ย่านเพชรเกษม คนไทย 2 มอญ 1
ชุดสืบสวนนครบาลโชว์ปิดคดี 3 โจรปล้นร้านรับซื้อขายจำนำเพชรพลอยย่านหลักสองแล้ว รวบผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน คนแรกลากคอได้ที่ปากทางเข้าวัดสิรินธรเทพรัตนาราม จ.นครปฐม เป็นตัวโหดที่ใช้ปืนทุบหัวเจ้าของร้านแตกยับอย่างโหดเหี้ยม สารภาพสิ้นไส้ รู้จักเพราะอยู่บ้านเช่าหลังเดียวกัน หัวโจกที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้เป็นคนวางแผนให้ปล้นร้านเกิดเหตุ ส่วนชาวมอญผู้ต้องหาคนสุดท้ายตำรวจจับได้ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตามทรัพย์สินคืนมาได้แล้วรวม 108 รายการ เหลืออีก 33 รายการที่ยังล่องหน ต้องสอบเค้นต่อ
กรณีแก๊งคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 3 คนควงปืนบุกปล้นร้านศิริชัย ปากซอยเพชรเกษม 63 แขวงหลักสอง เขตบางแค กทม. เปิดเป็นร้านรับซื้อขายและจำนำทรัพย์สิน ทั้งเพชร พลอย ทองคำ ปากกา และนาฬิกา ฯลฯ ขณะก่อเหตุใช้ปืนตีบริเวณใบหน้าและศีรษะนายศิริชัย อาศัยพานิชย์ อายุ 61 ปี เจ้าของร้าน หลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บ กวาดทรัพย์สินมีค่าไปกว่า 100 รายการ มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท จากการสืบสวนพบว่า 1 ในคนร้ายน่าจะเคยเป็นลูกค้าเอาทรัพย์สินมาจำนำตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าจาก สน.เพชรเกษม เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 พ.ค. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม และชุดสืบสวน แถลงจับกุมนายวุฒิชัย หรือเจษฎา ล้านเหรียญทอง อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 13 ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมืองสระแก้ว ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 256/2562 ลงวันที่ 7 พ.ค.62 ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ กระทำโดยแสดงความทารุณ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ โดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดฯ ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพฯ และรับของโจร จับกุมที่หน้าเซเว่น อีเลฟเว่น ทางเข้าวัดสิรินธรเทพรัตนาราม ถนนเพชรเกษม ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม พร้อมของกลางแหวนเพชร สร้อยเพชร และนาฬิการวม 45 รายการ มูลค่าเกือบ 1 ล้านบาท และสิ่งเทียมอาวุธปืนแบบลูกโม่พร้อมเครื่องกระสุน 6 นัด
...
นายวุฒิชัยให้การว่า รู้จักนายนพอนันต์ หรือชาย ภูษิตรุ่งโรจน์ อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ และนายต้นรัก (ไม่ทราบนามสกุล) ชาวมอญ ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยเพชรเกษม 83 อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพราะเช่าบ้านหลังเดียวกัน นั่งดื่มเหล้ากันบ่อย คุยกันว่าต้องการรวมพรรคพวกหาเงินก้อนใหญ่ แบ่งหน้าที่กันออกดูสถานที่ก่อเหตุ ตอนแรกคิดว่าจะเริ่มที่ร้านสะดวกซื้อ แต่คิดแล้วน่าจะได้เงินไม่เกิน 3-4 พันบาทแบ่งกันไม่คุ้ม นายนพอนันต์จึงเสนอว่าตัวเองถนัดเรื่องดูเพชรและพลอยเนื่องจากพี่สาวเคยค้าขายเพชรพลอยมาก่อน รู้จักร้านศิริชัยเป็นอย่างดีเพราะเคยเอาของไปจำนำและไปซื้อของหลายครั้ง ทางร้านไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยอะไรเลย เข้าถึงตัวเจ้าของและทรัพย์สินได้ง่าย ส่วนร้านทองที่อยู่ถึงก่อนและโรงรับจำนำที่อยู่เลยร้านศิริชัยไปมีเหล็กดัด
“หลังจากได้ข้อสรุป นายนพอนันต์ไปซื้อสิ่งเทียมอาวุธปืนมาจากย่านคลองถม เริ่มวางแผนโดยนายนพอนันต์มีหน้าที่ดูและคัดของ ผมเป็นคนถือปืน ส่วนนายต้นรักคอยรับคำสั่งทุกอย่าง จนกระทั่งเริ่มงานจริงนายนพอนันต์ใส่หมวกกันน็อกถือมีดเข้าไปก่อน ผมถือกระเป๋าสะพายใส่ปืนตามไปสมทบและชักออกมาขู่ ล็อกคอนางจารณี แสงสุด อายุ 35 ปี พนักงานในร้าน ที่นั่งอยู่ตรงตู้เก็บทรัพย์สิน เอาปืนขู่ ให้เปิดตู้ ให้นายนพอนันต์และนายต้นรักกวาดของมีค่าใส่เป้ ส่วนที่ใช้ปืนทำร้ายนายศิริชัยเพราะบันดาลโทสะ หลังได้ทรัพย์สินแล้วแยกย้ายกันขี่รถ จยย.