“จ.1” ยกทีมจราจรกลาง พร้อมเทศกิจ-กทม. กวดขันวินัยจราจรตลอดถนนพหลโยธิน จับคนขี่จยย.บนทางเท้าได้กว่า 68 ราย เผยจตุจักร รองแชมป์

เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 20 ก.พ.62 ที่ป้ายรถประจำทาง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท ถนนพหลโยธิน พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.), พ.ต.อ.ชัชชัย สำเนียง ผกก.5 บก.จร., นายจิรวัฒน์ แพงมา ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกวดขันวินัยจราจรบนทางเท้าในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพิ่มความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้งเป็นการยืดอายุการใช้งานทางเท้าให้สามารถใช้งานได้ต่อไป

โดย พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า เนื่องด้วยมีข้อร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนที่ใช้ทางเท้าเป็นจำนวนมาก ส่งเข้ามายังเฟซบุ๊กแฟนเพจ “นิธิธร จินตกานนท์” รวมถึงเพจของหน่วยงานรัฐต่างๆ ว่าได้รับความเดือดร้อนจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการขี่ย้อนศร หรือขี่บนฟุตปาท ที่นอกจากจะสร้างปัญหา ทำให้อิฐทางเท้าเสียหาย และยังก่อให้เกิดอุบัติเหตุตามมา ดังนั้น บก.จร. จึงได้ร่วมกันบูรณาการกำลังกับกรุงเทพมหานคร สำนักเทศกิจ กรมการขนส่งทางบก ทำการกวดขันวินัยการจราจรบนทางเท้า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นเตอร์วัน ซึ่งพื้นที่ที่มีการจับกุมผู้กระทำผิดมากเป็นอันดับหนึ่งคือ วังทองหลาง รองลงมาคือ จตุจักร บางกอกน้อย ทวีวัฒนา และคลองเตยตามลำดับ

พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวต่อถึงผลการปฏิบัติในพื้นที่บริเวณถนนพหลโยธินว่า มีผลการจับกุมผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า จุดถนนพหลโยธิน จำนวน 68 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ จะเห็นได้ว่า ผู้กระทำผิดส่วนมากมีทั้งจักรยานยนต์รับจ้าง และรถเมสเซนเจอร์ต่างๆ ทั้งนี้ ด้วยดำเนินการกวดขันอย่างเข้มงวดมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน บนพื้นที่ทั้งหมด 233 จุดรอบกรุงเทพฯ มียอดผู้กระทำผิดรวมแล้วกว่า 14,526 ราย ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายไปแล้ว ซึ่งหากมีการกระทำผิดซ้ำก็จะพิจารณาดำเนินการในขั้นตอนอื่นๆ ต่อไป

...

“โทษสำหรับผู้ที่ขับขี่บนทางเท้า จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมดตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท และ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร จะถูกต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท อย่างไรก็ตาม หากมีการตรวจพบว่ารถที่ใช้ในการกระทำผิด มีการสวมทะเบียนมา ก็จะถูกดำเนินคดีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เพราะถือเป็นความผิดทางอาญาอีกด้วย” ผบก.จร. กล่าวและต่อว่า ส่วนเรื่องการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่นั้น จะทำได้ต่อเมื่อผู้กระทำผิดมีความพยายามจะทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่เท่านั้น ซึ่งหากมีการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ทางผู้เสียหายก็สามารถฟ้องร้องได้ต่อไป.