนนศรีอยุธยา ช่วงหน้า สน.พญาไท

  • 8. ถนนจันทน์ จากซอยบำเพ็ญกุศล-ไปรษณีย์ยานนาวา

  • 9. ถนนสวนพลู จากถนนสาทรใต้-ถนนนางลิ้นจี่

  • 10. ถนนสาธุประดิษฐ์ บริเวณแยกตัดถนนจันทน์

  • 11. ถนนสุวินทวงศ์ ช่วงจากคลองสามวา-คลองแสนแสบ

  • 12. ถนนเพชรเกษม จากคลองทวีวัฒนา-คลองราชมนตรี

  • 13. ถนนหมู่บ้านเศรษฐกิจ

  • 14. ถนนบางขุนเทียน จากถนนพระราม 2-ถนนบางขุนเทียนชายทะเล