“หมอกิติศักดิ์” ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว อ.ปัว จ.น่าน คว้ารางวัลแพทย์ดีเด่นชนบท 2561 เผยเป็นผู้เสียสละเพื่อส่วนรวม เข้าถึงคนในพื้นที่และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็นต้นแบบให้กับแพทย์ชนบทนำสู่การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพสังคมไทยในระยะยาว เจ้าตัวฝากพรรคการเมืองช่วยสื่อสารเรื่องสาธารณสุขไทย ลดปัญหาช่องว่างของความต้องการและความจำเป็นให้เหลือน้อยที่สุด ปวารณาตัวแม้เกษียณแต่จะขออยู่ที่จังหวัดน่านเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้ชาวเมืองนี้

เป็นประจำทุกปีที่จะมีการคัดเลือก “แพทย์ชนบทดีเด่น” และเป็นที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ถึงผู้ที่ได้รับรางวัลในปี 2561 โดย ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในการเป็นประธานงานแถลงข่าว “ประกาศผลและมอบรางวัลแพทย์ดีเด่นในชนบท ประจำปี 2561” ว่า คณะกรรมการคัดเลือกแพทย์ดีเด่นในชนบท 2561 คัดเลือกให้ นพ.กิติศักดิ์ เกษตรสินสมบัติ ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว อ.ปัว จ.น่าน เป็นผู้ได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่นในชนบท ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล นับเป็นแพทย์ชนบทดีเด่นคนที่ 45

ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าวด้วยว่า นพ.กิตติศักดิ์เป็นแพทย์ที่มีความสามารถ ทั้งด้านบริหาร รักษาพยาบาลและการพัฒนา เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกล มุ่งมั่นพัฒนาองค์กรและชุมชนอย่างต่อเนื่อง ปลูกฝังวัฒนธรรมการพัฒนาแก่บุคลากรและประชาชนในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เป็นผู้เสียสละเพื่อส่วนรวม มีคุณธรรมจริยธรรม ทำให้คนในพื้นที่ไม่เฉพาะดูแลสุขภาพตนเอง ยังทำให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น สิ่งสำคัญมาจากการเข้าถึงคนในพื้นที่และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เป็น ต้นแบบให้กับแพทย์ชนบทนำสู่การพัฒนาระบบการดูแลสุขภาพในสังคมระยะยาว

...



ขณะที่ นพ.สมุทร จงวิศาล ประธานคณะกรรมการคัดเลือกแพทย์ดีเด่นในชนบท ประจำปี 2561 กล่าวว่า มีการเสนอชื่อแพทย์ที่ปฏิบัติงานในชนบทให้คณะกรรมการฯ พิจารณาขั้นสุดท้าย 7 คน มีการเดินทางไปยังพื้นที่ปฏิบัติงาน สัมภาษณ์แพทย์ ผู้ร่วมงาน ผู้มารับบริการ เยี่ยมชมผลงานและโรงพยาบาล อันเป็นการพิจารณาขั้นสุดท้าย เพื่อคัดเลือกแพทย์ที่มีความเหมาะสมที่สุด นพ. กิติศักดิ์ใช้ชีวิตรับราชการเป็นแพทย์อยู่ในจ.น่านมาตั้งแต่จบการศึกษาจนถึงปัจจุบัน เกือบ 20 ปี มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เป็นผู้นำกระบวนการมาตรฐานการบริการสุขภาพระดับชาติมายังพื้นที่ห่างไกล ภายใต้ข้อจำกัดหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ ที่ส่งผลต่อการให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน ไม่เฉพาะแต่ผู้ป่วยชาวไทยเท่านั้น ยังมีเพื่อนบ้านชาวลาวในพื้นที่ที่ติดจังหวัดน่าน อยู่ในโซนที่ยากจนที่สุดของลาว เข้ามารักษาพยาบาล เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องให้ความช่วยเหลือรักษาเหมือนประชาชนชาวไทยอย่างเท่าเทียมกันด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม

ด้าน นพ.กิติศักดิ์ผู้ได้รับรางวัล กล่าวว่า ความสำเร็จในรางวัลนี้ เกิดจากทีมงานใน รพ.ทุกคน ไม่ได้เป็นรางวัลเฉพาะ อ.ปัว แต่เป็นของชาวจ.น่าน ทุกคน 29 ปีที่ทำงานที่น่านหลังจบการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับโอกาสหลายอย่างทั้งครอบครัว ตนเป็นคนจังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ แต่ขอมาทำงานที่น่าน เพื่อต้องการดูแลรักษาผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล ครอบครัวไม่คัดค้านและ ได้รับโอกาสเรียนรู้จากพี่น้องประชาชนจังหวัดน่าน ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ทำให้ได้รับการพัฒนาตนเอง ได้เรียนรู้ชีวิตคนในพื้นที่ รวมทั้งได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ จากปูชนียบุคคลใน จ.น่าน มากมาย


แพทย์ชนบทดีเด่นปี 2561 กล่าวอีกว่า ที่สำคัญเชื่อว่า ยังมีแพทย์ชนบทอีกมากที่ทุ่มเททำงานเพื่อการสาธารณสุขไทย กำลังใจครั้งนี้เป็นพลังในการทำงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าอีก 6 ปีข้างหน้าจะเกษียณอายุราชการ แต่ก็จะยังคงอยู่เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนจังหวัดน่าน โดยจะมุ่งมั่นให้บริการผู้ป่วยด้วยความปรารถนาดีและเต็มกำลังความสามารถ การสาธารณสุขไทยยังมีปัญหาที่ช่องว่างของความต้องการและความจำเป็น ทำอย่างไรที่จะลดช่องว่างให้เหลือน้อยที่สุด เช่น การจัดสรรงบประกันในหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ระบบค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่าย เป็นส่วนหนึ่งที่ฝากไปถึงพรรคการเมืองต่างๆ รวมถึงการสื่อสารให้พี่น้องประชาชนเข้าใจถึงระบบการสาธารณสุข ในการส่งเสริมและป้องกันโรค หลังจากนี้ สิ่งที่จะพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นคือการสร้างความรู้สึกในการเป็นเจ้าของ รพ.ของประชาชน เพื่อทำให้ประชาชนเกิดความเกื้อกูลซึ่งกันและกันกับโรงพยาบาล