ไม่ใช่เป็นผู้ที่มีฐานะยากจนอะไร ครอบครัวอยู่ในขั้นที่ว่า "มีกินมีใช้" ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้สอบปากคำพร้อมพูดคุยกับคนในครอบครัวของ "นายธนกฤต หรือมิน เวโรจนนันท์" ผู้ต้องหาหนุ่มหล่อ วัยเพียง 29 ปี แต่มีพฤติกรรมชอบเข้าไปหลอกกินอาหารฟรีในโรงแรมหรูพื้นที่ สน.ลุมพินี พร้อมสั่งอาหารและเครื่องดื่มที่แพงที่สุดของร้าน ก่อนจะตีเนียนชิ่งหนีกันดื้อๆ 

เรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดเผยขึ้นทันทีที่ได้รับข้อมูลจากทางพนักงานโรงแรมหรูเขตพื้นที่ สน.ลุมพินี เหตุคนร้ายเป็นชาย รูปร่างหน้าตาดี ทำทีเข้ามาสั่งอาหารที่ร้านภายในโรงแรม เช็กบิลราคาอาหารหลักหมื่น จนสุดท้ายก็ออกอุบายหนีหาย ทิ้งจานอาหารแก้วไวน์ไว้บนโต๊ะให้พนักงานดูต่างหน้า เพราะไม่รู้ว่าจะไปเก็บเงินที่ใคร 

"เค้าสั่งอาหารแพงๆ ทาน พร้อมกับไวน์ราคาแพงที่สุดในร้าน แล้วก็นั่งทานปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งทานเสร็จทำทีขอตัวไปเข้าห้องน้ำ หรือบางครั้งก็ตีเนียนเดินออกไปเฉยๆ ไม่วนกลับมารับผิดชอบค่าอาหารบนโต๊ะ และทำพฤติกรรมซ้ำๆ แบบนี้ในโรงแรมหลายแห่ง มูลค่าราคาอาหารพร้อมเครื่องดื่มแต่ละมื้อราคา 1 หมื่นบาทขึ้นไป และแพงสุดเท่าที่ได้ข้อมูลคือ 38,800 บาทต่อมื้อ สร้างความเดือดร้อนให้กับพนักงานร้านอาหารที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องการเช็กบิล" พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ลุมพินี กล่าว

...

เบื้องต้นผู้ต้องหายอมรับเพียงว่า ได้ก่อเหตุขึ้นเฉพาะในพื้นที่ สน.ลุมพินี ส่วนโรงแรมที่มีหลักฐานชัดเจนว่าเข้าไปหลอกกินฟรี คือ "โรงแรมดิ แอทธินี" ค่าอาหารรวม 18,843 บาท โรงแรมเซนต์ รีจิส ค่าอาหารรวม 38,800 บาท และ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท ค่าอาหารรวม 16,130 บาท 

ในส่วนพฤติกรรมก่อนถูกจับกุมนั้น "จากการสอบปากคำเค้าทราบว่าปัจจุบันทำงานกับเพื่อนที่รู้จักเป็นครั้งคราว ไม่ได้มีงานทำประจำเป็นหลักแหล่ง ทุกครั้งที่เข้าไปในโรงแรมเป้าหมายก็จะเข้าไปคนเดียว ไม่ได้ชวนเพื่อนไปด้วย จากนั้นก็จะเริ่มสั่งอาหารแพงๆ โดยเฉพาะไวน์ยี่ห้อดัง ราคาขวดละหลายหมื่น ล่าสุดขณะที่ตำรวจทราบข้อมูลประสานกับทางโรงแรม รอดูท่าทีก่อนเข้าจับกุม เค้าก็ยังสั่งไวน์ราคาสูงลิบ แต่พนักงานรู้ทันแล้ว จึงนำไวน์ราคาถูกมาให้ทาน ปรากฏว่าเค้าถามกลับมาที่พนักงานว่า "ทำไมเอาไวน์ราคาถูกมา" นั่นแสดงว่าเค้าน่าจะมีรสนิยมและเชี่ยวชาญด้านการดื่มไวน์พอสมควร" พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป กล่าว 

