หลายปีดีดัก ที่ประเทศไทยอยู่ในอำนาจการปกครองของรัฐบาลทหาร ภายหลังยึดอำนาจมาเมื่อกลางปี 2557 กระทั่งเพิ่งจะได้เริ่มเข้าสู่ระบบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จะถึงภายในไม่กี่วันนี้ แต่หลายๆ คนกลับไม่มีอาการตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจ ลุ้นระทึก สมความอยากที่รอคอยมาแสนนาน และถึงแม้จะมีเรื่องให้ฮือฮากับพฤติกรรมงงๆ บ้าๆ บอๆ เหมือนไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงแต่มันก็เกิดขึ้นกลายเป็นข่าวคราวออกมาให้วิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นประเทศ จนหลายเขตพื้นที่ ต้องรอ กกต.ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงกันให้จ้าละหวั่น
หากย้อนกลับไปเมื่อปี 2554 ซึ่งเป็นการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไปครั้งที่ 26 ภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 กำหนดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ตามความในพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2554 ที่ให้ยุบสภาผู้แทนราษฎรเสีย ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2554 การเลือกตั้งครั้งนี้มีขึ้นในห้วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาล อันประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค และได้มีการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา คะแนนนิยมของรัฐบาลลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งก่อนสภาผู้แทนราษฎรจะครบวาระ
...
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนวันเลือกตั้งครั้งนั้น ถือเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดใจ เพราะมีหัวคะแนนพรรคต่างๆ ทยอยถูกยิงเสียชีวิต ก่อนที่จะถึงวันเลือกตั้งจริง โดยหัวคะแนน "พรรคเพื่อไทย" ตายทั้งสิ้น 6 ศพ หากเรียบเรียงลำดับวันเวลาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ปรากฏชัดตามไทม์ไลน์ดังนี้
พรรคเพื่อไทย จ.ลพบุรี
เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554 นายวัชรินทร์ ทางกลาง หัวคะแนน นายสุชาติ ลายน้ำเงิน พรรคเพื่อไทย ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่จังหวัดลพบุรี จากเหตุการณ์ครั้งนั้น "นายวัชรินทร์ หรือบิ๊กอึ่ง ทางกลาง" อายุ 41 ปี ผู้กว้างขวางในพื้นที่ อ.ท่าวุ้ง ทำธุรกิจจัดตลาดนัดหลายแห่งทั้งในท่าวุ้งและ อ.เมืองลพบุรี ถูกคนร้ายขี่ จยย.ตามประกบยิง ขณะกลับจากไปซื้อของที่ตลาดนัดวัดวิหารขาว 4 นัดซ้อนจนรถล้ม มือปืนยังตามมาลั่นไกจ่อยิงอีก 2 นัด จนแน่ใจว่าเสียชีวิตแล้วจึงเร่งเครื่องรถหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำวันที่ 28 เม.ย. เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นสาเหตุ 3 ประเด็นเรื่องขัดแย้งจัดตลาดนัด ซึ่งมีการแข่งขันกันสูง ขัดแย้งกลุ่มผู้มีอิทธิพลนอกกฎหมาย และเรื่องการเมืองที่เป็นหัวคะแนนให้นักการเมืองนั้น
พรรคชาติไทยพัฒนา จ.อ่างทอง
22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 นายวิโรจน์ ดำสนิท นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง หัวคะแนน นายนิมิตร แก้วกำพล พรรคชาติไทยพัฒนา ถูกคนร้ายเสียชีวิต ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้ก่อเหตุคือ ปราโมทย์ คงทอง ซึ่งมีปากเสียงกันก่อนจะบันดาลโทสะใช้ปืนยิงผู้ตายเสียชีวิต ตำรวจพุ่งเป้าขัดแย้งส่วนตัว เรื่องการเมืองท้องถิ่นกับ ส.จ.คนหนึ่ง และเรื่องขัดผลประโยชน์ธุรกิจบ่อทรายที่มีจำนวนมากในพื้นที่นั้น
พรรคเพื่อไทย จ.เชียงราย
2 มิถุนายน พ ศ. 2554 นายมงคล วีระวัฒน์พงษ์ศธร ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านห้วยส้าน หมู่ 8 ต.แม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย หัวคะแนนพรรคเพื่อไทย ถูกคนร้ายยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มิลลิเมตร ถูกยิงตามร่างกายกว่า 10 นัด สอบสวนทราบว่าผู้ตาย พร้อมลูกน้อง 4 คน กลับจากประชุมกำนัน และผู้ใหญ่บ้านประจำเดือนที่ว่าการ อ.แม่ฟ้าหลวง ได้พากันแวะรับประทานมื้อเที่ยง และได้มีชายฉกรรจ์สองคนขับขี่รถจักยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาจอดที่หน้าร้าน จากนั้นคนซ้อนท้ายถือปืนตรงเข้าไปจ่อยิงนายมงคลจนล้มลงก่อนจะยิงซ้ำอีกนับ 10 นัด แล้วพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
สันนิฐานเบื้องต้นว่าน่าจะมาจากความขัดแย้งส่วนตัว ไม่น่าจะเกี่ยวกับการเมือง เพราะแม้ผู้ตายเป็นหัวคะแนนให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งสส.คนหนึ่ง แต่สามารถคุมฐานเสียงชาวเขาอาข่าจำนวนมากเอาไว้ได้ ประกอบกับในพื้นที่ไม่ได้มีการแข่งขันกันรุนแรง มีเพียง น.ส.ละออง ติยะไพรัช น้องสาวของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยที่เป็นผู้สมัครตัวเต็งเพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นๆ ล้วนเป็นผู้สมัครหน้าใหม่และไม่มีชื่อชั้นเพียงพอ
...
พรรคเพื่อไทย จ.เพชรบุรี
2 มิถุนายน พ ศ. 2554 นายวุฒิชาติ กันพร้อม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตำหรุ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี หัวคะแนนพรรคเพื่อไทย ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554 ตำรวจคาดว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนกลมือขนาดกระสุน 11 มิลลิเมตร จากการสอบสวนเบื้องต้น ปมสังหารครั้งนี้ไม่น่าเกี่ยวข้องกับเรื่องของการเมืองหรือการเลือกตั้ง เนื่องจากการเมืองในเขตที่ผู้ตายดำรงตำแหน่งอยู่นั้น ไม่รุนแรง
และส่วนตัวผู้ตายเองนั้นก็ใกล้จะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในราวกลางปีหน้าอยู่แล้วและส่วนตัวผู้ตายมีธุรกิจหลายอย่าง รวมถึงเป็นผู้มีนิสัยเล่นการพนันด้วยดังนั้น การฆาตกรรมดังกล่าวไม่น่ามีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่าซึ่งตัดปมการเมืองออกไป
พรรคเพื่อไทย จ.ปัตตานี
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554 นายดาหารี การี หัวคะแนนพรรคเพื่อไทย ถูกคนร้ายคาดว่าเป็นพรรคการเมืองคู่แข่งใช้มีดแทงเสียชีวิต ที่จังหวัดปัตตานี สาเหตุจากการโต้เถียงทางการเมือง สอบสวนทราบว่า นายดาหารีเป็นหัวคะแนนให้กับ นายอดิลัน อาลีอิสเฮาะ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ปัตตานี พรรคเพื่อไทย มีหน้าที่รับผิดชอบติดป้ายหาเสียงให้กับพรรคและนายอดิลัน ก่อนเกิดเหตุนายดาหารีนั่งดื่มน้ำชาภายในร้านและสนทนาเรื่องการเมืองกับชาวบ้านในพื้นที่ ระหว่างนั้นมีคนในร้านน้ำชา 2-3 คน คาดว่าเป็นกลุ่มสนับสนุนพรรคการเมืองคู่แข่ง คาดว่าไม่พอใจคำพูดของนายดาหารี จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น สุดท้ายหนึ่งในกลุ่มที่โต้เถียงกันได้เดินกลับบ้าน แล้วนำมีดปลายแหลมกลับมาแทงนายดาหารี ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปพร้อมพวก
...
