นักการเมืองฝั่งตรงข้ามทหาร แห่เยี่ยม “จ่านิว” หลังถึงคิวโดนกลุ่มชายฉกรรจ์รุมสกรัมอ่วมคาป้ายรถเมล์ เจ้าตัวเผยนาทีกระทืบ ลั่นโดนแค่นี้ไม่ได้ทำให้กลัว ยันจะไม่อโหสิกรรมให้แน่ ขณะที่จตุพรห่วงปลุกสัญญาณความรุนแรง ส่วนอมรรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อนค.นำดอกไม้มาเยี่ยมก่อนต่อสายคุยหัวหน้าพรรค “ภูมิธรรม” โพสต์ “ฤๅบ้านเมืองเราจะป่าเถื่อนขึ้นทุกวัน” ส่วน “ธนาธร” ทวีต ชี้เป็นความป่าเถื่อนอำมหิต ของระบอบรัฐประหาร

จากเหตุการณ์เถื่อนคุกคาม กรณีจ่านิว-นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ อายุ 27 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกชายฉกรรจ์แต่งกายรัดกุม ขี่ จยย.หลายคัน ลงมาใช้ไม้พลองเข้ารุมตีทำร้ายร่างกาย ที่ป้ายรถเมล์ซอยรัชดาภิเษก 7 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 2 มิ.ย. หลังไปร่วมทำกิจกรรมตั้งโต๊ะเปิดรับรายชื่อยื่นเรียกร้อง ให้ ส.ว. งดออกเสียงโหวตนายกรัฐมนตรี ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง นำโดย พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รรท.ผกก. รับแจ้งไปตรวจสอบ พร้อมพาจ่านิวไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ เบื้องต้นพบว่าบาดเจ็บตามร่างกายและใบหน้า ขณะที่จ่านิวขอไปตรวจที่ รพ.มิชชั่น โดยก่อนหน้านักเคลื่อนไหวทางการเมือง อาทิ เอกชัย หงส์กังวาน และนายอนุรักษ์ เจตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง ถูกอิทธิพลมืดคุกคามรุมทำร้ายบาดเจ็บ และยังจับมือใครดมไม่ได้

ต่อมาเวลา 01.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ อายุ 43 ปี มารดานายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” ไปเยี่ยมบุตรชายที่ห้องฉุกเฉิน รพ.มิชชั่น ก่อนจะทำเรื่องย้ายไปนอนพักรอดูอาการที่ห้องพิเศษของทางโรงพยาบาล ท่ามกลางความห่วงใยของเพื่อนๆนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มาเฝ้าติดตามด้วยความห่วงใย

...

น.ส.พัฒน์นรี แม่จ่านิวเผยว่า แพทย์ที่รักษาลูกชาย บอกว่าไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ผลตรวจเบื้องต้นไม่มีผลกระทบกระเทือนถึงสมอง แต่ลูกชายบ่นเวียนศีรษะ อยากให้นอนรอดูอาการสัก 24 ชั่วโมง โดยลูกชายมีสิทธิ์รักษาประกันสังคมที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ค่าห้องพิเศษต้องออกเอง ช่วงนี้ติดตามข่าวสารพบว่านักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกทำร้ายเยอะมาก เตือนให้ระวังมาตลอด ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับลูกชาย เป็นครั้งแรกที่มาโดนทำร้ายถึงขนาดนี้ ความเห็นส่วนตัวคิดว่าการใช้บริการรถสาธารณะไม่น่าจะมีอะไร ที่ไหนได้ พอเกิดเรื่องขึ้นตรงป้ายรถประจำทางกลับไม่มีใครช่วย ที่สำคัญผู้ก่อเหตุคงไม่ได้เจตนาเพียงจะลงมือสั่งสอน เนื่องจากเลือกตีแต่ที่ศีรษะ เชื่อว่าคงไม่ทันแล้วที่จะห้ามให้ลูกหยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้แต่ตักเตือนให้ระวังตัวมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

ขณะที่นายสิรวิชญ์ซึ่งอยู่ในสภาพฟกช้ำตามใบหน้า ใบหูขวา และตามร่างกายหลายแห่ง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้รู้สึกหวาดกลัว แต่ติดใจว่าทำไมต้องเล่นหมาหมู่ ที่ผ่านมามีคนเตือนมาเยอะแต่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้น เพราะระวังตัวมาตลอด ตอนจะใช้บริการรถประจำทาง พยายามเลือกรอรถที่ป้ายซึ่งมีคนพลุกพล่านแต่ก็พลาดจนได้ ขอฝากเตือนนักเคลื่อนไหวทุกคนให้ระวังตัวให้มากขึ้น

