เพลิงไหม้ตึกแถวโกดังเก็บของย่านเยาวราช ควบคุมเพลิงได้แล้ว หนุ่มวัย 33 ปี วิ่งหนีตาย เคราะห์ดีแค่เจ็บโดนไฟลวกที่หลัง-ส่ง รพ.รักษา ด้าน ตร.รอสอบปากคำคนเจ็บ-พฐ.ตรวจ ก่อนสรุปสาเหตุที่แน่ชัด...
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2562 ร.ต.อ.อริยพงษ์ เชิดสันเทียะ รอง สว.(สอบสวน) สน.จักรวรรดิ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารเจริญสุข ซอยมังกร ถนนเยาวราช แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนประสานรถดับเพลิงจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.โชคชัย คณะเจริญ ผกก.สน.จักรวรรดิ ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.จักรวรรดิ นางขจีรัตน์ เจนาคม ผอ.เขตสัมพันธวงศ์ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ความสูง 5 ชั้น ปลูกติดกันจำนวนหลายคูหา เจ้าหน้าที่พบแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากชั้นที่ 1 ของอาคารเลขที่ 1006 ซึ่งประกอบกิจการเป็นสถานที่เก็บเสื้อผ้าแฟชั่น ของเล่นเด็ก และอุปกรณ์เครื่องเขียน เจ้าหน้าที่จึงเร่งระดมฉีดน้ำจากด้านนอก และลากหัวฉีดเข้าไปควบคุมภายในตัวอาคาร ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดภายในตัวอาคารจะถอนกำลังออกจากตัวอาคาร เนื่องจากอาคารมีรอยแตกร้าว คาดว่าเกิดจากความร้อนสะสมจากเพลิงไหม้

...
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการใช้น้ำเข้าควบคุมเพลิงใช้เวลาปะมาณ 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบลง จากการตรวจสอบมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายมงคล วุฒิธนากุล อายุ 33 ปี ถูกไฟลวกที่แผ่นหลัง เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง รพ.กลาง
ผกก.สน.จักรวรรดิ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า อาคารพาณิชย์ต้นเพลิง เป็นที่พักอาศัยบริเวณชั้นที่ 1 และ 2 ส่วนชั้นที่ 3 ถึง 5 นั้นเปิดเป็นที่เก็บของสินค้าต่างๆ มีนางฉันทนา วุฒิธนากุล อายุประมาณ 40 ปี เป็นเจ้าของ แต่ขณะเกิดเหตุไม่อยู่ในอาคาร มีเพียงนายมงคล วุฒิธนากุล อายุ 33 ปี น้องชายนางฉันทนาพักผ่อนอยู่ จากการสอบสวนนายมงคลเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ กำลังนั่งพักผ่อนจัดของอยู่ชั้นที่ 3 ก่อนจะได้กลิ่นเหม็นไหม้จากชั้นที่ 2 ลอยขึ้นมาจึงรีบวิ่งลงมาดูแต่พบว่าเพลิงลุกไหม้อย่างหนัก จึงตัดสินใจวิ่งหนีออกมาเพื่อเอาชีวิตรอด ทำให้ถูกไฟลวกด้านหลังได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่ง รพ.กลาง ในทันที
พ.ต.อ.โชคชัย กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เข้าตรวจสอบในจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ ส่วนขั้นตอนของตำรวจนั้น จะทำการเรียกตัวเจ้าของอาคารต้นเพลิง พยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์ และผู้ได้รับบาดเจ็บถูกเพลิงไหม้เนื่องจากเป็นผู้ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุมากที่สุดมาสอบปากคำอย่างละเอียด ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องรอผลการตรวจสอบตัวอาคารและการสอบปากคำทั้งหมด ก่อนจะสรุปสาเหตุการเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้

ด้าน นางขจีรัตน์ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ได้เข้าทำการดับเพลิง แต่เพราะเป็นซอยแคบ จึงทำงานค่อนข้างยาก เบื้องต้นเจ้าหน้าได้นำสังกะสีที่ติดกับอาคารออกแล้วฉีดน้ำเพื่อดับไฟและระบายควัน สถานการณ์จึงดีขึ้น จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ สำหรับรอยร้าวที่พบ ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดว่า เป็นรอยเดิมหรือเกิดจากไฟไหม้ครั้งนี้ ส่วนสาเหตุต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนและสรุปสาเหตุที่แน่ชัด อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ทางสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ได้ขอความร่วมมือประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้ช่วยกันป้องกันเหตุเพลิงไหม้ เช่น คอยตรวจสอบสายไฟ เพราะอาคารส่วนใหญ่เป็นโกดังที่เก็บของ และเพลิงไหม้ที่พบมักมีสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร.