ตำรวจ 191 ตามลากคอคู่หูสุดแสบคาบ้าน พบหลักฐานเพียบ ทั้งเอกสาร ข้อความ รวมทั้งข้อมูลส่วนตัวเหยื่อกว่า 400 คน ใช้วิธีโทร.อ้างเป็นตัวแทนประกันภัยบริษัทรถยนต์ชื่อดัง หลอกล่อเหยื่อโอนเงินประกันให้ จน คปภ.ได้รับการร้องเรียนกว่า 100 ราย สารภาพสิ้นไส้ซื้อข้อมูลเหยื่อจากเว็บไซต์รายละ 3 บาท เอาเบอร์โทรศัพท์พร้อมข้อมูลส่วนตัวมากล่อมจนเหยื่อหลงเชื่อ ผบก.191 สั่งขยายผล ตามลากคอเว็บไซต์ขายข้อมูลว่าเอามาจากไหน เชื่อทำเป็นขบวนการสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน

รวบคู่หูแสบหลอกขายประกันรถ เปิดเผยขึ้นที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) 191 เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 ก.พ. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ภานพ วรธนัชชากุล รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สมบูรณ์ เทียนขาว ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. พ.ต.ท.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ รอง ผกก.สายตรวจ พ.ต.ต.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง สว.งานสายตรวจ 3 และนายตนุภัทร รัตนพูลชัย รองเลขาธิการด้านกฎหมายคดีและคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แถลงข่าวจับกุมนายจักรพันธ์ หรือเอก สาคะริชานนท์ อายุ 35 ปี และ น.ส.จุฑาภาส หรือติ๊ก อังกาพย์ อายุ 37 ปี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน จับกุมที่บ้านเลขที่ 64/48 หมู่บ้านมารวย ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมของกลางสมุดธนาคาร 4 เล่ม คอมพิวเตอร์ที่ใช้พิมพ์ข้อมูล 1 เครื่อง

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น กล่าวว่า สืบเนื่องจากรับร้องเรียนจากผู้เสียหายหลายรายว่า ถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 คนหลอกลวงอ้างเป็นตัวแทนบริษัทขายประกันภัยรถยนต์ยี่ห้อดัง ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเพื่อทำประกันภัย ถึงเวลากลับไม่ได้ต่อประกันจริง พฤติกรรมคนร้ายจะทำทีเป็นพนักงานจากศูนย์บริการรถยนต์ โทรศัพท์มาแจ้งว่า ประกันภัยรถยนต์เหยื่อใกล้หมดอายุ อ้างว่าประกันเก่าไม่ครอบคลุม หากต่อปีที่สองจะต้องจ่ายค่าประกันเองก่อน แต่ถ้ายกเลิกประกันเดิมและให้คนร้ายเป็นผู้ดำเนินการให้จะได้รับเงินคืนจากประกันเก่าที่ทำไว้ คนร้ายจะใช้วาจาหว่านล้อมและบอกข้อมูลการซื้อรถถูกต้องทุกประการจนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ แต่เมื่อสอบถามไปยังศูนย์บริการกลับไม่พบว่า มีชื่อ น.ส.จุฑาภาส ทำงานอยู่ มีผู้เสียหายหลงเชื่อเกือบ 400 ราย เสียหายกว่า 5 ล้านบาท จึงสั่งการให้ บก.สปพ.ตรวจสอบจน ทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จึงเข้าจับกุมและตรวจค้นบ้านพบเอกสารและเครื่องมือการกระทำความผิดจำนวนหนึ่ง

...

ด้าน พล.ต.ต.สำราญ นวลมา กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า หลอกลวงประชาชนให้ทำประกันรถยนต์จริง ซื้อข้อมูลลูกค้ามาจากเว็บไซต์ราคาชื่อละ 3 บาท เมื่อได้ข้อมูลมาจะใช้โทรศัพท์ติดต่อให้ลูกค้าต่อประกันภัย เมื่อลูกค้ารายใดหลงเชื่อจะให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนรายละประมาณ 18,000 บาทแล้วไม่ดำเนินการต่อให้ ผู้ต้องหามีข้อมูลลูกค้าประมาณ 400 รายชื่อ หากลูกค้าหลงเชื่อจะเกิดความเสียหายประมาณ 5 ล้านบาท ตรวจสอบประวัตินายจักรพันธ์ มีหมายจับ 7 หมาย ไกล่เกลี่ยแล้ว 6 หมาย ส่วน น.ส.จุฑาภาส มีหมายจับ 21 หมาย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 29 คดี ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาทั้งสองเคยถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุมมาแล้ว หลังจากนี้สั่งการให้ชุดสืบสวนขยายผลการได้มาของรายชื่อเหยื่อว่าได้มาอย่างไร โดยเฉพาะกลุ่มที่ขายรายชื่อลูกค้า หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องต้องดำเนินคดีทันที

ส่วนนายตนุภัทร รัตนพูลชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา คปภ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายมากกว่า 100 ราย กรณี น.ส.จุฑาภาส อังกาพย์ หลอกลวงโดยโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายอ้างว่าติดต่อจากศูนย์ บริการรถยนต์แห่งหนึ่ง เสนอขายประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจให้ผู้เสียหาย กรณีนี้ คปภ.ร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้สอบสวนดำเนินคดีผู้ต้องหากลุ่มนี้และบริษัท ที.ไอ.เอส. ควอลิตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด ความผิดฐานกระทำการเป็นตัวแทนประกันวินาศภัยหรือนายหน้าประกัน วินาศภัยโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนผู้เสียหายร้องทุกข์กล่าวโทษความผิดฐานฉ้อโกง อยากแนะนำให้ประชาชนตรวจสอบว่า ผู้เสนอขายประกันภัยเป็นตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัยได้รับใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ขอดูใบอนุญาตตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัย ตรวจสอบรายชื่อตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตก่อนทุกครั้ง

มีรายงานว่า น.ส.จุฑาภาสเคยได้รับใบอนุญาตตัวแทนประกันวินาศภัยจริง แต่ถูกยกเลิกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.53 แต่ยังคงร่วมกับนายจักรพันธ์ก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายเรื่อยมา โดยอ้างว่าเป็นตัวแทนประกันภัยของบริษัทประกันภัยหลายแห่งจนถูกจับกุมในที่สุด