แม่ “สหายข้าวเหนียวมะม่วง” แนวร่วมสหพันธรัฐไทย ที่ถูกทางการไทยหมายหัว ร่ำไห้วอน กสม.ตรวจสอบสถานะบุตรชาย หลังมีข่าวทางการประเทศเพื่อนบ้านส่งกลับมาดำเนินคดีในไทย หวั่นเป็นบุคคลสาบสูญเหมือนดีเจซุนโฮ โกตี๋ สุรชัย แซ่ด่าน
ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ค. นางกัญญา และนายเสถียร ธีรวุฒิ พ่อแม่ของนายสยาม ธีรวุฒิ เดินทางเข้าพบนางอังคณา นีละไพจิต กรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ กสม.ตรวจสอบ กรณีที่นายสยาม บุตรชาย หนึ่งในผู้ต้องหาหลบหนีตามหมายจับ คดีความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ม.112 ไปพำนักอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีข่าวถูกทางการประเทศเพื่อนบ้านส่งตัวกลับประเทศไทย แต่ไม่ปรากฏว่าถูกนำตัวมาดำเนินคดี สำหรับการเข้ายื่นหนังสือ กสม.ในครั้งนี้มีทนายความของศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนทำหน้าที่ประสานงาน
นางกัญญา กล่าวทั้งน้ำตาว่า บุตรชายตกเป็นผู้ต้องหา ม.112 จากการไปเล่นละครเวทีเรื่อง “เจ้าสาวหมาป่า” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นในปี 57 ไม่ได้ข่าวคราวอีกเลย แต่ทราบว่าเดินทางออกไปนอกประเทศ ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาติดตามตัวนายสยามถึงบ้านหลายครั้ง แต่ครอบครัวให้ข้อมูลอะไรไม่ได้เพราะไม่ทราบว่าบุตรชายไปพำนักอยู่ที่ใด กระทั่งเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ทราบข่าวจากเพื่อนของนายสยาม ว่า บุตรชายถูกจับกุมฐานปลอมแปลงหนังสือเดินทางที่ประเทศเวียดนาม แล้วถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย จึงรีบเดินทางไปที่กองปราบเพื่อขอเยี่ยมบุตรชายและสอบถามเรื่องการดำเนินคดี แต่ตำรวจยืนยันว่าไม่ทราบ ด้วยความเป็นห่วงจึงมาขอให้ทาง กสม.ช่วยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าบุตรชายถูกควบคุมตัวไว้ที่ไหน ทางครอบครัวจะได้ไปเยี่ยม ยอมรับว่าขณะนี้กังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวผู้ลี้ภัยถูกอุ้มหายสาบสูญไปหลายคน ยืนยันว่าหากบุตรมีความผิดจริงก็ขอให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเปิดเผย และขอให้แจ้งที่อยู่ให้ญาติทราบ อย่างไรก็ตามนางอังคณาระบุว่า จะรับนี้เรื่องไว้ แล้วประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ ตามอำนาจหน้าที่ กสม.ที่สามารถทำได้ พร้อมแนะนำว่าให้ทางครอบครัวยุติการเดินสายร้องเรียนก่อน จนกว่าจะทราบข้อเท็จจริง
...
ต่อมา ในช่วงบ่ายทนายความจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ยังได้นำพ่อแม่ของนายสยาม ธีรวุฒิ เดินทางต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เพื่อขอทราบข้อมูลในการส่งตัวนายสยามกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย แต่ยังไม่ได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสยาม ธีรวุฒิ หรือ สหายข้าวเหนียวมะม่วง เป็น 1 ใน 3 ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง ม.112 จากการร่วมแสดงละครเวทีอื้อฉาว เรื่องเจ้าสาวหมาป่า ของกลุ่มประกายไฟการละคร ในงานรำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลา และ 14 ตุลา 56 ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้แสดงเรื่องนี้ 2 คน ถูกตำรวจจับกุม และถูกศาลพิพากษาให้จำคุกคนละ 2 ปีเศษ ปัจจุบันพ้นโทษแล้วทั้งหมด
นายสยาม ได้หลบหนีหมายจับไปพำนักอยู่ประเทศเพื่อบ้านตั้งแต่ปี 57 ภายหลังเข้าร่วมกับกลุ่มนายชูชีพ ชีวสุทธิ์ ฉายา ลุงสนามหลวง นายกฤษณะ ทับไท หรือ สหายยังบลัด ตั้งกลุ่มสหพันธรัฐไท เผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์ ปลุกระดมให้คนร่วมเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองประเทศ ไปเป็นระบอบสาธารณรัฐ ทั้งยังให้ข้อมูลอันเป็นเท็จโจมตีเบื้องสูง จนเป็นบุคคลอันดับต้นๆ ที่ถูกหมายหัวจากทางการไทย โดยเฉพาะในช่วงปี 61 กลุ่มสหพันธรัฐไทได้ปลุกระดมให้คนสวมเสื้อสีดำมีตราสหพันธรัฐไทย ออกมาแสดงพลังในวันสำคัญของประเทศ ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ ทำให้มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก สุดท้ายถูกฝ่ายความมั่นคงกวาดล้าง ทั้งจับกุมดำเนินคดี และถูกขึ้นบัญชีดำไปหลายสิบคน
ต่อมาในช่วงต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทางกลุ่มสหพันธรัฐไท ถูกทางการไทยกดดันหนักจนต้องพยายามหลบหนีไปประเทศที่ 3 เพื่อขอสถานะลี้ภัย จนมีข่าวว่าถูกจับได้เพราะปลอมแปลงพาสปอร์ตและถูกส่งกลับ แต่ตำรวจไทยยืนยันไม่มีรายงานการส่งตัวผู้ต้องหา 3 รายนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้กลุ่มแนวร่วมที่เป็นปฏิปักษ์และล้มล้างระบอบการปกครองของไทย ซึ่งหลบหนีไปตั้งฐานอยู่ประเทศเพื่อบ้าน ตกเป็นข่าวถูกอุ้มหายตัวไปต่อเนื่องโดยไม่ทราบชะตากรรม นับตั้งแต่ นายอิทธิพล สุขแป้น หรือดีเจซุนโฮ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ จนถึง 3 แนวร่วมกลุ่มนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ที่มี นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือ ภูชนะ และนายไกรเดช ลือเลิศ หรือ กาสะลอง รวมอยู่ด้วย ซึ่ง 2 รายหลังนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบดีเอ็นเอตรงกับศพชายไม่ทราบชื่อ 2 ศพ ที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยมแล้วนำศพมาถ่วงแม่น้ำโขง จึงสันนิษฐานว่าเสียชีวิตแล้ว.