หนุ่มเกาหลีแสบ ลวง 3 เหยื่อชาวญี่ปุ่น นำเงินกว่า 2.6 ล้านบาท เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย พอมาถึงยึดพาสปอร์ตให้อยู่แต่ในคอนโดย่านสุขุมวิท นานวันทวงถามรายได้จากการลงทุน เริ่มแสดงธาตุแท้ทำร้ายร่างกายเหยื่อ แถมข่มขู่ว่าสนิทสนมแก๊งยากูซ่า จะให้ไปทำร้ายครอบครัวที่ญี่ปุ่นถ้าโวยวาย เหยื่อทนไม่ไหวหนีไปพึ่งสถานทูตญี่ปุ่น ประสานตำรวจไทยเข้าจับกุมและช่วยเหลือเหยื่ออีก 2 คนไว้ได้ แต่ยังผวาไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดีในไทย

หนุ่มเกาหลีอ้างสนิทแก๊งยากูซ่า ลวงเงิน ทำร้ายและกักขังเหยื่อชาวญี่ปุ่นรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 31 ม.ค. พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. แถลงจับกุมชาวเกาหลีใต้หลอกลวงชาวญี่ปุ่นมาลงทุนในประเทศไทย และกักขังหน่วงเหนี่ยว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าวว่า วันที่ 28 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.บช.สตม.ควบคุมตัวนายฮวาง จียอนอิล อายุ 28 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเนื่องจากเป็นภัยสังคม มีพฤติการณ์หลอกลวงชาวญี่ปุ่น 3 คน ได้แก่ น.ส.มารินา ยามากุชิ อายุ 24 ปี นายโคเฮ ยามากุชิ อายุ 20 ปี และนายเคนทาโร โคกะ อายุ 20 ปี ให้นำเงินมาร่วมลงทุนในตลาดหุ้นทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,640,000 บาท

“เมื่อนายฮวางได้เงินมาแล้ว หน่วงเหนี่ยวชาวญี่ปุ่นทั้ง 3 คน ให้อยู่ในคอนโดแห่งหนึ่งภายในซอยสุขุมวิท 13 ไม่ให้หลบหนีไปไหน ยึดหนังสือ เดินทางของทั้งหมดไว้ และข่มขู่ว่าจะทำร้ายคนในครอบครัวของเหยื่อที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น อ้างว่ารู้จักกับแก๊งยากูซ่าและแก๊งไชนีสดราก้อนในประเทศญี่ปุ่น ระหว่างที่ชาวญี่ปุ่นพักอยู่กับนายฮวางถูกทำร้ายร่างกายต่างๆจนมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าตรวจพบประมาณเดือน ธ.ค.2561 น.ส.มารินา ยามากุชิ 1 ในเหยื่อชาวญี่ปุ่นหลบหนีออกมาจากคอนโด เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ภายหลังสถานทูตญี่ปุ่นฯประสานมายัง สตม. เพื่อให้ช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นอีก 2 คน ที่ยังคงอยู่กับนายฮวางจนสำเร็จ” ผบช.สตม.กล่าว

...

มีรายงานว่า นายฮวางรู้จักกับเหยื่อที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างดี หลังจากสนิทสนมกันมากขึ้น ผู้ต้องหาชักชวนให้เหยื่อเดินทางมาลงทุนซื้อขายหุ้นในประเทศไทย อ้างว่ามีความชำนาญเพราะเดินทางเข้าออกประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง จนมีความคุ้นเคยและรู้ลู่ทางหารายได้ ยืนยันว่าถ้ามาลงทุนจะได้ผลตอบแทนสูง จนกลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ ช่วงเดือน ต.ค.2561 น.ส.มารินา ยามากุชิ และนายโคเฮ ยามากุชิ น้องชาย เดินทางเข้ามายังประเทศไทยก่อน พักที่คอนโดในซอยสุขุมวิท 13 พร้อมมอบเงินให้นายฮวางไปลงทุนซื้อหุ้น หลังจากนั้นนายฮวางยังชักชวนนายเคนทาโร โคกะ ให้เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อร่วมลงทุนด้วยกัน เมื่อผู้เสียหายทั้ง 3 คนเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ผู้ต้องหายึดพาสปอร์ตของทุกคนไว้ไม่ให้หลบหนี แต่ยังปล่อยให้ใช้ชีวิตปกติ

มีรายงานอีกว่า พอนานวันนายฮวางยังไม่พูดถึงผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน ผู้เสียหายทั้ง 3 คนเริ่มทวงถาม นายฮวางกลับบ่ายเบี่ยง จนกลุ่มผู้เสียหายเอะใจรู้สึกถึงความผิดปกติว่าเงินถูกนำไปลงทุนจริงหรือไม่ จนถูกนายฮวางทำร้ายร่างกาย และข่มขู่ไปถึงพ่อแม่ญาติพี่น้องที่ประเทศญี่ปุ่นว่า จะให้แก๊งยากูซ่าไปทำร้ายหากยังเซ้าซี้ถามเรื่องเงิน เมื่ออดทนถึงที่สุด น.ส.มารินาจึงหลบหนีออกจากคอนโดเข้าร้องเรียนเรื่องที่เกิดขึ้นกับสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย จนเป็นที่มาของการขยายผลจับกุม ผู้ต้องหารายนี้ แต่ขณะนี้ผู้เสียหายทั้ง 3 คนยังไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจไทย เนื่องจากเกรงว่าครอบครัวที่ประเทศญี่ปุ่นจะถูกทำร้ายจริงๆ อยู่ระหว่างการพูดจาของเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่น