แฉกันเอง กระชากหน้ากาก "มาเฟียแท็กซี่" ไม่กดมิเตอร์ รีดไถผู้โดยสาร

หน่วยงานไหนก็ไม่สามารถจัดการปัญหาแท็กซี่ฉ้อฉล อาศัยช่องว่างเอารัดเอาเปรียบผู้โดยสารครั้งแล้วครั้งเล่า สารพัดวิธีที่ไม่สมควรจะมาประกอบอาชีพนี้ และต้องยึดใบขับขี่ถาวร เนื่องจากไม่เหมาะสมจะทำอาชีพให้บริการประชาชนโดนสิ้นเชิง เฉกเช่นกรณีล่าสุด เด็กต่างจังหวัดขึ้นมาจากภาคใต้ กระทั่งนั่งรถมาลงหมอชิต จนเกิดเหตุการณ์ถูกโชเฟอร์แท็กซี่โกงค่าโดยสารและไม่กดมิเตอร์ เรียกรถจากหน้าหมอชิตไปลงรังสิต คิดเงินสูงถึง 900 บาท

โดยมีการแชร์เรื่องราวทั้งหมดผ่านโลกโซเชียล ระบุข้อความว่า "คุณคิดว่าเด็กต่างจังหวัดเดินทางมาสอบจะมีเงินติดตัวมาเท่าไหร่ #คุณถึงได้ทำแบบนี้กับเด็ก "....เด็กสองคนนี้ เป็นหลานผม เดินทางจากสงขลามาลงหมอชิตเพื่อจะมาสอบ พอถึงหมอชิต ก็ขึ้นเเท็กซี่จะมารังสิต ถูกแท็กซี่คันนี้เรียกเก็บเงินค่าโดยสาร 900 บาท โอ้ว!!!! ค่าเเท็กซี่ 900 ฟังดูแพงแล้วใช่มั้ยครับ แต่เรื่องไม่ได้จบลงที่ 900 นะครับ ปรากฏว่าแท็กซี่คันนี้เรียกเก็บ 900 ต่อคน โหดเหี้ยมมาก เท่ากับหมอชิต-รังสิตคุณเรียกเก็บเด็กไป 1,800 (ซึ่งปกติแล้วแท็กซี่มิเตอร์หมอชิต-รังสิต (เวิร์คพอยท์) ราคาอยู่ประมาณ 100 กว่าบาท ไม่เกิน 200) เด็กก็ต้องยอมจ่ายให้ไปเพราะเพิ่งมากรุงเทพฯ ครั้งแรก ไม่รู้ว่าหมอชิต-รังสิต มันไกลแค่ไหน มันอยู่ตรงไหนและอยู่ในฐานะจำยอม พอถึงบ้าน เด็กก็มาถามผมว่า ทำไมค่ารถแพงจัง พอเด็กบอกราคามา ผมนี่ร้องห๊ะ!!!! ขับรถออกไปตามแต่ไม่ทัน  ผมจะไม่ปล่อยคุณลอยนวลแน่ ผมตามสุดทางแน่ แล้วเจอกัน คุณไม่ต้องห่วง คุณมันเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคม

...ทำไมคุณทำแบบนี้ ทำไมหากินแบบนี้ ทำไมต้องคอยหากินกับคนไม่รู้. หัวจิตหัวใจคุณทำด้วยอะไร คุณรู้มั้ยว่าเด็กบ้านนอกเดินทางมาสอบ เขาจะได้เงินติดตัวมาสักเท่าไหร่ คุณปล้นเด็ก!!! ผมไม่รู้ว่าที่ผ่านมามีคนตกเป็นเหยื่อของคุณกี่คนแล้ว. และจะมีอีกกี่คนที่จะเป็นเหยื่อรายต่อไปของคุณ #หมายเหตุ ป้ายทะเบียนแท็กซี่คันนี้ มฎ-3630 กทม. สีเขียวเหลือง ชื่อป้ายในรถคือ นายประจันทร์ สิงห์ขรณ์
#ฝากแชร์ด้วยนะครับ ผมจะตามตัวแท็กซี่คันนี้ ผมอยากเอาเงินคืนให้เด็ก อยากให้เขารับผิดชอบกับเรื่องนี้ และไม่อยากให้มีคนตกเป็นเหยื่อเพิ่ม #แชร์ให้ถึงแท็กซี่คันนี้ #แชร์ให้ถึงขนส่ง

ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ได้พูดคุยกับอดีตคนขับแท็กซี่ ที่ประกอบอาชีพนี้มามากกว่า 20 ปี ได้ถ่ายทอดประสบการณ์ข้อมูลให้เราเข้าใจถึงที่มาของคำว่า "มาเฟีย แท็กซี่" มีความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงมีอยู่ทุกจุดสำคัญในกรุงเทพมหานคร

ไม่ใช่แค่ แท็กซี่มาเฟียหมอชิต "โรงแรมหรู ห้างดัง เขตการค้า ในกรุงเทพฯ"

"มันมีมานานมากๆ อย่าไปเจาะจงแค่ในหมอชิต เพราะสถานที่อื่นๆ ผลประโยชน์มากมายมหาศาล ตั้งกันเป็นคิวรถ ทำกันเป็นขบวนการ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรู้เห็นเป็นใจ และที่เป็นล่ำเป็นสันมากสุดคือ โรงแรมหรูหลายๆ แห่ง พนักงานจะรู้กันกับโชเฟอร์แท็กซี่ มีการส่งซิกเรียกให้เข้ามารับแขก พร้อมทั้งไม่กดมิเตอร์ แต่เรียกค่าโดยสารตามแต่จะตกลงกัน ซึ่งโชเฟอร์จะเป็นผู้จ่ายค่าน้ำร้อนน้ำชาให้กับพนักงานโรงแรมอีกทอดหนึ่ง"

นอกจากนี้ยังมีห้างสรรพสินค้าย่านใจกลางเมืองที่จอดรอคิว เปิดรับเฉพาะผู้โดยสารต่างชาติ หากเห็นเป็นคนไทยจะไม่รับ การคิดค่าโดยสารก็ไม่กดมิเตอร์ จะบวกราคาตามชอบใจ หากไม่เป็นไปตามที่ตกลง ก็ปฏิเสธไม่รับ ให้ไปขึ้นคันอื่น อันนี้ถือว่าสร้างความเสื่อมเสียให้กับการท่องเที่ยวในประเทศไทย และหากในกรณีที่แท็กซี่รับผู้โดยสารซึ่งเป็นคนไทยขึ้นมา นั่นหมายความว่าต้องตกลงค่าใช้จ่ายในการเดินทางแบบที่ผู้โดยสารต้องจำยอม เพราะในพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างหารถโดยสารยาก

"นอกจากนี้ตามสถานที่สำคัญๆ ในเมืองหลวง แหล่งท่องเที่ยว หรือย่านที่ฝรั่งชอบไปเที่ยวกัน แท็กซี่ผี หรือมาเฟียแท็กซี่เหล่านี้ก็จะไปแฝงตัวจับลูกค้าต่างชาติ อาศัยจังหวะเวลานักท่องเที่ยวเมาไม่ได้สติ ก่อนจะเก็บเงินค่าโดยสาร ราคาสูงกว่าความเป็นจริง ซึ่งก็จะเห็นว่าเกิดขึ้นบ่อยครั้งตามสื่อกระแสหลัก แท็กซี่ที่วิ่งรับนักท่องเที่ยวกลางคืนฉวยโอกาสได้มากกว่า เนื่องจากหลังผับเลิก ลูกค้าจะมารอเต็มถนน แท็กซี่เหล่านี้ก็จะเลือกลูกค้า และต่อรองราคากันตามชอบใจ"

รถติดยาวเป็นแถว ลูกค้าไม่ได้สมยอมจ่าย แต่ "จำยอมจ่าย"

