กทม.เอาผิดผู้ว่าเคหะ เป็นคนขออนุญาตทํางานจนแฟลตดินแดงพังถล่ม

สำนักงานเขตดินแดง ส่งตัวแทนแจ้งความเอาผิดกับผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ บริษัทผู้รับจ้างรื้อถอนและผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหมด จากเหตุอาคารเคหะชุมชนดินแดงถล่มลงมาระหว่างรื้อถอนแล้ว ขณะที่ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ บอกให้เป็นไปตามกระบวนการทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิดของผู้รับเหมารื้อถอน ทั้งที่มีคำสั่งให้ชะลอการรื้อถอนตั้งแต่ 14 ก.พ. และอยู่ระหว่างการขอเข้ารื้อถอนต่อ เผยชาวบ้านยืนยันการรื้อถอนไม่ได้มาตรฐาน คนงานรื้อจากชั้นล่างก่อนทำให้อาคารพังลงมา ด้าน “บิ๊กตู่” สั่งเร่งเยียวยาตามระเบียบราชการ พร้อมหาทางไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก

กรณีอาคารเคหะชุมชนดินแดง แฟลต 18-20 แขวงและเขตดินแดง กทม. อยู่ระหว่างการรื้อถอนตามโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 2 ถล่มลงมาในช่วงเย็นวันที่ 2 เม.ย. ทำให้เสาไฟฟ้า 7 ต้นหักโค่นทับรถยนต์ที่จอดอยู่เสียหาย 9 คัน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุมี ทหารกองร้อยรักษาความสงบเขตดินแดงและเขตปทุมวัน นำกำลังมาตั้งเต็นท์อำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ก่อนทำความสะอาดเก็บเศษซากสิ่งก่อสร้างต่างๆ เพื่อให้ประชาชนสัญจรได้สะดวก ทั้งนี้ในช่วงเช้ามืดมีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าหลายเขตนำอุปกรณ์หนักมาติดตั้งเสาไฟฟ้าที่หักโค่น จนสามารถจ่ายไฟฟ้าให้ผู้พักอาศัยละแวกนั้นได้ใช้ตามปกติ

นายเรืองเดช พงษ์จันทรโอ ผช.ผอ.เขตดินแดง เปิดเผยว่า ลงพื้นที่เพื่อฟื้นฟูและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันได้ส่งตัวแทนของสำนักงานเขตดินแดงไปแจ้งความที่ สน.ดินแดง เพื่อให้เอาผิดกับผู้รับจ้างรื้อถอน รวมถึงการเคหะแห่งชาติในฐานะผู้ว่าจ้าง ฐานฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เนื่องจากก่อนหน้านี้มีชาวบ้านร้องเรียนเข้ามาว่าได้รับผลกระทบจากการรื้อถอน ทั้งปัญหาด้านฝุ่นและเสียง โดยพบมีปัญหาอยู่จริง จึงปิดประกาศห้ามรื้อถอนและห้ามเข้าพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. แต่ผู้รื้อถอนยังฝ่าฝืนเข้ามารื้อถอน หลังจากนี้จะประสานผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเข้ามาดูแลให้การรื้อถอนให้เป็นไปด้วยความปลอดภัย ตามปกติการรื้อถอนจำเป็นต้องดำเนินการ ที่ชั้นบนสุดก่อน แต่ครั้งนี้เป็นการเจาะฐานรากทำให้อาคารถล่มลงมา

ด้านนายยงยุทธ ขำโพธิ์ อายุ 41 ปี ชาวบ้านแฟลตดินแดงผู้ดูแลรถแท็กซี่ที่ได้รับความเสียหาย 3 คัน กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุผู้รื้อถอนนำรถแบ็กโฮเข้ามาเจาะที่ชั้นล่างของอาคารก่อน จากนั้นไม่ถึง 20 นาที อาคารก็ถล่มลงมา การรื้อถอนในอนาคตอยากให้ระมัดระวังมากกว่านี้ ส่วนรถแท็กซี่ทั้ง 3 คัน ขณะนี้ทางบริษัทประกันภัยเข้ามาเจรจาขอรับผิดชอบความเสียหายเบื้องต้นแล้ว แต่ยังคงได้รับผลกระทบต่อรายได้เพราะรถเสียหายต้องหยุดวิ่งชั่วคราว

ที่ห้องประชุมสภา กทม. ศาลาว่าการ กทม.2 ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 1 ประจำปี 62 มี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัด กทม. พร้อมผู้บริหารระดับสูง สมาชิกสภา กทม.เข้าร่วมประชุม จากนั้นนายภาส ภาสสัทธา สมาชิก กทม. ยื่นญัตติด้วยวาจา ขอให้ กทม.กำหนดมาตรการตรวจสอบการรื้อถอนอาคาร จำนวนอาคารที่รื้อถอนทั้งของเอกชนและหน่วยงานราชการในเขต กทม. เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หลังเกิดเหตุอาคารที่อยู่ระหว่างการรื้อถอนถล่มมาแล้วหลายครั้ง ก่อนที่ประชุมสภา กทม.มีมติเห็นชอบกับญัตติดังกล่าว 20 เสียง ฝ่ายเลขานุการสภากรุงเทพมหานครรวบรวมรายละเอียด เสนอฝ่ายบริหารพิจารณาต่อไป

