ศปอส.ตร.ตามรวบ 2 สาวแสบ ถึงโคราช เปิดบริษัทขายตรง อาหารเสริมเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ ล่อเหยื่อด้วยผลตอบแทนสุดงามร้อยละ 47 ต่อ 35 วัน แถมมีโบนัสจูงใจถ้าทำยอดถึง ทั้งดาวน์รถเบนซ์ให้ ไปจนถึงซื้อป้ายแดงให้ทั้งคันถ้าทำยอดถึง 29 ล้านบาท ตอนแรกจ่ายปันผลตรงเวลาแต่ตอนหลังเริ่มเบี้ยว ล่าสุดออกมุกใหม่ชวนลงทุนเงินบิทคอยน์ มีเหยื่อหลงเชื่อถึง 2 พันคน ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

ชุดสืบสวน ศปอส.ตร.จับแก๊งแชร์ลูกโซ่หลอกเหยื่อร่วมลงทุนรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 31 พ.ค. พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมชุดสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) แถลงจับกุมแชร์ลูกโซ่ชักชวนผู้เสียหายลงทุนขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในนามบริษัท พามีพารวย จำกัด พร้อมผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย นางพามี กลิ่นสี อายุ 50 ปี และ น.ส.พบพร พิภพโยพิณกุล อายุ 45 ปี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย กล่าวว่า ศปอส.ตร.ได้รับร้องเรียนจากประชาชนกว่า 2,000 คน ตกเป็นเหยื่อกลุ่มมิจฉาชีพเปิดบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลักษณะแชร์ลูกโซ่ มูลค่าความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท เข้าข่ายกระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และประสานพนักงานสอบสวน บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสืบสวนทราบว่า มิจฉาชีพกลุ่มนี้

มีนางพามี กลิ่นสี อายุ 50 ปี และ น.ส.พบพร พิภพโยพิณกุล อายุ 45 ปี มีพฤติการณ์ร่วมกันเปิดบริษัทขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมชื่อบริษัท พามีพารวย จำกัด มีนางพามีเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ และ น.ส.พบพรทำหน้าที่ผู้จัดการบริษัทชักชวนผู้เสียหายให้ลงทุนขายอาหารเสริมของบริษัท มิโอะ ไทยแลนด์ จำกัด การันตีผลตอบแทนร้อยละ 47 ต่อ 35 วัน หากชักชวนผู้อื่นให้มาร่วมลงทุนด้วย จะได้ผลตอบแทนร้อยละ 3 ของยอดเงินลงทุน

...

“สมาชิกที่จะสั่งซื้อสินค้า ต้องเข้าไปดูรายการสินค้าผ่านแอปพลิเคชันไลน์ชื่อ MIO THAILAND มีรูปแบบการลงทุนคือ ซื้อสินค้าอาหารเสริมบำรุงร่างกาย 1 ชิ้นราคา 1,359 บาท 15 วัน จะได้รับเงินต้นบวกเงินปันผลคืน 1,000 บาท และอีก 20 วัน จะได้รับเงินต้นบวกเงินปันผลอีก 1,000 บาท ถ้าซื้อสินค้า 220 ชุด ราคา 298,890 บาท จะได้รับปันผล 2 ครั้ง และทองคำหนัก 1.50 บาท ในกรณีสมาชิกไม่มารับสินค้า ทางบริษัทจะจ่ายเงินคืนเป็นค่าฝากขายให้ร้อยละ 10 ของราคาสินค้า การสั่งซื้อสินค้าแต่ละครั้งจะทำสัญญากู้ยืมเงิน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนสั่งซื้อสินค้า นอกจากนี้ กลุ่มผู้ต้องหายังจัดโปรโมชันเพื่อจูงใจ มีเงื่อนไขว่า ถ้ายอดซื้อสินค้าแต่ละทีมมียอดสั่งซื้อถึง 8,000,000 บาท จะจ่ายเงินดาวน์รถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ ให้ 25 เปอร์เซ็นต์ ถ้ามียอดสั่งซื้อถึง 1,200,000 บาท จะส่งค่างวดรถในเดือนนั้นให้ แต่ถ้ามียอดสั่งซื้อถึง 29,000,000 บาท จะซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ เงินสดให้ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่สมาชิกที่ร่วมลงทุน”
ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว

พล.ต.ท.ปิยะกล่าวด้วยว่า ช่วงแรกผู้เสียหายได้รับผลตอบแทนจริง แต่หลังจากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพขอเลื่อนจ่ายผลตอบแทนออกไปเรื่อยๆ ต่อมาช่วงเดือน พ.ย.2561 กลุ่มผู้ต้องหาชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนสกุลเงินดิจทัล กาแล็กซีคอยน์ มีรูปแบบการลงทุนคือ ลงทุน 1,000,000 บาท รับกำไรร้อยละ 30 ของยอดกำไรต่อวัน ลงทุน 500,000 บาท รับกำไรร้อยละ 20 ของยอดกำไรต่อวัน ระยะเวลารับผลตอบแทนภายใน 120-180 วัน การลงทุนนี้ยังไม่มีผู้เสียหายได้รับผลตอบแทน พนักงานสอบสวน บก.ปอศ.จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน กระทั่งเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ชุดสืบสวนศปอส.ตร.ตามจับกุมตัวนางพามี กลิ่นสี และ น.ส.พบพร พิภพโยพิณกุล ได้ในพื้นที่ สภ.เมืองนครราชสีมา นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป