"วัดดอนรัก" เลขที่ 54 ถนนเพชรคีรี ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ตั้งอยู่ใกล้กับบ้านเกิดของป๋าเปรม พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ บ้านเลขที่ 1 ถนนจะนะ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา เพียงไม่กี่ก้าวย่างเดิน
ก่อนหน้านี้มีชื่อว่า "วัดดอนรักษ์" ซึ่งในภายหลังเปลี่ยนมาสะกดด้วยคำว่า "วัดดอนรัก" เป็นสถานที่เก็บสถูปของพ่อแม่ป๋าเปรม และยังเป็นความทรงจำในวัยเยาว์ กลายเป็นเรื่องเล่าให้คนทั้งประเทศฟังเกี่ยวกับเพื่อนซี้ที่มีอาชีพขี่สามล้อรับจ้างในเมืองสงขลา มีค่าครองชีพวันละไม่ถึง 100 บาท ขณะที่ ป๋าเปรม เป็นถึงประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ของประเทศไทย
"ด้วยความที่ป๋าเปรมเป็นคนสงขลาแต่กำเนิด มีบ้านอยู่ในตัวเมืองสงขลาใกล้กับวัดดอนรัก ย้อนไปเมื่อ 92 ปีก่อน ขณะที่ป๋าเปรมอายุได้ 7 ขวบ กำลังศึกษาอยู่ชั้นประถมที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ ซึ่งในสมัยนั้นเปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล (ปัจุบันเริ่มสอนตั้งแต่ มัธยมศึกษาปีที่ 1) ส่วนลุงข้วย หรือ นายข้วย พุทธปาน เป็นเพื่อนนักเรียนที่เรียนด้วยกัน อยู่บ้านใกล้เคียงกันและจะพากันไปเล่นในพื้นที่ว่าของวัดดอนรักในสมัยนั้น ในสมัยก่อน ป๋าเปรม ปั่นจักรยานไม่เป็น แต่ที่บ้านมีจักรยาน ลุงข้อยจึงอาสาเป็นคนปั่นพาไปโรงเรียนเกือบทุกเช้า" อ.สืบสกุล ศรีสุข ผู้อำนวยการภาคีเมืองสงขลาสมาคม
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04OWEmermJ4Stek8QQrrDH9zsBer64yo.jpg)
...
![วัดดอนรัก](https://static.thairath.co.th/media/FcvsRgKyX10OHanMUEEjc08aNrt5eTLedzXqLK0wEnukMIybnFuF3DXIsd.jpg)
"ลุงข้วย" มีฐานะที่ค่อนข้างยากจน ที่สนิทกับป๋าเปรมที่สุดคนหนึ่งในวัยเด็ก ต่อมาป๋าเปรมต้องเดินทางไปเรียนต่อที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ป๋าเปรมกับลุงข้อย จึงแยกย้ายจากกันไป เพราะสมัยนั้นไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน กระทั่งโตขึ้นมา ป๋า ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ ลุงข้อย ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป รวมถึงขี่สามล้อรับจ้างได้เงินวันละไม่กี่บาท
"หลายสิบปีที่จากกันไป ลุงข้วยได้กลับมาเจอป๋าเปรมอีกครั้งตอนเป็นนายกรัฐมนตรี ทั่งคู่ไม่ได้ลืมเลือนกันและกัน ยังแสดงความผูกพันโดยการสวมกอด และตัวลุงข้วยเองจะไปยืนรอต้อนรับป๋าเปรม และยกมือไหว้ทุกครั้ง ถึงแม้ว่าป๋าจะปรามว่า ไม่ต้องไหว้เรา ทั้งคู่สนทนากันเป็นภาษาใต้เหมือนเก่า และทุกครั้งที่มีโอกาส ลุงข้อยจะปั่นสามล้อให้ป๋าเปรมนั่ง กระทั่งต่อมาปี 2559 ลุงข้อยได้ลาโลกนี้ไป ส่วนสามล้อคู่ใจได้ยกให้เก็บรักษาไว้ยังพิพิธภัณฑ์ จากคำบอกเล่าจากปากลูกสาวคนเดียวของลุงข้อย ทราบว่า ป๋าเปรม จะมอบหมายให้อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มาเยี่ยมลุงข้อยที่บ้านบ่อยครั้ง" อ.สืบสกุล เล่าย้อนความหลัง
นอกจากนี้ วัดดอนรัก จังหวัดสงขลา ยังเป็นสถานที่สำคัญที่ป๋าผูกพันในวัยเด็กจนกระทั่งเติบใหญ่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นสถานที่เก็บกระดูกของ บิดาคือ "รองอำมาตย์โทหลวงวินิจทัณฑกรรม" (บึ้ง ติณสูลานนท์) ต้นตระกูลติณสูลานนท์ กับ มารดา คือ นางวินิจทัณฑกรรม (ออด ติณสูลานนท์) ไว้ที่วัดดอนรัก จังหวัดสงขลา
ดร.ภิเศก สายชนะพัน อดีตรองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เล่าให้เราฟังว่า ตนเองเป็นเด็กต่างอำเภอ สอบติดเข้า ม.1 โรงเรียนมหาวิชราวุธ ซึ่งเป็นโรงเรียนชายเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ในจังหวัดสงขลา และได้อาศัยกินนอนอยู่ในวัดดอนรัก ด้วยความเมตตาจากหลวงพ่อในยุคนนั้น ขณะเดียวกันได้ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย เก็บกวาดเช็ดถูทั่วบริเวณ โดยได้รับผิดชอบให้ดูแลสถูปเก็บกระดูกของพ่อ และแม่ของป๋าเปรม ซึ่งแน่นอนว่าทุกครั้งที่ป๋าเดินทางมาจะเจอกับนายคม สร้างความเมตตาเอ็นดู ตลอดระยะเวลา 6 ปีเต็ม
![](https://static.thairath.co.th/media/Dtbezn3nNUxytg04OWEmermJ4Stek8QQDhJ3cwW3KSS9Ea.jpg)
"ช่วงนั้นได้เจอป๋าบ่อยมาก เพราะว่าป๋ากลับสงขลาบ่อย ผมเองก็ทำหน้าที่ดูแลรับผิดชอบปัดกวาดเช็ดถูดูแลความเรียบร้อยของที่เก็บสถูป ป๋าเป็นคนใจดี พูดภาษาใต้ยิ้มแย้มแจ่มใส และตลอดระยะเวลา 6 ปี ผมยังคงได้เจอป๋าซ้ำๆ กระทั่งก่อนเรียนจบ ม.6 พยายามที่จะสอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร แต่สอบไม่ได้ ผมจึงออกปากพูดกับป๋า หวังจะให้ป๋าช่วยเหลือสอบเข้าไปเป็นนักเรียน ท้ายที่สุดก็ถูกปฏิเสธด้วยประโยคคำพูดที่ไพเราะกลับมาว่า "ถ้าอยากเป็นทหารก็ต้องตั้งใจเรียนหนังสือให้เก่งๆ แล้วต้องสอบเข้าให้ได้ด้วยตัวเอง ไปแข่งขันในสนามสอบเหมือนคนอื่นๆ เค้า"
...
ซึ่งป๋าไม่ได้ฝากให้ และไม่เคยรับปาก เหลือเพราะอยากให้ขยันและมีความตั้งใจ ..."ตอนนั้นผมเรียนสายศิลป์ ไม่ได้เรียนสายวิทย์ แต่โรงเรียนเตรียมทหารเค้าก็เปิดให้เด็กสายศิลป์นะ สุดท้ายแล้วผมก็สอบไม่ติด ซึ่งก็ไม่กล้าที่จะบอกป๋าว่าไม่ได้เป็นทหารสมความตั้งใจแล้ว ต่อมาตัดสินใจไปเรียนคณะนิติศาสตร์ ที่ ม.รามคำแหง ระหว่างนั้นก็ได้กลับบ้านที่จังหวัดสงขลา และร่วมงานศิษย์เก่าที่โรงเรียนมหาวชิราวุธทุกครั้ง
"ครั้งหนึ่งมีการตั้งแถวต้อนรับป๋า ผมยืนอยู่แถวที่ 3 แต่ท่านได้เดินมุ่งตรงฝ่าทั้ง 2 แถวจนมาถึงที่ผมยืนอยู่ แล้วถามเป็นภาษาใต้ว่า "สุวิทย์ใช่มั้ย" (ชื่อเก่าคือสุวิทย์) จากนั้นผมก็ตอบว่า "ครับ" เป็นภาษาใต้กลับไป ท่านยังถามต่อว่าตอนนี้ "เรียนอยู่ที่ไหนแล้ว".... ป๋าเป็นคนนิ่ง สุขุม ไม่พูดเยอะ มีความเป็นผู้หลักผู้ใหญ่และนิ่งมากๆ ท่านเป็นคนมีความทรงจำที่ดี และผูกพันกับสถานที่เก่าๆ ที่ท่านเคยอาศัยอยู่ กตัญญูรู้คุณคน และไม่เคยทอดทิ้งสถาบันที่ได้ศึกษาเล่าเรียน เป็นแบบอย่างที่ดีของศิษย์รุ่นน้อง"
![ดร.ภิเศก สายชนะพัน อดีตรองนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่](https://static.thairath.co.th/media/BUCz3kW7pmsIQUex8E1aBo5QCVtf0YBUgh2VAXQZewBIdGIAIu4ZyCZFh.jpg)
...
![อ.สืบสกุล ศรีสุข](https://static.thairath.co.th/media/BUCz3kW7pmsIQUex8E1aBo5QCVtf0YBUuo5VHnEhbKJSc96z5tCoLKgoG.jpg)
![ลุงข้วย เพื่อนรักป๋า](https://static.thairath.co.th/media/BUCz3kW7pmsIQUex8E1aBo5QCVtf0YBUmLmQZT1dV01deXvyzZpvEwfgV.jpg)