"หลังเกิดเหตุ นายอดิลัน ได้เดินทางไปดูศพนายดาหารี และกล่าวว่า การสังหารนายดาหารีเป็นนเรื่องการเมืองอย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มสนับสนุนพรรคการเมืองคู่แข่งของเขาเอง และเป็นคนในพื้นที่เหมือนกัน"
พรรคภูมิใจไทย จ.ลพบุรี
วันที่ 16 มิถุนายน 2554 นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี ซึ่งเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของพรรคภูมิใจไทย และเป็นพี่ชายของ มะลิวัลย์ จิระพันธุ์วาณิช ผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี สังกัดพรรคภูมิใจไทย ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงเทพมหานคร โดยนางอรพิน จิระพันธุ์วาณิช ภรรยา ได้รับบาดเจ็บสาหัส และนางชนุตพร โพธิสัมภารวงศ์ เลขานุการของสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิชได้รับบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ได้ประชุมหารือแนวทางการทำงานตามคนร้ายตั้งแต่วันเกิดเหตุโดยมีการแบ่งงานในการลงพื้นที่สืบสวนเพื่อหาสาเหตุการสังหารแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจไปประเด็นใดประเด็นหนึ่ง เนื่องจากมีหลายสาเหตุที่อาจเป็นปมสังหารครั้งนี้ สำหรับพฤติกรรมคนร้ายนั้นจากการสืบสวนสอบสวน เชื่อว่า น่ามีการติดตามมาจากพื้นที่ จ.ลพบุรี และน่ามา 2 คน โดยอาจมีคนที่พามือปืนหลบหนี หรือชี้เป้าอีก 1 คน และพฤติกรรมคนร้ายน่าเป็นมือปืนอาชีพ จึงกล้าลงมืออุกอาจบุกเข้ายิงกลางสถานที่พลุกพล่านต่อหน้าประชาชน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นนั้นทราบว่าผู้ตายรู้ตัวก่อนหน้านี้ มีความระวังตัวอยู่ตลอดเวลามานานแล้วเช่นกัน
...
พรรคเพื่อไทย จ.พระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554 นายรังสรรค์ อินทสุทธิ์ หัวคะแนนสุรเชษฐ์ ชัยโกศล "พรรคเพื่อไทย" ถูกยิงเสียชีวิตที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสนองพจน์ อยู่เล็ก คนร้าย อ้างว่าเป็นการป้องกันตัวและเข้ามอบตัวกับตำรวจ
ภายหลังเข้ามอบตัว นายสนองพจน์ อ้างว่าเป็นผู้รับเหมาทำงานวัด ไปไหนมาไหนก็ต้องพกปืนเป็นประจำ ในวันเกิดเหตุ เดินเข้าไปในวงสังสรรค์แต่ถูกนายรังสรรค์พูดดูถูก จากนั้นกระโดดชกต่อยที่ใบหน้าแล้วเกิดความชุลมุนขึ้น ตนได้ยินเสียงคนในวงสังสรรค์พูดขึ้นว่า เฮ้ยปืนอยู่ในรถ จากนั้นนายรังสรรค์รีบเดินออกไป ตนต้องป้องกันตัว จึงชักปืนยิงออกไป 1 นัด ถูกหรือไม่ถูกก็ไม่รู้ จากนั้นจึงวิ่งหลบหนีด้วยการขี่รถจักรยานยนต์ออกไป แล้วนำปืนโยนทิ้งข้างทาง
นายสนองพจน์ บอกต่อว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่เคยมีเรื่องกับใคร เรื่องที่เกิดเป็นเรื่องธรรมชาติที่ต้องป้องกันตัว หลังจากหนีไปแล้ว ตนมีนิติภาวะ ถ้าหนีก็ลำบาก ไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่ จึงตัดสินใจเข้ามอบตัวดังกล่าว
พรรคเพื่อไทย จ.สระบุรี
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554 นางจงกล บุญญา อดีตนายก องค์การบริหารส่วนตำบลเขาวง จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของผู้สมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 1 พรรคเพื่อไทย ถูกจ่อยิงเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณบ้านพักนางจงกล พบว่าเป็นร้านขายของชำบริเวณด้านหน้าร้านพบกองเลือดจำนวนหนึ่ง
ส่วนญาติที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้มีวัยรุ่น 2 คนสวมเสื้อแจ๊คเกตสีดำ ขี่รถจยย.แบบหญิงไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน เข้ามาที่ร้านของนางจงกล ทำที่มาซื้อของพอสบโอกาสคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายมาได้ชักอาวุธปืนจ่อยิงที่หน้าอกด้านซ้ายของ นางจงกล จำนวนหนึ่งนัดจนล้มฟลุบ ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่เพื่อนจอดรออยู่ขับหลบหนีไป จากนั้นหลังสิ้นเสียงปืน ญาติได้วิ่งมาดูพบนางจงกล นอนจมกองเลือดหายใจรวยริน จึงได้รีบนำตัวส่ง รพ.พระพุทธบาท และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนและติดตามจับจุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พรรคประชาธิปัตย์ จ.ยะลา
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554 นายโสภณ สองแก้ว กำนัน ตำบลยุโป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา หัวคะแนนของพรรคประชาธิปัตย์ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 11 มิลลิเมตร ยิงที่ศีรษะ ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส การสังหารอย่างอุกอาจและสะเทือนขวัญครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ตั้งไว้หลายประเด็น ทั้งปัญหาการเมืองระดับชาติ เนื่องจากนายโสภณ เป็นบุคคลกว้างขวางในพื้นที่ และเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ และประเด็นการเมืองท้องถิ่น ซึ่งในวันที่ 5 กรกฎาคม จะครบวาระการเลือกตั้งกำนันครั้งใหม่ รวมทั้งประเด็นสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ด้วย
พรรคภูมิใจไทย จ.ราชบุรี
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554 นายวิทยา ศรีพุ่ม หัวคะแนน พรรคภูมิใจไทย นายก องค์การบริหารส่วนตำบลดอนใหญ่ อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ถูกจ่อยิงเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนขนาด .38 สาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องการเมืองท้องถิ่น
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายกำลังจะเดินทางไปทำงานที่สำนักงาน อบต. แต่ระหว่างทางมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืน .38 จ่อยิงผู้ตายจำนวน 2 นัด เสียชีวิตคาที่และหลบหนีไป ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้หลายประเด็น ทั้งเรื่องส่วนตัว และขัดแย้งภายใน อบต.ดอนใหญ่ ขณะเดียวกัน ผู้ตายเองก็เป็นหัวคะแนนให้กับ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย จนมีการส่งข้อความข่มขู่ให้วางตัวเป็นกลาง
เบื้องต้นทราบชื่อคนร้ายคือ นายมนต์ชัย เย็นเปิง อายุ 34 ปี และ นายชลอ กลิ่นหนู อายุ 35 ปี ซึ่งทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุนายมนต์ชัย ขับรถจักรยานยนต์ พานายชะลอ ซ้อนท้ายพร้อมทั้งพกปืนขนาด .38 มม. เพื่อไปสังหาร นายวิทยา เพราะความแค้นส่วนตัวเรื่องชู้สาว ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้เปลี่ยนจากรถจักรยานยนต์มาเป็นขับรถกระบะหลบหนี แต่มาเจอด่านตรวจที่ สภ.โพธาราม จึงถอดเสื้อคลุมและหมวกกันน็อคทิ้งไว้ แล้วย้อนกลับไปถอดชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และเผาทำลายที่โรงเก็บอาหารกุ้งของพ่อนายมนต์ชัย บางส่วนนำทิ้งลงคลองสาธารณะ ส่วนปืนซ่อนไว้ในบ้านร้างตรงข้ามบ้านนายชลอ
พรรคภูมิใจไทย จ.นราธิวาส
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554 นายซาการียา หะมะ หัวคะแนนพรรคภูมิใจไทย จังหวัดนราธิวาส บาดเจ็บสาหัสจากการถูกลอบสังหารหลังจากเดินทางกลับจากการประชุมร่วมกับผู้สมัครในพื้นที่
นายซาการียา เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 มิ.ย. ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส หลังจากประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้เดินทางกลับบ้าน ตามถนนสายโก-ลก-แว้ง เมื่อมาถึง บ้านน้ำขาว ม.3 ต.กายูคละ ได้มีวัยรุ่นจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามหลังมาและได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ จึงได้พยายามขับรถหลบหนีกระทั่งมาจนถึงในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จึงให้เพื่อนมารับนำส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
นาซาการียา ระบุอีกว่า ได้ไปทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย มีอาชีพทำงานก่อสร้าง กระทั่งเป็นช่วงที่จะมีการเลือกตั้งจึงได้กลับมาเพื่อเป็นหัวคะแนนให้กับผู้ที่ลงสมัครเลือกตั้งส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในเขต 2 ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร เนื่องจากไม่เคยมีเรื่องกับใครที่ไหน