“อนาคตใหม่” ยื่นฟ้อง “ม.จ.จุลเจิม-สำนักข่าวทีนิวส์” หมิ่นประมาท-ผิด ก.ม.เลือกตั้ง กล่าวหาล้มเจ้า ยันไม่ใช้ พ.ร.บ.คอมฯ พร้อมสู้ด้วยจุดยืนแน่วแน่

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 6 มี.ค.62 ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ พร้อมทีมทนายความพรรค ได้รับมอบหมายจากพรรคอนาคตใหม่ และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ม.จ.จุลเจิม ยุคล กับบรรณาธิการสำนักข่าวทีนิวส์ (T-News) กรณี ม.จ.จุลเจิม โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวหาพรรคอนาคตใหม่ล้มล้างสถาบันฯ และสำนักข่าวทีนิวส์ นำไปเผยแพร่ต่อ

โดย น.ส.พรรณิการ์ เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นฟ้อง 2 กรณี คือฟ้อง ม.จ.จุลเจิม ที่โพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา ปรากฏต่อสาธารณชนกล่าวหาพรรคอนาคตใหม่ และนายธนาธรว่ามีนโยบายล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 , 328 ส่วนคดีที่สอง ฟ้องบรรณาธิการสำนักข่าวทีนิวส์ ซึ่งเป็นผู้นำโพสต์เฟซบุ๊กนี้ไปเผยแพร่ต่อเป็นข่าวในเว็บไซต์ ในข้อหาหมิ่นประมาทเช่นเดียวกัน และทั้งสองกรณียังฟ้องในข้อหาใส่ร้ายด้วยความเท็จให้ไม่เลือก ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 73 (5) เพราะการกระทำผิดเกิดขึ้นขณะเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง เป็นการใช้ความเท็จจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่เลือกพรรคอนาคตใหม่ ส่วนกรณีที่มีการใส่ร้ายหัวหน้าพรรคเป็นเจ้าของโรงเลื่อยเถื่อนนั้นยังไม่ฟ้อง อยู่ระหว่างการพิจารณาของทีมทนายความ

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อไปว่า เราไม่ได้ตั้งใจที่จะฟ้องร้องสื่อที่วิพากษ์วิจารณ์พรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร หรือแกนนำคนใดของพรรค จะเห็นได้ว่าตลอด 10 เดือน ที่เราก่อตั้งพรรคมา มีการวิพากษ์วิจารณ์พรรคอย่างต่อเนื่อง รุนแรงบ้างไม่รุนแรงบ้าง ความจริงบ้างความเท็จบ้าง เราไม่เคยดำเนินคดีใคร ยืนยันว่าสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นของทุกคน แต่กรณีนี้ที่ต้องฟ้องร้อง เพราะความเท็จนี้เป็นความเท็จที่ถูกปล่อยอย่างเป็นระบบ เป็นขบวนการ มีความตั้งใจทำลายความน่าเชื่อถือของพรรคในช่วงเลือกตั้ง บวกกับทีนิวส์ เป็นสำนักข่าวที่ทำผิดจรรยาบรรณสื่อร้ายแรงมาหลายครั้ง ในวงการสื่อก็ทราบกันดี จำเป็นต้องฟ้องเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำเป็นเยี่ยงอย่างต่อไป สำหรับสื่อมวลชนทั่วไปวิพากษ์วิจารณ์ได้ตามปกติ พรรคยินดีรับการตรวจสอบ

...

ทั้งนี้ เราไม่ได้ใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งปกติกรณีแบบนี้สามารถใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ได้ แต่เรายืนยันไม่ใช้ เพราะจุดยืนของพรรคเห็นว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ถูกใช้เป็นกฎหมายปิดปากผู้วิพากษ์วิจารณ์รัฐหรือผู้มีอำนาจมาแล้วหลายครั้ง พรรคจะแก้ไขกฎหมายนี้ เราจึงไม่ใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือ ต้องการทำให้เป็นเยี่ยงอย่างว่าการฟ้องปกป้องสิทธิของเราจากการถูกใส่ร้ายด้วยความเท็จ ใช้กฎหมายหมิ่นประมาทได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

เมื่อถามถึงแนวทางการหาเสียงของพรรคต่อไป น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า การหาเสียงดำเนินไปอย่างปกติ คดีความเรามีทีมกฎหมายดูแลอยู่ พรรคยืนยันไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะเป็นคดีต่อแกนนำพรรคหรือยุบพรรค เราทำตามกฎหมาย คดีที่เกิดขึ้นขอให้ประชาชนช่วยกันจับตามองว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ เป็นการสกัดกั้นพรรคในช่วงโค้งสุดท้ายที่เห็นว่าประชาชนให้การตอบรับเราเป็นอย่างดีหรือไม่ ยืนยันว่าเราไม่กลัวการสกัดกั้นแบบนี้ เราจะต่อสู้กับการเมืองเก่าด้วยจุดยืนที่แน่วแน่ ด้วยประชาชนที่เคียงข้างเรา เพื่อเดินหน้าไปสู่ชัยชนะวันที่ 24 มี.ค.นี้