ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศชี้กรณีส่ง “ฮาคีม” กลับบาห์เรนอยู่ในชั้นศาล ฝ่ายบริหารไม่สามารถแทรกแซงได้ ขออย่าเพิ่งด่วนสรุป ไทยจะส่งคืนให้บาห์เรน ต้องรอการพิจารณาของศาล ขณะเดียวกัน มีรายงานจากกระทรวงบัวแก้ว เผยจุดเริ่มต้นเรื่องวุ่นอยู่ที่ทางการจิงโจ้ ประเทศผู้ให้ลี้ภัยฮาคีม ส่งหมายแดงมาให้ทางการไทย หลังเจ้าตัวเดินทางออกจากออสเตรเลีย ก่อนถอนหมายแดงออกจากระบบอินเตอร์โพลในเวลาต่อมา
กรณีนายฮาคีม อัล อาไรบี นักฟุตบอลชาวบาห์เรน วัย 25 ปี ถูกตำรวจไทยจับกุมที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ขณะเดินทางมาฮันนีมูนกับภรรยาเมื่อเดือน พ.ย.61 ตามหมายจับตำรวจสากล เพราะหนีคดีที่ถูกศาลบาห์เรนตัดสินจำคุก 10 ปี ข้อหาทำลายทรัพย์สินของรัฐระหว่างการชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่บาห์เรนเมื่อปี 2555 แล้วหลบหนีการประกันตัวในปีถัดมา โดยนายฮาคีมปฏิเสธข้อหามาตลอด อีกทั้งยังได้รับสถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรเลียเมื่อปี 2560 เพราะเล่นฟุตบอลให้ทีมพาสโค เวล เอฟซี สโมสรฟุตบอลกึ่งอาชีพ ในนครเมลเบิร์น รัฐวิกตอเรีย ล่าสุด พนักงานอัยการสำนักต่างประเทศ
ยื่นคำร้องขอศาลอาญา ส่ง “ฮาคีม” เป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับไปรับโทษ ศาลนัดสอบคำให้การวันที่ 4 ก.พ.นี้ ขณะเดียวกัน ฮิวแมนไรท์วอทช์ เรียกร้องทีมฟุตบอลในยุโรป อย่างพรีเมียร์ ลีกช่วยกดดันไทยกรณีส่งตัว นายฮาคีมกลับไปรับโทษที่บาห์เรน หากดึงดันส่งกลับ ขอให้งดส่งทีมมาโชว์ตัวในช่วงพรีซีซัน พร้อมทั้งขอให้ฟีฟ่าแบนไทย-บาห์เรน ร่วมคัดเลือกศึกฟุตบอลโลกปี 2566 ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.พ. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีนายฮาคีม อัล อาไรบี นักฟุตบอลชาวบาห์เรน ที่อัยการได้ยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณาคดีตามคำร้องขอให้ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังบาห์เรนว่า ขณะนี้เรื่องได้เข้าสู่กระบวนการศาล ฝ่ายบริหารไม่สามารถแทรกแซงฝ่ายตุลาการได้ เป็นหลักสากล เชื่อว่าทุกประเทศรวมถึงออสเตรเลียยึดถือหลักการนี้ ขออย่าด่วนสรุปว่าไทยจะส่งตัวนายฮาคีมให้กับบาห์เรน เรื่องนี้ศาลจะพิจารณาตามหลักฐานที่มีอยู่มีพื้นฐานจากหมายจับ และหมายศาลของบาห์เรน ที่ส่งเอกสารหลักฐานทางกฎหมายมาให้ฝ่ายไทย พนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าเกณฑ์ตามกฎหมายส่งฟ้องต่อศาล ขณะเดียวกัน ศาลไทยพร้อมรับหลักฐานทุกชนิดที่เป็นข้อเท็จจริงและเป็นธรรมต่อนายฮาคีมที่ทนายจะนำส่งให้ศาลพิจารณาเช่นกัน
...
“ไม่มีส่วนใดของไทยได้ประโยชน์จากการควบคุมตัวนายฮาคีม แต่เราจับพลัดจับผลูมาอยู่ในภาพของประเด็นปัญหานี้ ในฐานะรัฐอธิปไตยที่มีพันธะทางกฎหมายและความถูกต้องต่อสังคมโลก เราต้องให้ความร่วมมือด้านกฎหมาย ขณะเดียวกันขอให้ออสเตรเลียกับบาห์เรนซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีของไทย และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน ไม่ว่าแนวทางออกร่วมกันดังกล่าวจะมาในรูปแบบใด ไทยยินดีจะช่วยส่งเสริมให้เป็นจริงและบรรลุผลสัมฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย” นายดอนกล่าว
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า การจับกุมนายฮาคีมของไทยมีจุดเริ่มต้นจากการที่ตำรวจสากลของออสเตรเลีย เป็นฝ่ายแจ้งเตือนเรื่องที่นายฮาคีมมีหมายจับ หรือหมายแดงของอินเตอร์โพลมายังไทย หลังจากที่นายฮาคีมเดินทางออกจากออสเตรเลีย ขณะที่รัฐบาลบาห์เรนได้ยื่นขอให้ส่งตัวนายฮาคีมในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการ เมื่อทราบว่านายฮาคีมถูกทางการไทยควบคุมตัวไว้แล้ว ไทยไม่รู้จักนายฮาคีม ไม่มีอคติต่อตัวบุคคล และคงไม่ยุ่งเกี่ยวกับการมาไทยจนถูกจับกุม หากไม่ใช่เพราะได้รับการแจ้งเตือนจากออสเตรเลียเอง แต่ต่อมาตำรวจสากลของออสเตรเลียได้ถอนหมายแดงออกจากระบบอินเตอร์โพล ขณะนั้นทางการไทยได้ควบคุมตัวนายฮาคีมไว้แล้ว ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ด้านนายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นายฮาคีม อัล อาไรบี ได้ถูกส่งตัวมาฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามคำสั่งศาลประมาณ 1 เดือน โดยอยู่ในแดนแรกรับ ระหว่างถูกคุมขังมีญาติพี่น้องมาเยี่ยมเรื่อยๆ ส่วนตัวนายฮาคีมไม่ได้มีความเครียดใดๆ เพราะเข้าใจว่ารอ การพิจารณาของศาลอยู่ ทั้งนี้ นายฮาคีมได้ออกกำลังกายเตะฟุตบอลที่ลานออกกำลังกายในแดนแรกรับกับผู้ต้องขังรายอื่นๆเพื่อผ่อนคลายด้วย ส่วนอาหารการกินนั้นทางเรือนจำมีโรงครัวสำหรับประกอบอาหารฮาลาลสำหรับผู้ต้องขังที่เป็นมุสลิมอยู่แล้ว
“พรุ่งนี้ทางเรือนจำจะนำตัวนายฮาคีมไปส่งศาลประมาณ 08.00 น. เพื่อรอการสอบปากคำ และพิจารณาคดี หลังจากนั้นจะนำตัวกลับมายังเรือนจำ พิเศษกรุงเทพฯ หากศาลมีคำสั่งส่งตัวออกนอกประเทศ ตำรวจ ตม.จะเป็นผู้นำคำสั่งศาล และมารับตัวออกจากเรือนจำตามขั้นตอน” นายกฤชกล่าว