หนุ่มแต่งกายเป็นหญิง เขียนคิ้ว สวมวิกปลอม ชักปืนห่อด้วยผ้าขู่พนักงานห้างเพชรทองออโรร่า บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาพระราม 4 กวาดสร้อยทองไป 200 กก. มูลค่าประมาณ 4 ล้านบาท สอบวิน จยย.หน้าที่เกิดเหตุให้การคนร้ายให้ขี่ไปส่งสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ แต่อีกแนวทางคนร้ายอาจวิ่งไปเอา จยย.ที่จอดซ่อนแถวห้างเควินเลจ หลังห้างเกิดเหตุ จนท.เร่งไล่เช็กกล้องวงจรปิดหาตัวคนร้าย
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 7 มี.ค. ร.ต.อ.ธนบูรณ์ นาสวาสดิ์ รอง สว. (สอบสวน) สน.ทองหล่อ รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวใช้ปืนจี้ชิงทอง ห้างเพชรทองออโรร่า ในห้างบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาพระราม 4 ถนนพระรามที่ 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง
ห้างเพชรทองออโรร่าที่เกิดเหตุอยู่ชั้น 1 ตรงข้ามศูนย์อาหาร พบเจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำพนักงานหญิง 3 คน อยู่ในอาการตื่นตระหนกตรงเคาน์เตอร์ขายทอง ระหว่างนั้น รปภ.ห้างดังกล่าวนำเชือกมากั้นหน้าห้างทองดังกล่าว กันผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปวุ่นวายที่เกิดเหตุ และทำลายหลักฐาน ขณะที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกำลังเก็บรอยนิ้วมือแฝง และฝ่ายสืบสวน บช.น.และ สน.ทองหล่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาร่องรอยและรูปพรรณสัณฐานคนร้าย
พ.ต.อ.พรชัยเผยว่า เบื้องต้นสอบปากคำพนักงานหญิงห้างทองดังกล่าวให้การว่า ช่วงเกิดเหตุคนร้ายเป็นผู้ชาย รูปร่างผอม สูงประมาณ 170 ซม. สวมเสื้อไหมพรมถักแขนยาวสีขาวคาดม่วง และมีการใส่เสื้อชั้นในอำพรางเป็นผู้หญิง นอกจากนี้ยังสวมวิกผมปลอมหน้าม้ายาวประบ่า กับเขียนคิ้ว ใส่หน้ากากอนามัย แว่นกันแดดปิดบังใบหน้า สวมถุงมือ และสวมรองเท้าผ้าใบ เดินเข้ามาในร้านก่อนวางถุงพลาสติกใส ภายในมีถุงกระดาษกาแฟสีน้ำตาลและใส่ก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นไว้ด้านใน 1 ก้อน วางบนเคาน์เตอร์ “ก่อนคนร้ายพูดว่ามีปืนนะ เอาทองมา” จากนั้นล้วงหยิบปืนไม่ทราบขนาด ที่ห่อด้วยผ้าวางลงหน้าเคาน์เตอร์ จากนั้นยื่นถุงผ้าสีขาวที่เตรียมมาให้
...
“พนักงานทั้งหมดกลัวจึงกวาดสร้อยคอทองคำประมาณ 4-5 ถาด น้ำหนักรวมประมาณ 200 บาท มูลค่าความเสียหายประมาณ 4 ล้านบาท ใส่ถุงผ้าสีขาวที่คนร้ายเตรียมมา ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 10 นาที ก่อนเดินเท้าหลบหนีออกจากห้าง จากนั้นได้เรียกวิน จยย.รับจ้างบริเวณด้านข้างห้างให้ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์” พ.ต.อ.พรชัยกล่าว
ทั้งนี้จากการสอบสวน นายวิทวิช กงสินธ์ อายุ 26 ปี วิน จยย.รับจ้างหน้าห้างบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาพระราม 4 ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุตนกำลังนั่งรอลูกค้าอยู่ตรงจุดหน้าห้างบิ๊กซีดังกล่าว มีลูกค้าลักษณะผอมสูง ผิวขาว สวมเสื้อแขนยาวมีลายแถบคาดกลาง แต่ตนไม่ได้มองหน้าไม่สนใจอะไร ได้ยินแต่เสียงพูดสำเนียงภาษากลางชัดเจน บอกว่าให้ไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ จากนั้นก็กระโดดขึ้นคร่อมซ้อนท้าย จยย. ตนเลยขี่ไปส่งที่หมายระยะทางประมาณ 2.7 กิโลเมตร ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที พอลงจากรถ จยย.คนร้ายหยิบเงินให้ 100 บาท ตนก็ทอนกลับไป 70 บาท และขี่กลับมาที่วิน จยย.จุดเดิมรอรับผู้โดยสารตามปกติ จนมีเจ้าหน้าที่เชิญตัวมาสอบปากคำ จึงรู้ทีหลังว่าตนเป็นคนไปส่งคนร้ายที่ชิงทองภายในห้าง ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นจากการสอบปากคำคนขับวิน จยย.ที่ไปส่งคนร้าย อาจเป็นการจำคนผิด เพราะล่าสุดเจ้าหน้าที่พบข้อมูลว่าคนร้ายไม่ได้ขึ้นวิน จยย.รับจ้างให้ไปส่ง แต่วิ่งออกจากห้างบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาพระราม 4 แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยอารีย์ และวิ่งไปทางห้างเค วินเลจ ที่อยู่ด้านหลังห้างบิ๊กซีเกิดเหตุ ระยะทางประมาณ 450 เมตร เพื่อไปเอา จยย.ที่จอดทิ้งไว้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาวิธีการและเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี ก่อนตามจับกุมดำเนินคดีต่อไป