“แม่น้องเกด” พยาบาลที่เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม คราวสลายการชุมนุมปี 53 บุกถามข้อข้องใจกรณีอัยการทหาร สั่งไม่ฟ้อง 8 ทหาร ชี้ เป็นคดีร่วมฆ่าประชาชน ไม่อยู่ในอำนาจ "ศาลทหาร"
วันที่ 23 พ.ค. ที่สำนักงานอัยการทหาร นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของ น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือน้องเกด พยาบาลอาสาผู้เสียชีวิตในเหตุสลายการชุมนุมบริเวณวัดปทุมวนารามวรวิหาร เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 พร้อมด้วย นายณัทพัช อัคฮาด น้องชายของ น.ส.กมลเกด และนายอานนท์ นำภา ทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือถึงหัวหน้าอัยการทหารสำนักงานอัยการทหาร เพื่อให้ชี้แจงและขอทราบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีที่สำนักงานอัยการทหารมีคำสั่งไม่ฟ้องทหารทั้ง 8 คนที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ น.ส.กมนเกด เพราะไม่มีประจักษ์พยาน พยานพฤติเหตุแวดล้อม หรือพยานหลักฐานอื่นใดที่ยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 8 คนกระทำผิด
นางพะเยาว์ เปิดเผยว่า คดีนี้เดิมมีการดำเนินคดีกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นผู้ใช้หรือก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด ซึ่งเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และมีการแจ้งความเพิ่มเติมกับทหาร 8 นาย ที่ได้รับคำสั่งจากนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ ให้กระทำการในวันเกิดเหตุ การกระทำของผู้ต้องหาทั้งหมด จึงเป็นการร่วมกันฆ่าประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 ซึ่งตามพระธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.2498 มาตรา 14 และมาตรา 15 กำหนดให้คดีที่ทหารร่วมกระทำความผิดกับพลเรือน ไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลทหาร
ดังนั้น คดีนี้จึงไม่อยู่ในอำนาจของอัยการทหาร และการออกคำสั่งไม่ฟ้องทหารทั้ง 8 คนที่กระทำความผิดร่วมกับพลเรือนจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
...
นางพะเยาว์ เปิดเผยต่อว่า ส่วนที่อัยการทหารมีความเห็นว่า คดีดังกล่าวไม่มีประจักษ์พยาน พยานพฤติเหตุแวดล้อม หรือพยานหลักฐานอื่นใดที่ยืนยันได้ว่าผู้ต้องหาทั้ง 8 คนกระทำผิดนั้น การเสียชีวิตของ 6 คนในบริเวณวัดปทุมวนารามวรวิหาร ทางศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ไต่สวน และมีคำสั่งชัดเจนแล้วว่าเกิดจากเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสหน้าวัดปทุมวนารามวรวิหาร โดยมีพยานหลักฐาน ประจักษ์พยาน และพยานแวดล้อมครบถ้วน จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างไรก็ตาม อยากให้อัยการศาลทหารมีการชี้แจงกรณีดังกล่าว อีกทั้งตนจะยื่นเรื่องนี้กับดีเอสไอด้วยเช่นกัน เพื่อชี้แจงและสอบถามข้อเท็จจริงต่อไป
ขณะที่ในส่วนของสำนักงานอัยการทหาร ทางเจ้ากรมพระธรรมนูญได้มอบหมายให้นายทหารเวรออกมารับเรื่องดังกล่าว โดยจะมีการส่งเรื่องไปตามลำดับชั้นเพื่อพิจารณาและแจ้งให้นางพะเยาว์รับทราบในภายหลังต่อไป.