"อย่าพูดคำว่ายินยอมจ่ายเงินเลย พูดว่าจำยอมต้องจ่ายดีกว่า เพราะมันไม่รู้จะไปเรียกรถที่ไหน เรียก 3 คันไม่มีใครไปส่งก็หมดกำลังจะยืนรอต่อ เลยต้องจำยอมขึ้นรถไปด้วยราคาค่าโดยสารสูงลิบ หรือบางทีแท็กซี่ที่จอดรอรับลูกค้าตอนกลางคืน บางรายเมาไม่รู้เรื่องแล้ว โบกรถยังไงก็ต้องขึ้นไปนั่งก่อน ถึงปลายทางอีกทีเพิ่งรู้ว่าไม่กดมิเตอร์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะขึ้นไปจนถึงบ้านแล้ว สถานบันเทิงหลายแห่งแท็กซี่บวกราคาเกินจริง 3-4 เท่าตัว ที่สำคัญรถจอดติดเป็นแนวยาว คันต่อท้ายก็ไปไม่ได้ เพราะแท็กซี่มัวแต่เลือกลูกค้า โก่งราคากันตามความพึงพอใจ แบบนี้เค้าไม่ได้เรียกว่าสมยอมนะ เค้าเรียกว่า "จำยอม" 

ปรี่เข้าไปหิ้วกระเป๋า พาผู้โดยสารขึ้นรถ 

เป็นการกระทำที่ขืนใจแบบประชิดตัว หากใครเคยโดยสารรถทัวร์ที่ขนส่งหมอชิต อาจจะได้เห็นภาพคนขับแท็กซี่มาช่วยหิ้วกระเป๋าระหว่างที่เราเดินลงจากรถ เรียกได้ว่ายังไม่ทันได้หายใจหายคอ คุณพี่โชเฟอร์ใจดีก็มาต้อนรับถึงปากประตู ถือกระเป๋าเดินทางให้เราเดินตัวปลิวพาไปใส่ท้ายรถเค้า ทำให้ผู้โดยสารเจ้าของกระเป๋าต้องรีบวิ่งตามไปแล้วจำยอมขึ้นรถแท็กซี่   

ปัญหามันเกิดขึ้นก็ตรงนี้ เมื่อโชเฟอร์แท็กซี่ไม่กดมิเตอร์ ผู้โดยต้องทวงถามสิทธิ์ของตัวเองว่าเหตุใดถึงไม่กด ....นำสู่ขั้นตอนการต่อรองแบบเหมาจ่าย ผู้โดยสารเถียงไม่ออกเพราะดันหลงกลขึ้นรถมากับเขาเอง อีกอย่างผู้โดยสารที่เป็นผู้หญิงอาจไม่รู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของโชเฟอร์แท็กซี่ ตัดปัญหายอมจ่าย ต้องยอม และจำใจยอม แม้จะจ่ายแพงหลายเท่าก็เถอะ แต่เพื่อถึงเป้าหมายอย่างปลอดภัย ซึ่งการจ่ายเงินครั้งนี้ไม่ได้เรียกว่าสมยอมจ่าย 

ดักรอผู้โดยสาร นอกเขตบริเวณซึ่งเจ้าหน้าที่จัดเตรียมไว้ให้ 

จุดนี้เราน่าจะพบบ่อยๆ ที่สนามบินดอนเมือง และขนส่งสายใต้ ขนส่งหมอชิต เรียกได้ว่าตรงไหนที่มีผู้โดยสารใช้บริการมากมาย การจราจรติดขัด ที่แห่งนั้นโชเฟอร์แท็กซี่จะสามารถฉวยจังหวะช่องว่างขับรถมาดักจอดรอริมถนน โดยไม่ต้องไปลงทะเบียนเข้าคิวให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนโชเฟอร์แท็กซี่คันอื่นๆ

เช่น ขนส่งหมอชิตใหม่ ที่เป็นปัญหาไม่จบไม่สิ้น อาจจะเพราะภายในอาคารผู้โดยสารต้องต่อคิวรอแท็กซี่ยาวมาก หลายคนรอไม่ไหว ลากกระเป๋าใบใหญ่และสัมภาระกลับมาจากบ้านนอก ออกมายืนรอแท็กซี่ริมถนน ซึ่งก็มีบรรดาแท็กซี่มาเฟียเหล่านี้เอารถมาจอดดักรอ เพราะรู้อยู่แล้วว่าคนต้องทะลักออกมา ยิ่งช่วงเทศกาล ไม่ต้องพูดถึง มากันเป็นแก๊งกลุ่มก้อน ที่สำคัญคือ ไม่มีการกดมิเตอร์เรียกค่าโดยสาร พอเปิดกระจกถามไถ่ว่าจะเดินทางไหนก็เริ่มตกลงราคา ผู้โดยสารบางคนรับได้ (ด้วยความจำยอม) ก็ต้องขึ้นรถไป เพราะไม่อยากยืนหิ้วของหนักลำพัง ในขณะผู้โดยสารที่รับไม่ได้ ก็ตั้งหน้าตั้งตาโบกคันอื่นต่อไป ถ้าโชคดีก็มีพี่โชเฟอร์ที่เค้าวิ่งผ่านไปมา และกดมิเตอร์ตามระเบียบ

