อสส.เสนอศาล ผู้ร้ายข้ามแดน!
อัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอศาลอาญาส่ง “ฮาคีม” อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปรับโทษจำคุก 10 ปีตามความผิด 4 คดีของศาลบาห์เรน และถูกออกหมายจับไว้ตั้งแต่ปี 2554 ศาลอาญานัดสอบคำให้การวันที่ 4 ก.พ.นี้ ขณะที่ “ณัฐาศิริ เบิร์กแมน” ทนายจำเลยงง ไม่ได้รับแจ้งจากอัยการว่ามีคำสั่งให้ศาลขังเป็นผู้ร้ายข้ามแดนแล้ว ขอดูคำร้องเพื่อพิจารณาคำคัดค้านก่อนสู้คดีในศาลต่อไป
กรณีนายฮาคีม อัล โอไรบี อายุ 25 ปี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ที่ลี้ภัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย และเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยพร้อมกับภรรยาเมื่อวันที่ 27 พ.ย. แต่ถูกเจ้าหน้าที่ สตม.กักตัวไว้เพื่อตรวจสอบเนื่องจากมีหมายจับของตำรวจสากล และทางการประเทศบาห์เรนหลายข้อหา จนบานปลายกลายเป็นปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ มีองค์กรสิทธิ์ระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากประเทศไทยและประเทศบาห์เรนไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน ส่วนคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระบวนการยุติธรรมของไทย
ความคืบหน้าจากศาลอาญาเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 ก.พ. พนักงานอัยการสำนักงานต่างประเทศ ยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน นายฮาคีม อาลี โม ฮัมเหม็ด อาลี อัล โอไรบี อายุ 25 ปี กลับไปดำเนินคดี ตามคำขอทางการบาห์เรนที่ส่งมาถึงทางการไทย คำร้องระบุว่า ประเทศบาห์เรนและประเทศไทย
ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน พระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน 2551 กำหนดให้รัฐบาลต่างประเทศสามารถร้องขอต่อรัฐบาลไทยให้ส่งตัวบุคคลที่กระทำผิดตามกฎหมายของประเทศที่ร้องขอ แม้ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย โดยให้รัฐบาลประเทศผู้ร้องขอทำคำรับรองที่จะปฏิบัติต่างตอบแทนกับรัฐบาลไทย คดีนี้รัฐบาลบาห์เรนให้คำรับรองแล้ว ขณะที่การกระทำความผิดที่ร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายไทย และความผิดดังกล่าวต้องเป็นความผิดกำหนดโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เป็นความผิดที่มีลักษณะทางการเมืองหรือทางทหาร
...
คดีนี้รัฐบาลบาห์เรนมีหนังสือลงวันที่ 3 ธ.ค.61 และเอกสารประกอบคำร้องขอพร้อมคำแปลภาษาไทยส่งผ่านวิธีทางการทูต ขอให้รัฐบาลไทยจับกุมและคุมขังชั่วคราวนายฮาคีม สัญชาติบาห์เรนที่ถือหนังสือ เดินทางบาห์เรน เพื่อดำเนินการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปรับโทษตามคำพิพากษาฐาน 1.ลอบวางเพลิงฯ 2.ชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมายมากกว่า 5 คนฯ 3.ครอบครองวัตถุไวไฟซึ่งเป็นระเบิดขวดฯ และ 4.ทำให้รถยนต์ผู้อื่นเสียหายฯ มีอัตราโทษจำคุกเกิน 1 ปีและคดียังไม่ขาดอายุความ นายฮาคีมเป็นจำเลยที่ 4 คดีดังกล่าวศาลบาห์เรนพิจารณาลับหลังและพิพากษาลงโทษจำเลยให้จำคุกเป็นเวลา 10 ปี แต่นายฮาคีมหลบหนี สำนักงานอัยการบาห์เรนจึงออกหมายจับเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.54
คดีนี้กระทรวงการต่างประเทศฐานะเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจฝ่ายบริหาร พิจารณาคำร้องส่งผู้ร้ายข้ามแดนของทางการบาห์เรนแล้วเห็นว่า แม้ประเทศไทยกับบาห์เรนจะไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน แต่รัฐบาลไทยสามารถให้ความร่วมมือบนหลักปฏิบัติต่างตอบแทน คำร้องขอของทางการบาห์เรนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทางการบาห์เรนให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติต่างตอบแทน หากรัฐบาลไทยร้องขอลักษณะคล้ายคลึงกัน รับรองไว้เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.61 อัยการสูงสุดพิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การกระทำของนายฮาคีมเทียบได้กับความผิดอาญากฎหมายไทย และคดียังไม่ขาด อายุความ เป็นความผิดที่ส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ อัยการนำตัวนายฮาคีมขอให้ศาลมีคำสั่งขังไว้ก่อน ศาลอาญามีคำสั่งวันที่ 11 ธ.ค.61 ให้ขังนายฮาคีมกำหนด 60 วัน รอหนังสือคำร้อง
กระทั่งวันที่ 18 ม.ค.62 รัฐบาลบาห์เรนมีหนังสือพร้อมเอกสารหลักฐานส่งถึงอัยการสูงสุดผ่านวิธีทางการทูต ให้ส่งตัวนายฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปรับโทษตามคำพิพากษาที่ประเทศบาห์เรน ดังนั้นโจทก์ขอให้ศาลเบิกตัวนายฮาคีมที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำมาพิจารณาการร้อง หากจำเลยยื่นขอประกันตัว ขอให้ศาลพิจารณาไม่อนุญาต เพราะหากจำเลยรับการปล่อยตัวชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะหลบหนี เป็นผลเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ศาลอาญาประทับรับคำฟ้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนไว้เป็นคดีดำหมายเลข ผด.6/2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจะเบิกตัวนายฮาคีมมาสอบคำให้การวันที่ 4 ก.พ. เวลา 09.00 น.
ภายหลังนางณัฐาศิริ เบิร์กแมน นักกฎหมายจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ได้รับมอบอำนาจจากนายฮาคีมให้เป็นทนายความให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ระบุว่า เพิ่งทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าอัยการมีคำสั่งขอให้ศาลขังนายฮาคีมเพื่อส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้ทางการบาห์เรน เรื่องนี้ตามกระบวนการต้องส่งคำร้องให้นายฮาคีมรับทราบด้วย ขอพิจารณาคำร้องและยื่นคำคัดค้านพร้อมชี้เหตุผลให้ศาลพิจารณาว่า ไม่ควรส่งนายฮาคีมให้ทางการบาห์เรนด้วยเหตุผลอย่างไรบ้าง จากนั้นศาลจะนัดทั้งฝ่ายอัยการผู้ร้องและฝ่ายนายฮาคีมผู้คัดค้านไต่สวน ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะนำใครเข้าไต่สวนบ้าง เพราะต้องรอดูทางอัยการก่อนว่านำใครมาเบิกความ