หลบหนี ผมขี่มาคนเดียว นายนพอนันต์ไปกับนายต้นรัก กลับไปแบ่งทรัพย์สินกันที่บ้านเช่า นายนพอนันต์ได้ไปเยอะสุด นายต้นรักได้เงินสดไปแค่ 2 พันบาท แล้วแยกย้ายกันหลบหนีจนถูกจับกุม” นายวุฒิชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพฤติกรรมของคนร้ายกลุ่มนี้ นายนพอนันต์ หรือชาย ตั้งตัวเป็นหัวหน้าแก๊ง ให้ทุกคนเรียกตัวเองว่า สารวัตรชาย ชอบใส่เสื้อยืดตำรวจแล้วสวมเสื้อแจ็กเกตทับ แม้กระทั่งในเฟซบุ๊กยังมีรูปใส่เสื้อแนวนี้เกือบทุกรูป จนคนที่เจอคิดว่าเป็นตำรวจจริง มีโทรศัพท์มือถือพร้อมเบอร์โทร.กว่า 10 เครื่อง คอยสลับใช้เพื่อไม่ให้ตำรวจจับทางได้ ส่วนนายวุฒิชัยชอบแต่งตัวเหมือนทหาร ให้เรียกว่า ผู้กองเจษ นายนพอนันต์เคยก่อเหตุล้วงกระเป๋าบนรถประจำทางหลายครั้ง แต่มีหลักฐานแค่ครั้งเดียวท้องที่ สน.หลักสอง ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนกำลังประสานท้องที่ใกล้เคียงให้มาดูตัวผู้ต้องหาที่ สน.เพชรเกษม เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
ด้านการติดตามตัวคนร้ายอีกคนคือนายต้นรัก ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. และฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.9 และ สน.เพชรเกษม มีรายงานว่า สามารถจับกุมนายต้นรักได้ที่ชายแดน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ขณะกำลังจะหนีข้ามไปฝั่งบ้านเกิด แต่เงินหมดยังไม่สามารถผ่านด่านได้ จากทรัพย์สิน 141 รายการที่ถูกปล้นไป ขณะนี้ติดตามคืนมาได้ 108 รายการแล้ว เหลืออีก 33 รายการ ต้องสอบเค้นผู้ต้องหาต่อไปว่า มีใครเอาไปขาย จำนำ หรือซุกซ่อนไว้ที่ไหนอีก
ส่วนนายศิริชัยกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจสนใจติดตามคดีอย่างใกล้ชิด สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ยกแก๊งโดยใช้ระยะเวลาไม่นาน แถมยังได้ของกลางคืนมามากประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ สำหรับนายนพอนันต์เคยเข้ามาที่ร้านบ่อย ส่วนใหญ่เอาโทรศัพท์มือถือมาจำนำ บางครั้งเอาแท็บเล็ตมาขาย บางครั้งมาซื้อทีวี ครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 25 เม.ย. เอาแท็บเล็ตมาจำนำ พูดคุยกันอยู่นาน
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม คุมตัวนายวุฒิชัยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ บริเวณร้านศิริชัยและจุดใกล้เคียง ท่ามกลางบรรดาไทยมุงจำนวนมาก ใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงเสร็จสิ้น หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนนำตัวนายวุฒิชัยไปฝากขังศาลอาญาธนบุรีพร้อมคัดค้านประกันตัวทันที ศาลมีคำสั่งส่งผู้ต้องหาไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษธนบุรีโดยไม่ใครมายื่นประกันแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช รอง ผกก.สส.สน.เพชรเกษม และ ร.ต.อ.ชาติชาย ไชยบุตร รองสว.สส.สน.เพชรเกษม พร้อมกำลัง คุมตัวนายต้นรัก หรืออาว จอ มู อายุ 36 ปี ชาวพม่า ผู้ต้องหารายสุดท้ายที่จับกุมได้ในพื้นที่ตะเข็บชายแดน จ.กาญจนบุรี กลับมาสอบสวน นายอาว จอ มู รับว่า เข้าเมืองไทยมารับจ้างเป็นคนงานตามไซต์งานย่านกระทุ่มแบน และร่วมก่อเหตุปล้นร้านรับซื้อและรับจำนำเพชรพลอยอัญมณีจริง หลังก่อเหตุได้ส่วนแบ่งเป็นแหวน 5 วงและนาฬิกา 1 เรือน นำไปฝากเพื่อนชื่อนายชาญขายที่ร้านรับซื้อของเก่าที่ จ.สมุทรสาคร ได้เงิน 12,000 บาท ใช้จ่ายระหว่างหลบหนีหมดแล้ว
...
พ.ต.อ.วุฒิชัยเผยว่า ขณะนี้จับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมด 3 คน นายอาว จอ มู จะถูกคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเวลา 10.00น.พรุ่งนี้ (9 พ.ค.) และนำไปตรวจค้นที่พักในซอยเพชรเกษม 83 ก่อนฝากขังศาลอาญาธนบุรีวันถัดไป ส่วนของกลางที่ผู้เสียหายระบุไว้ว่าถูกปล้นไป 141 ชิ้น มูลค่าราว 4.7 ล้านบาทนั้น ขณะนี้ติดตามกลับมาได้แล้ว 108 ชิ้น เหลืออีก 33 ชิ้น มูลค่าประมาณ 800,000 บาท ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน อ้างว่าแบ่งกันนำไปขายแลกเงินมาใช้ระหว่างหลบหนี อยู่ระหว่างสืบสวนตามกลับมาคืนผู้เสียหายอย่างเร่งด่วน