สุดสลด! หนุ่มขับจยย.ลืมเอาขาตั้งขึ้น คาด ทำเสียหลักล้ม ร่างไถลเข้าใต้รถเมล์ สาย 111 ถูกทับหัวดับสยอง ตร.คุมตัวคนขับรถประจำทางสอบ ขณะพยาน ยันเห็นผู้ตายรีบออกรถไปไม่ได้เอาขาตั้งขึ้น จะตะโกนบอกแต่ไม่ทัน
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 2 ก.พ. ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ชุณหเมธาทิพย์ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางคอแหลม รับแจ้งเหตุผู้ถูกรถประจำทางทับเสียชีวิต บนสะพานข้ามคลองดาวคะนอง มุ่งหน้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงและเขตจอมทอง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 3 เลน จากการตรวจสอบ บริเวณช่องทางเดินรถเลนที่ 2 พบรถประจำทาง ขสมก.สาย 111 สีครีมแดง ทะเบียน 11-9741 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 5-40416 วิ่งระหว่างเจริญนคร-บุคคโล จอดอยู่กลางถนน บริเวณใต้ท้องรถช่วงล้อหน้าด้านซ้าย พบศพ นายทศพล พัชรอาชา อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1-2 ถนนเยาวราช แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ขาสามส่วน มีบาดแผลถูกล้อรถประจำทางทับที่ศีรษะจนหมวกนิรภัยแบบเต็มใบหลุดออกจากหัว เลือดปนมันสมองกระจายเกลื่อนพื้น ใกล้กันพบรถ จยย.ผู้ตาย ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นเอ็มสแลซ สีดำ เป็นรถใหม่ ยังไม่ได้แผ่นป้ายทะเบียน พลิกคว่ำอยู่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
...
จากการสอบสวน นายธนพล โศจิพิทักษ์พงษ์ อายุ 24 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตนขับขี่รถ จยย.มาจากถนนสุขสวัสดิ์ เห็นผู้ตายจอดติดไฟแดงที่แยกพระราม 2 มุ่งหน้ามาทางดาวคะนอง ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน เมื่อได้สัญญาณไฟเขียวผู้ตาย ได้ออกรถเร่งเครื่องอย่างรวดเร็วมาก โดยที่ไม่ได้เอาขาตั้งรถขึ้น ตนจะตะโกนบอกก็ไม่ทัน กระทั่งขับขี่รถมาตามมาถึงจุดเกิดเหตุ พบว่ารถของผู้ตายล้มจนร่างไถลไปถูกรถประจำทาง ทับเสียชีวิตแล้ว โดยตนเชื่อว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากการที่ขาตั้งครูดกับถนน จนทำให้รถเสียหลักเกิดอุบัติเหตุ เพราะใกล้ๆ กันก็มีรอยเหล็กครูดถนนเป็นทางยาวก่อนถึงจุดที่รถล้มด้วย
ด้าน ร.ต.อ.สิทธิศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ควบคุมตัวโชเฟอร์รถประจำทาง เอาไว้แล้ว ทราบชื่อคือ นายต่อศักดิ์ สมบุญ อายุ 39 ปี เบื้องต้น เจ้าตัวให้การว่า เพิ่งนำรถออกจากอู่ซอยพระราม 2 ที่ 94 กำลังมุ่งหน้าไปจอด ที่ท่ารถซอยเจริญนคร 56 เพื่อให้บริการประชาชนตามปกติ กระทั่งมาถึงจุดเกิดเหตุ รถของผู้ตายก็มาล้มใกล้ๆ ร่างไถลเข้าสู่ใต้ท้องรถโดยไม่ได้เฉี่ยวชนกันแต่อย่างใด โดยหลังจากนี้ จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดและนำพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.