มาเฟียแท็กซี่ จอดรถดักรอ มีคนคุมคิว จ่ายส่วยเจ้าหน้าที่รัฐ 

รถแท็กซี่ที่นำมาว่าส่วนใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นรถคันที่หมดวาระการใช้งาน ไม่ได้ต่อทะเบียน ไม่ได้ต่ออายุ แต่เอามาวิ่งแบบเถื่อนๆ ลักไก่รับผู้โดยสารรอบๆ ขนส่ง รอบๆ สนามบิน และมีกันเป็นกลุ่มก้อน บางแห่งตำรวจไม่เข้มงวด ปล่อยให้จอดกันเรียงเป็นแถวยาว ซึ่งแหล่งข่าวบอกเราว่า ตรงจุดไหนที่แท็กซี่เหล่านี้ต่อคิวจอดรอริมถนนยาวๆ และไม่กดมิเตอร์ ต่อรองเงินกันตามชอบใจ นั่นคือเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ขนส่งรับรู้ถึงการกระทำ สมยอมให้จอดเพื่อแลกกับเงินดูแล ขอย้ำว่า เฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีความเป็นระเบียบ รถแท็กซี่ผีเยอะ นั่นคือการรู้เห็นเป็นใจของทุกฝ่าย โดยมีคนเคลียร์ซึ่งเป็นผู้ดูแลวิน จะมาเก็บเงินตรงนี้ไปส่งต่ออีกที 

กวาดล้างครั้งนึงก็หายไป พอเรื่องเงียบกลับมารวมตัวกันใหม่ ทำพฤติกรรมเดิมๆ 

แหล่งข่าวบอกเราด้วยว่า เมื่อมีข่าวดังๆ สะพัดออกสื่อ ทั้งตำรวจเจ้าของพื้นที่ และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเขตนั้นๆ ก็จะระดมกวาดล้าง กวาดจับกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่เกินหนึ่งอาทิตย์เรื่องเงียบไปแล้ว สุดท้ายกลับมารวมตัวกันใหม่ สร้างพฤติกรรมเดิมๆ จนชาวบ้านเอือมระอา จะบอกว่าเจ้าหน้าที่ไม่รู้ไม่เห็นคงไม่ได้ เพราะพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ และไม่สามารถแก้ไขได้ถาวร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่จริงจังที่จะแก้ไข  

มาเฟียคุมแท็กซี่ เรียกเก็บค่าที่จอด สังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ 

นอกจากนี้ยังมีพวกนักเลงคุมที่จอดรถ ห้ามไม่ให้แท็กซี่นอกเขตที่ไม่เคยเห็นหน้า หรือไม่จ่ายค่าจอดมารับผู้โดยสารบริเวณดังกล่าว เนื่องจากอ้างว่า พื้นที่ตรงนั้นเป็นของตัวเอง จอดแป๊บเดียวก็โดนข่มขู่ไล่ให้ไปจอดที่อื่น อย่างไรก็ตาม นักเลงคุมพื้นที่จอดยังอ้างว่า ได้จ่ายเงินให้กับตำรวจเจ้าของพื้นที่และสำนักงานเขตนั้นอีกด้วย บ่อยครั้งเราจะเห็นมีการถ่ายคลิปวิดีโอมาแฉกันว่อนโซเชียล เหตุนี้เองทำให้ประชาชน ชาวบ้านรู้สึกเอือมระอากับพฤติกรรมทุกรูปแบบของโชเฟอร์แท็กซี่ 

