"สารวัตรชิน" ขอบคุณ ผบ.ทบ. ตั้งกรรมการสอบพันโท คู่กรณี ปมค่าตัดชุดตำรวจ 5.2 ล้าน ย้อนถาม ยังคิดว่าตนเป็นเพื่อนไหม จับตาหลังถูกตั้งสอบ อาจกระทบเรียนหลักสูตรเสนาธิการทหารบก ...
จากกรณี ว่าที่ พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ ตั้งมหากิจศิริ สว.ฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ บก.สก. หรือ “สารวัตรชิน” เดินทางไปที่บริเวณด้านหน้าโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เพื่อก้มกราบป้ายด้านหน้าสถาบันอันทรงเกียรติ และเรียกร้องความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชาทหาร หลังสืบทราบว่า พ.ต.ธงธน มากจันทร์ ทหารสังกัด พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 45 และเป็นคู่กรณีพิพาทในเรื่องฉ้อโกงค่าตัดเครื่องแบบตำรวจ มูลค่ากว่า 5,200,000 บาท ได้เดินทางมาเข้ารับการอบรมหลักสูตรเสนาธิการทหารบก เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่กลับชวดไม่ได้พบตัวตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 13 มี.ค. ว่าที่ พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ ตั้งมหากิจศิริ สว.ฝ่ายการฌาปนกิจสงเคราะห์ บก.สก. หรือ “สารวัตรชิน” เปิดเผยว่า หลังตนเดินทางไปกราบป้ายโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อวานนี้ เพื่อขอเข้าพบพูดคุยกับ พ.ต.ธงธน มากจันทร์ เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร แต่ไม่ได้เข้าพบ วันนี้ทราบข่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ตนจึงอยากกราบขอบพระคุณท่าน ผบ.ทบ. ที่ให้ความสนใจและเล็งเห็นเรื่องนี้เป็นความเดือดร้อนของข้าราชการตำรวจกว่า 5,000 นาย จาก 150 หน่วยงานต้นสังกัด ซึ่งหลังจากนี้ข้อเท็จจริงน่าจะกระจ่างในเร็ววัน
...
ว่าที่ พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนทำหนังสือร้องทุกข์ไปยังหน่วยงานต่างๆ จำนวน 13 ฉบับ แต่ไม่มีความคืบหน้านั้น นอกจากร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมการฉ้อโกงของ พ.ต.ธงธน เพื่อนร่วมรุ่นซึ่งเป็นคู่กรณีแล้ว ยังร้องเรียนพฤติกรรมการนำพลทหารหลายนายที่อยู่ในความปกครอง ไปใช้งานในธุรกิจส่วนตัวตัดเย็บเสื้อผ้าของภรรยา โดยใช้งานพลทหารในช่วงเวลาราชการด้วย เนื่องจากตนมีหลักฐานเป็นภาพระหว่างการทำงาน
ซึ่งหลังจากที่ตนเดินทางไปกราบป้ายโรงเรียนเสนาธิการทหารบกแล้ว ได้มีผู้บังคับบัญชาทหารติดต่อเข้ามา ขอเป็นตัวแทนในการนัดพบเพื่อเจรจาระหว่างตน และ พ.ต.ธงธน แต่ตนก็ยังไม่แน่ใจว่า ผลการเจรจาจะออกมารูปแบบใด ในขณะนี้ตั้งใจว่าจะเดินหน้าฟ้องร้องต่อศาลให้ดำเนินการกับ พ.ต.ธงธน และภรรยา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ต่อไป เนื่องจากเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะเป็นที่พึ่งให้ตนและเพื่อนๆ ข้าราชการตำรวจที่ได้รับความเสียหายได้ดีที่สุด
“การออกมาเรียกร้องให้ พ.ต.ธงธน รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ตนยืนยันไม่ได้ถือโทษโกรธเคือง พ.ต.ธงธน ที่ถือเป็นเพื่อนร่วมสถาบันกันมา แต่การที่ พ.ต.ธงธน ทำกับตนแบบนี้ อยากถามความรู้สึกว่าเจ้าตัว ยังคิดว่าตนเป็นเพื่อนหรือไม่ ที่สำคัญไม่ได้มีเพียงตนที่เป็นผู้เสียหายเพียงคนเดียว แต่มีเพื่อนๆ ข้าราชการตำรวจอีกหลายนาย ได้รับความเดือดร้อนจากการเสียเงินค่ามัดจำรวมกว่า 5,200,000 บาท โดยขณะนี้ตนพยายามรวบรวมเงินส่วนตัวที่พอจะหาได้ ชดใช้แทน พ.ต.ธงธน กับภรรยา ไปแล้วประมาณ 2,000,000 บาท อยากให้ พ.ต.ธงธน ที่ตนถือเป็นเพื่อนมาโดยตลอดออกมารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา เพราะเงินค่ามัดจำทั้งหมดตนก็ได้โอนเข้าบัญชีของภรรยา พ.ต.ธงธน ไปทั้งหมดแล้ว และตนก็มีหลักฐานชัดเจน” ว่าที่ พ.ต.ท.วุฒิพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน พ.ต.ธงธน มากจันทร์ ซึ่งเป็นทหารมีต้นสังกัดอยู่ที่ พล.ร.9 จ.กาญจนบุรี ได้เข้ามาศึกษาหลักสูตรเสนาธิการทหารบก ที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. เป็นระยะเวลานานแล้ว เหลืออีกไม่กี่เดือนก็จะจบหลักสูตร ออกไปเป็นนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาหน่วยงานหลักของกองทัพบกได้ แต่หลังจากถูก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ต้องดูว่าจะส่งผลกระทบหรือไม่ เนื่องจากตามระเบียบการเข้ารับการศึกษาหลักสูตรเสนาธิการทหารบก ข้อที่ 1.12 ซึ่งระบุชัดเจนว่าต้อง “เป็นผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่างการสอบสวนทางวินัย หรือเป็นจำเลยของศาลในคดีอาญา” ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.