ผอ.เขตฯ เผยคำมีสั่งห้ามการรื้อถอนแฟลตดินแดงที่พังลงมา เพราะไม่ได้มาตรฐาน แต่ยังมีการฝ่าฝืน เตรียมแจ้งดำเนินคดีการเคหะฯ กับบริษัทรับเหมา พบทุบจากฐานล่างก่อน ไม่มีวิศวกรคุมงาน

จากเหตุการณ์ "แฟลตถล่ม" เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 2 เม.ย. พ.ต.ท.จักรพงศ์ สีบุญเรือง สวป.สน.ดินแดง รับแจ้งเหตุอาคารเคหะชุมชนดินแดง แฟลต 19-20 แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการรื้อถอนเกิดการทรุดตัว ทำให้รถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายหลายคัน 

ที่เกิดเหตุ พบอาคารดังกล่าว สภาพพังทรุดลงมาทั้งหมด โดยผนังอาคารที่พังลงมายังได้เกี่ยวกับเสาไฟฟ้าและต้นไม้ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงทำให้หักโค่นทับรถส่วนบุคคลและรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ 5 คัน ได้รับความเสียหายจากเสาไฟถล่มลงมา 2 ต้น เบื้องต้นไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงทำการกั้นจุดเกิดเหตุ ส่วนบริเวณจุดรื้อถอนพบรถแบ็กโฮหัวเจาะจอดอยู่ 2 คัน

สอบสวนพยานให้การว่าอาคารดังกล่าวสูง 5 ชั้น มีการทุบเพื่อรื้อถอน ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.61 โดยการเคหะแห่งชาติเพื่อสร้างโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 2 และอาคารแฟลตดินแดงใหม่สูง 35 ชั้น ขึ้นมาแทน โดยวันนี้มีการทุบอาคารโดยใช้รถเครน 2 คันทำการรื้ออาคาร โดยทุบจากฐานล่างก่อน อีกทั้งยังไม่มีวิศวกรคุมงาน เมื่อทุบฐานล่างทำให้ส่วนด้านบนพังลงมา สร้างความเสียหายอย่างมาก เนื่องจากบางห้องมีการต่อเติมทำให้โครงสร้างอาคารเปลี่ยน จึงไม่สามารถทุบจากฐานล่างไปได้เหมือนที่วางแผน ทั้งนี้ ปกติรอบตัวอาคารจะมีคนสัญจรไปมากันเยอะ โชคดีที่ตอนเกิดเหตุวันนี้กลับไม่มีคนสัญจรมากนัก แต่ทำให้ไฟดับรอบแฟลตดินแดงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนโดยรอบ

ด้าน น.ส.ปัญชพัฒน์ หลักดี ผอ.เขตดินแดง กล่าวว่า ผ่านมามีคำสั่งห้ามการรื้อถอนเนื่องจากไม่มีการสร้างรั้วหรือทำการรื้อถอนตามมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาในเรื่องการรื้อถอนที่ไม่ได้มาตรฐาน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมาไปแล้ว ดังนั้น จะต้องตรวจสอบว่ามีขั้นตอนผิดพลาดอย่างไรทำไมจึงมีการฝ่าฝืนรื้อถอนในวันนี้ ซึ่งจะได้ตรวจสอบอีกครั้งพร้อมแจ้งความดำเนินคดีกับการเคหะแห่งชาติ กับทางบริษัทที่ทำการรื้อถอนและผู้ควบคุมอาคารตามกฎหมายต่อไป

...