จ่านิวเล่าเหตุการณ์อิทธิพลเถื่อนคุกคามให้ฟังต่อว่าคนร้ายมี 5-6 คน สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ ใช้อาวุธที่คาดว่าน่าจะเป็นไม้ ลงมือทำร้ายระหว่างรอรถเมล์ เริ่มจากตีเข้าที่ศีรษะด้านหลังก่อน เมื่อตนวิ่งหนีแล้วหกล้ม ก็เตะเข้าที่ปากแล้วรุมตีเน้นที่ศีรษะและทัดดอกไม้ โชคดีใช้มือบังไว้ แต่ก่อนที่จะเจ็บมากกว่านี้ จู่ๆชายกลุ่มนี้ก็หยุดแล้ววิ่งหนีไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้รอดมาได้หวุดหวิด คิดว่าการกระทำแบบนี้เหมือนจะพยายามฆ่ากัน ไม่รู้จะอาฆาตพยาบาทอะไรหนักหนา อยากบอกกับผู้ก่อเหตุว่า จะไม่อโหสิกรรมให้แน่นอน และฝากบอกตำรวจด้วยว่า ขอให้ทำคดีให้เร็วที่สุด ส่วนตน หลังจากนี้จะยังคงใช้ชีวิตปกติเช่นเคยเพียงแต่ต้องระวังตัวให้มากยิ่งขึ้น

นายสิรวิชญ์ ระบุอีกว่า มั่นใจผู้ที่ลงมือทำร้ายตนนั้นทำกันเป็นขบวนการ มีการติดตามมาตั้งแต่ไปตั้งโต๊ะเข้าชื่อถึง สว.ที่หน้าหอศิลป์ ปทุมวัน มาถึงรัชดา ทั้งลงมือแบบมุ่งหวังให้บาดเจ็บสาหัสหรืออาจถึงตาย สำหรับเหตุที่ถูกทำร้ายนั้น มั่นใจว่ามาจากการที่ตนเคลื่อนไหว ล่ารายชื่อและส่งจดหมายให้ ส.ว. ไม่โหวตชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ขณะนี้ได้รายชื่อมาแล้วจำนวนหนึ่ง ทั้งเตรียมไปยื่นกับประธาน ส.ว.ก่อนจะโหวตเลือกนายกฯ แต่ตอนนี้ตนคงไปไม่ได้ แล้ว และต้องหารือกับเพื่อนในกลุ่มว่าจะทำเช่นไร

ต่อมาเวลา 14.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อชาติ และประธาน นปช. นายอารี ไกรนรา รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ เดินทางไปเยี่ยม และให้กำลังใจนายสิรวิชญ์ พร้อมมอบพระเครื่องรุ่นเก่าให้เป็นขวัญกำลังใจ นายจตุพรกล่าวว่า สถานการณ์บ้านเมืองมาถึงจุดหนักหนาสาหัส ถ้าผู้มีอำนาจยังไม่รู้สึกรู้สา วันนี้จึงมาบอกเพื่อขอสันติจากผู้มีอำนาจ แต่เรื่องนี้เกินกว่าทนทานได้ เพราะเห็นว่าทำเกินไป การทำร้ายจ่านิวเป็นการส่งสัญญาณนำพาประเทศไปสู่ความรุนแรง และขัดแย้งอย่างหนักครั้งใหม่ ให้ดูประวัติศาสตร์ก่อนเกิดเหตุการณ์ 6 ต.ค.2519 ที่เริ่มจากนักศึกษาถูกยิงที่ป้ายรถเมล์ และนักเคลื่อนไหวถูกคุกคาม ขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจดำเนินการหยุดยั้ง ไม่ใช่ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า “ไปทำอะไรเขาเข้าเขาถึงมาทำร้าย” สังคมรู้ดีว่าจ่านิวเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นผู้นำนักศึกษา ไม่มีเรื่องอื่นใดเป็นเหตุให้ถูกทำร้าย

ต่อมานายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจคนดัง เดินทางมาเยี่ยม พร้อมกล่าวว่า ติดตามการต่อสู้ของจ่านิวมาตลอด แต่ไม่ออกมายุ่ง คราวนี้ทนไม่ได้ เพราะคนที่ทำคราวนี้คือไอ้เขียวรับงาน และไอ้เขียวสั่งการ ขอให้จ่านิวดูแลตัวเองให้ดี ถ้ามีเหตุอะไรดูแล้วไม่ปลอดภัยให้โทร.หาตนได้ตลอด ขอเรียกร้องขอให้คนที่ทำรีบหยุด เพราะถ้าไม่หยุด เท่ากับต้องทะเลาะกับตนด้วย คราวนี้รับรองมวยถูกคู่ ไม่ได้ท้าทาย พวกคุณทำเด็กๆเขาอาจเสียเปรียบเรื่องการตอบโต้ แต่สำหรับตนจะมารูปแบบไหนตอบโต้ได้หมด เพราะเคยทำรู้มือกันอยู่

...