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า กรณีอาคารเคหะชุมชนดินแดงเกิดถล่มระหว่างรื้อถอนในครั้งนี้ มีการขออนุญาตสำนักการโยธา (สนย.) เพื่อรื้อถอนอาคาร โดย สนย.อนุญาตตามอำนาจหน้าที่และมอบหมายให้เขตดินแดงติดตามตรวจสอบ จากการติดตามตรวจสอบพบว่าการเคหะฯ ว่าจ้างบริษัท ขอนแก่นคอนสตรัคชั่น จำกัด เข้ารื้อถอน ระหว่างนั้นผู้รับเหมาไม่ปฏิบัติตามมาตรการรื้อถอนอาคาร สำนักงานเขต ดินแดงทำหนังสือแจ้งเตือนเมื่อเดือน พ.ย.61 แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข กระทั่งเมื่อวันที่ 14 ก.พ. จึง มีคำสั่งให้หยุดรื้อถอน แต่ยังฝ่าฝืนจนเกิดเหตุดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เป็นผู้ขออนุญาตรื้อถอนอาคาร ไม่ใช่บริษัทผู้รับเหมาขออนุญาต กทม.จึงมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานเขตดินแดง แจ้งความเอาผิดกับผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ ให้รับผิดชอบกับเหตุที่เกิด

น.ส.ปัญชพัฒน์ หลักดี ผอ.เขตดินแดง กล่าวว่า เขตได้มีคำสั่งให้หยุดการรื้อถอน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. เนื่องจากการรื้อถอนไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และไม่ปฏิบัติตามแผนป้องกันการเกิดอุบัติเหตุอย่างเข้มงวด ทางฝ่ายกฎหมายของสำนักงานเขตดินแดง จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งผู้ควบคุมงานและผู้รับเหมาก่อสร้างรื้อถอน ฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ สน.ดินแดง

อีกด้าน นายธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า เหตุครั้งนี้เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิคของผู้รับเหมาอันเนื่องจากการคำนวณอาคารที่จะทรุดตัวลง ช่วงนี้คงต้องชะลอการรื้อถอนไปก่อน ขณะเดียวกัน กคช.เตรียมส่งเจ้าหน้าที่ไปทำความเข้าใจกับประชาชนบริเวณโดยรอบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวถามกรณีก่อนหน้านี้ สำนักงานเขตดินแดงสั่งชะลอการรื้อถอน แต่ทำไมยังมีการรื้อถอน นายธัชพลกล่าวว่า ทางสำนักงานเขตดินแดงสั่งชะลอตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. จากสาเหตุฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่ง กคช.ได้เร่งแก้ไขด้วยการฉีดพ่นน้ำบริเวณที่มีการรื้อถอน พร้อมก่อรั้วสูง 6 เมตร และวันที่ 15 มี.ค.ได้ประสานไปยังเขตเพื่อขอรื้อถอนต่อ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นความเข้าใจผิดของผู้รับเหมาที่คิดว่าสามารถดำเนินการได้

“ส่วนที่สำนักงานเขตดินแดงแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดกับ กคช.กับผู้รับเหมา ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ขณะนี้ทุกฝ่ายประสานงานอย่างใกล้ชิด ตามสัญญาการรื้อถอนเดิมต้องเสร็จปลายเดือน ก.พ. แต่คงต้องขยายระยะเวลา เนื่องจากมีคำสั่งระงับการรื้อถอน ขณะนี้ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) รับทราบและกำชับให้ประสานงานกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิดแล้ว” นายธัชพลกล่าว

ขณะที่นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยว่ามอบหมายให้เจ้าหน้าที่ สมอ. ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุอาคารทรุดตัวร่วมกับนายวิวัฒน์ เชาวน์เรศ ผอ.กองพัฒนาโครงการชุมชนดินแดงการเคหะแห่งชาติ สำนักการเคหะดินแดง เบื้องต้นคาดเกิดจากการรื้อถอนไม่เป็นไปตามหลักวิศวกรรมที่ดี ทั้งนี้ สมอ.ยังขอความร่วมมือเก็บตัวอย่างเหล็กส่งไปทดสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ด้วย

วันเดียวกัน พล.ต.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้รับรายงานกรณีนี้แล้ว พร้อมทั้งแสดงความเป็นห่วงเป็นใย กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนตามระเบียบราชการ รวมทั้งเร่งหาสาเหตุเพื่อหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำขึ้นอีก