ทารกอีก 249 "สธ." เฝ้าระวัง

สธ.สั่งคุมเข้ม “โรคซิฟิลิส” หลังพบกลุ่มวัยโจ๋ติดเชื้ออื้อ เร่ง ประสานสถานศึกษาลงพื้นที่ให้ความรู้กลุ่มนักเรียนและการ ป้องกันโรครวมถึงพบทารกแรกเกิดติดเชื้อจากแม่พุ่ง กำชับ สสจ. ทั่วประเทศเฝ้าระวัง-ติดตามสถานการณ์โรคในพื้นที่อย่างใกล้ชิด แนะมีเซ็กซ์ไม่ปลอดภัยรีบตรวจเลือด หากพบเร็วจะได้รักษาทันท่วงที มิเช่นนั้น เสี่ยงกระทบต่อสุขภาพระยะยาว

วัยรุ่นไทยติดเชื้อซิฟิลิสจนน่าห่วง โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ค. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับรายงานสถานการณ์ของโรคซิฟิลิส ของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ 1 ม.ค.-13 พ.ค.2562 พบผู้ป่วย 3,080 ราย ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 15-24 ปี คิดเป็นร้อยละ 40.42 รองลงมาคือ อายุระหว่าง 25-34 ปี คิดเป็นร้อยละ 24.48 เป็นสัญญาณถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยของกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียน และวัยเจริญพันธุ์ เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ จึงได้สั่งการให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ของโรคในพื้นที่ อย่างใกล้ชิด รวมถึงประสานสถานศึกษาให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการป้องกันโรค

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการพัฒนาระบบบริการควบคุม ป้องกัน และดูแลรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ได้แก่ การพัฒนาระบบเฝ้าระวัง ระบบข้อมูล ระบบติดตามประเมินผล เพิ่มคุณภาพการบริการโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของโรงพยาบาล พัฒนาศักยภาพคลินิกกามโรคสำนักงานป้องกันควบคุมโรค จัดทำแผน การศึกษาวิจัย รวมถึงทบทวนและพัฒนาแผนยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันและควบคุมโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

...

ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวต่อว่า อย่างไร ก็ตาม ขอแนะนำให้สวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ และสวมถุงยางอนามัยให้ถูกวิธี เพื่อลดความเสี่ยงในการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย รวมถึงเจาะเลือดเพื่อตรวจคัดกรองซิฟิลิสและเอชไอวีอย่างสม่ำเสมอ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ต้องเข้ารับการฝากครรภ์ในระยะที่กำหนด และรับการตรวจคัดกรองโรคซิฟิลิสพร้อมสามี เพื่อป้องกันและลดโอกาสการแพร่เชื้อของโรค

ทั้งนี้ ซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือได้รับเลือดจากผู้ติดเชื้อ ซึ่งผู้ป่วยจะทราบว่าติดเชื้อต่อเมื่อได้รับการตรวจเลือด แม่ที่ติดเชื้อซิฟิลิสแล้วไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลถึงทารกในครรภ์ ได้ ซึ่งปี 2562 พบเด็กแรกคลอดป่วยซิฟิลิสถึง 249 ราย อาการของโรคหลังจากได้รับเชื้อระยะแรกอาจพบแผลที่อวัยวะเพศ จากนั้นแผลจะหายและมีผื่นตามร่างกาย ฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือที่อวัยวะเพศ อาจมี ผมร่วงเป็นหย่อมๆ ผู้ติดเชื้อบางรายอาจจะไม่แสดง อาการ แต่เชื้อจะอยู่ในร่างกายถ้าไม่ได้รับการรักษาสามารถก่อให้เกิดความผิดปกติที่สมอง ระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคนี้เป็นแล้วมียารักษาให้หายขาด แต่ต้องตรวจติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง

ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การป้องกันโรคซิฟิลิสรวมถึงโรคจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ดีที่สุดคือ การสวมใส่ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้ โรคซิฟิลิสนั้นสามารถเป็นได้ทั้งจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคู่นอนชายหญิง หรือในกลุ่มคู่นอนเพศเดียวกันก็สามารถเป็นได้ และหากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยหรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อยก็ควรทำการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ ทั้งนี้ไม่อยากให้สังคมตีตราผู้ที่พกถุงยางอนามัย เพราะหากหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ก็ควรมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย หรือเซฟเซ็กซ์ ส่วนที่มีการพบโรคซิฟิลิสในกลุ่มอายุ 15-24 ปีนั้น ส่วนหนึ่งมาจากช่วงอายุนี้ยังเป็นกลุ่มนักเรียน หรือเพิ่งเริ่มทำงาน ดังนั้น บางคนยังไม่เข้าใจว่าจะต้องป้องกันตัวเองอย่างไร รวมถึงอาจมีการเปลี่ยนคู่นอน บ่อย และอีกปัจจัยคือพบว่าปัจจุบันค่าเฉลี่ยการมีเพศสัมพันธ์นั้นมีในช่วงอายุที่น้อยลง ส่วนการพบ โรคซิฟิลิสในเด็กแรกเกิดนั้น การแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ มารดาต้องรีบมาฝากท้องเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ เพราะหากตรวจพบเชื้อจะได้รีบทำการรักษาอย่างถูกวิธี