จากนั้นนางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ นำดอกไม้มาเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมต่อสายให้คุยกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ก่อนที่มีการพูดคุยกับนายสิรวิชญ์และสอบถามอาการอยู่พักใหญ่

ไล่เลี่ยกัน นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ที่เข้ามาตรวจดูอาการของนายสิรวิชญ์ในเบื้องต้น จากนั้นเปิดเผยว่า จากการสอบถามแพทย์ที่ดูแลอาการของจ่านิว พบว่าขณะนี้อาการดีขึ้นกว่าเมื่อคืน ผลเอกซเรย์ไม่พบว่ากะโหลกศีรษะหรือสมองได้รับความกระทบกระเทือน แพทย์ไม่ได้ให้ทำซีทีสแกน เพราะไม่มีสัญญาณอันตราย แต่จะมีแพทย์ด้านหู คอ จมูก มาตรวจด้วยเพื่อความแน่ใจ ทั้งนี้ขอฝากไปยังมวลชนที่ติดตามความเคลื่อนไหวของจ่านิวว่าไม่ต้องห่วงตอนนี้ปลอดภัยแล้ว ไม่จำเป็นต้องมาเยี่ยมให้ติดตามความคืบหน้าทางสื่อโซเชียลมีเดีย ที่จะมีการอัปเดตให้ทราบเป็นระยะ

ส่วนความเคลื่อนไหวในด้านอื่นหลังจ่านิวถูกทำร้าย วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ฤๅบ้านเมืองเราจะป่าเถื่อนขึ้นทุกวัน” ได้รับฟังข่าวนายสิรวิชญ์ หรือจ่านิว ถูกชายฉกรรจ์สวมหมวกกันน็อกทำร้ายระหว่างแสดงความคิดเห็น และรณรงค์ให้ ส.ว.งดออกเสียงเลือกนายกฯ มีคำถามต่อสังคมไทยวันนี้คือ เราจะปล่อยให้สังคมไทยเกิดภาวะที่ฝ่ายผู้กระหายอำนาจ จะสร้างความรุนแรงอย่างไรก็ได้ เพียงเพื่อให้พวกตนและกลุ่มของตนได้อยู่ในอำนาจต่อไป ไม่ว่าวิธีการปกป้องยึดครองให้ได้อำนาจนั้นมาจะต้องใช้วิธีการที่ป่าเถื่อน เลวร้ายอย่างไรก็ได้หรือ ขอประณามอย่างรุนแรงต่อการรุมทำร้ายจ่านิวครั้งนี้ สังคมไทยจะไม่เปิดพื้นที่ให้คนที่มีความเห็นแตกต่างมีที่ยืนเลยหรือ ประเทศนี้อยู่ยากจริงๆ

เช่นเดียวกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขอประณามการใช้ความรุนแรงทำร้ายผู้เห็นต่างทางการเมือง หวังจะสร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว ไม่ให้คนที่มีความคิดลักษณะเดียวกันออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ในหลายประเทศการใช้ความรุนแรงเพื่อหวังกำจัดผู้เห็นต่างทางการเมืองมักเกิดบ่อยขึ้น และรุนแรงยิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศไม่ได้ถูกปกครองด้วยรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการคุกคาม ข่มขู่ ใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่างทางการเมืองในประเทศไทย อาทิ คุณเอกชัย หงส์กังวาน ถูกทำร้ายถึง 9 ครั้ง คุณฟอร์ด เส้นทางสีแดง ล่าสุดก็ถูกทำร้ายเช่นกัน เหตุใดการกระทำลักษณะนี้จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้งได้โดยที่ไม่มีใครต้องรับผิดชอบ ไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ซ้ำร้ายผู้ที่ถูกคุกคามทำร้ายเพราะความเห็นต่างทางการเมืองกลับโดนคดีซ้ำอีก เพื่อขัดขวางไม่ให้พวกเขาแสดงออกทางการเมือง พร้อมกับติดแฮชแท็ก #จ่านิว

...

ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์แอ็กเคาต์ @Thanathorn_FWP ถึงเรื่องดังกล่าวว่า “เอกชัย หงส์กังวาน โดนทำร้ายครั้งแล้วครั้งเล่า ล่าสุดจ่านิวเป็นเหยื่อรายใหม่ ความผิดเดียวของพวกเขาคือเรียกร้องถึงสังคมที่เป็นธรรมแม้ไม่มีต้นทุนทางสังคมไว้ปกป้องตัวเอง อย่ารอให้ถึงคิวลูกคุณถึงเห็นว่านี่คือความอยุติธรรม พอกันทีกับความป่าเถื่อนอำมหิตของระบอบรัฐประหาร”