ทางด้านพื้นฐานครอบครัวของผู้ต้องหา ทราบว่าที่บ้านรับราชการ ส่วนตัวเค้าเองก็เรียนจบปริญญาตรีมหาวิทยาลัยชื่อดังของไทย ทั้งยังมีบัตรเครดิตที่สามารถรูดใช้จ่ายได้ตามต้องการ จึงไม่ทราบว่าอะไรดลใจให้ต้องทำพฤติกรรมแบบนี้ 

"เค้ารู้สึกว่าเมื่อตัวเองทำได้แล้วประสบความสำเร็จ บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ส่วนจะป่วยเป็นอะไรรึเปล่าเราคงต้องไปเช็กประวัติจากโรงพยาบาลอีกที เนื่องจากแม่เค้าได้ให้ข้อมูลว่าเวลาลูกชายไปหาหมอจะไปคนเดียว ส่วนใหญ่ที่ทราบคือไปรักษาหมอฟัน โดยใช้บัตรเครดิตรูดใช้ตามปกติ ที่สำคัญลูกชายไม่มีพฤติกรรมแปลกแยกจนถึงขั้นก่อเหตุการณ์ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน" พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป กล่าว

ขณะรอเข้าจับกุม ทางตำรวจได้รับแจ้งจากทางโรงแรมโรสวูด ย่านเพลินจิต ว่ามีชายลักษณะเหมือนที่เคยประชาสัมพันธ์เตือนไว้ได้มาใช้บริการที่ร้าน พร้อมกับสั่งไวน์ราคาขวดละ 2 หมื่นกว่าบาท แต่แสดงท่าทีมีพิรุจ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงได้ซุ่มดูอยู่พักใหญ่ก่อนจะเข้าแสดงหมายจับกุมในข้อหา “สั่งซื้อและบริโภคอาหาร หรือเครื่องดื่มโดยรู้ว่าตนไม่สามารถชำระเงินค่าอาหารและเครื่องดื่ม”

...

"ร้านนี้เค้าเคลียร์บิลทั้งหมด เพราะเช็กราคาออกมาเพียงแค่ 3,000 กว่าบาท ส่วนร้านอื่นๆ ที่ผ่านมาไม่ได้จ่ายเพราะว่ามันแพงเกินไป เบื้องต้นเท่าที่เค้ารับสารภาพมีแค่ 3 แห่งที่ทำ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกเตือนตามโรงแรมดังในพื้นที่ สน.ลุมพินี ให้ช่วยกันเฝ้าระวังชายที่มีลักษณะรูปร่างหน้าตาแบบนี้ไปแล้ว หากพบว่าเค้ายังเคยไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆ อีก ให้ผู้เสียหายนำหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิดได้ทันที" พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ให้ข้อมูลทิ้งท้าย 

หลังจากทราบข้อมูลทั้งหมด ทางทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ได้ต่อสายตรงไปขอคำปรึกษากับ พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ เพื่อให้ช่วยวิเคราะห์อาการเบื้องต้นว่าการกระทำแบบนี้เรียกว่ามีอาการทางจิตหรือไม่ 

"คนที่เป็นจิตเพศ หรือมีอาการทางจิต จะคิดอะไรซับซ้อนหรือวางแผนการอะไรไม่ได้ เพราะสติเค้าจะหลุดไปเลย เช่น มีอาการหูแว่ว พูดจาไม่รู้เรื่อง หรือคิดอะไรไปเอง และมีความเชื่อที่แปลกๆ ไปจากคนทั่วไป แต่ถ้าหากคนที่ยังสามารถคิดทำอะไรได้เองโดยปกติ มีการลำดับขั้นตอนคิดก่อนทำตามที่ปรากฏ ก็ไม่น่าจะส่อว่ามีอาการทางจิต ตรงจุดนี้ทางที่ตำรวจสามารถส่งตัวไปตรวจได้ที่โรงพยาบาลว่าผู้ต้องหามีอาการทางจิตหรือไม่". 

...