ผู้กำกับ สน.บางซื่อ ระบุ ไม่เคยละเลย ส่งตำรวจลงพื้นที่ตลอด 

พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สน.บางซื่อ เปิดเผยว่า ในส่วนของตนเอง รับผิดชอบพื้นที่หมอชิต ที่ผ่านมาจะส่งกำลังตำรวจไปคอยตรวจตราเป็นระยะ ไม่เคยละเลยความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งตรงจุดนี้ก็ต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่มีน้อยกว่าจำนวนแท็กซี่และผู้โดยสาร เราจึงอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง กลุ่มคนดังกล่าวจึงฉวยโอกาสช่องว่างเอาเปรียบผู้โดยสาร แต่ขอให้มั่นในว่าในพื้นที่หมอชิตไม่มีแท็กซี่มาเฟียแน่นอน  

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ต้องประสานไปยังเจ้าหน้าที่ขนส่ง เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง รวมไปถึงการจัดระเบียบของโชเฟอร์ภายในขนส่ง ไม่ให้เข้าประชิดตัวแย่งผู้โดยสารขึ้นรถ ตำรวจไม่ได้เข้ามาดูตรงจุดนี้ จะมีการระดมกวาดล้างกันเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญที่มีคนเดินทางกลับภูมิลำเนาเยอะๆ ทาง สน.บางซื่อ จะประสานกับตำรวจหน่วยอื่นๆ เข้าดูแลอย่างเคร่งครัดในทุกมิติ

ตำรวจไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ทำให้แท็กซี่เรียกเงินผู้โดยสารตามชอบใจ 

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยละเลยที่จะปราบปรามแท็กซี่ฉกฉวยโอกาส แต่เชื่อได้ว่าหลายท้องที่ยังบังคับใช้กฎหมายไม่เต็มที่ ปล่อยปละละเลย จนกลายเป็นช่องว่างให้โชเฟอร์เหล่านี้เรียกเก็บเงินเกินอัตรา และไม่กดมิเตอร์ตามกฎระเบียบ อันดับแรกผู้โดยสารไม่ควรไปตกลงปลงใจที่จะขึ้นรถโดยสารไปตามราคาที่เค้าเรียก และควรรอคันอื่น เพราะจะกลายเป็นการส่งเสริมให้คนเหล่านี้กระทำผิดซ้ำๆ   

"ส่วนใครที่ตกกระไดพลอยโจน โดนหลอกให้ขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว แต่ไม่กดมิเตอร์ค่าโดยสาร ไม่มีการตกลงกันก่อน และข่มขู่รีดไถเงินค่าโดยสารเกินอัดตรา ให้ผู้โดยสารเก็บหลักฐาน เช่น ทะเบียนรถ สีรถ ชื่อคนขับเอาไว้ และไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพักในพื้นที่ ก่อนจะโทรไปร้องเรียนกับทางขนส่งอีกที หรือหากถูกแท็กซี่กระทำการอันเกินกว่าเหตุ ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ให้แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที หากพื้นที่ไหนไม่รับร้องเรียน หรือไม่ดำเนินการให้ ติดต่อมาที่ พ.ต.ท.พงษ์พิเชษฐ์ นิลจันทร์ หัวหน้าทีมโซเชียล รับเรื่องร้องทุกข์ ที่เบอร์ 09-1467-3210  แต่มีข้อแม้ว่า ทางผู้เสียหายต้องไปแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุก่อน เนื่องจากเป็นความรับผิดชอบของเค้า 

ในส่วนของพื้นที่หมอชิต ที่มีปัญหาบานปลายมานาน เรื่องแท็กซี่ประพฤติตัวไม่ดี มีนิสัยตามที่กล่าวอ้างกัน จะได้กำชับในส่วนของตำรวจ บก.จร.เขตเหนือ และพื้นที่ สน.บางซื่อ ให้ลงไปตรวจตราดูความเรียบร้อย กวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เดือดร้อนไปถึงผู้โดยสารที่รายอื่นๆ ต่อไป หากตรวจสอบมีการรับส่วยจริงตามกล่าวอ้าง ก็จะลงโทษทางวินัยทันที.