ภาพ : พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม - พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล

ภัยที่น่ากลัวในยุคปัจจุบัน คนร้ายใช้ชื่อคนอื่นแอบอ้างข่มขู่ หลอกลวงและเรียกผลประโยชน์ มีคนจำนวนมากเคยตกเป็น “เหยื่อถูกหลอก” โดยเฉพาะทั้งที่มีข่าวและไม่เป็นข่าว อ้างตัวเป็นตำรวจข่มขู่เรียกเอาทรัพย์สิน

คนร้ายจะหากินกับกลุ่มคนที่สุ่มเสี่ยงกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการอ้างเรื่องยาเสพติด ไปค้นตัว ค้นรถ ค้นบ้าน ถ้าเจอยาเสพติดจะเรียกเอาเงิน ข่มขู่สารพัด ทำให้เหยื่อหลงเชื่อยอมจ่ายเงิน

นอกจากชาวบ้านที่ต้องคอยหวาดระแวงกับคนร้ายเหล่านี้ ตำรวจเองได้รับความเสียหาย เพราะตำรวจไม่ได้ทำ แต่ชาวบ้านที่โดนเล่ากันปากต่อปาก เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้มาเรียกรับเงินกับชาวบ้าน

ทำความเสียหายมานาน

น่าแปลกใจอดีตคดีที่เกิดแบบนี้จับกุมได้น้อย อาจจะเป็นเพราะชาวบ้านไม่กล้าแจ้งความ หรือแจ้งความแล้วตำรวจไม่ค่อยสนใจทำคดี แต่ไม่ใช่ในยุคนี้ที่มี ศปอส.ตร. คอยรับเรื่องราวความเดือดร้อนของชาวบ้าน

รับประสานทำเป็นคดี

คดีนี้ชาวบ้านร้องทุกข์ว่า ถูกคนร้ายอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจค้นยาเสพติด และเรียกรับเงิน คนร้ายหากินอยู่ในย่านรามคำแหง ทำมานาน มีคนโดนหลอกไปแล้วหลายราย

พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. หัวหน้าชุดปฏิบัติการ สั่งให้ ศปอส. ตร.สืบสวนจับกุม หากเป็นตำรวจจริงต้องดำเนินคดี พบว่าห้องเช่าหน้า ม.รามคำแหง ช่วงกลางคืนมีชายฉกรรจ์ 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนไปตามอาคารต่างๆ อ้างตัวเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด ขอตรวจค้นคนที่เดินอยู่ใต้อาคาร บางครั้งจะขึ้นไปเคาะประตูห้องพักขอเข้าตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย และเมื่อถูกผู้เสียหายถามหาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งสองแสดงอาวุธปืนหรือวัตถุคล้ายลูกระเบิดให้ดู และใช้กำลังบังคับให้พาขึ้นอาคารไปยังห้องพัก

...

อ้างค้นหาของผิดกฎหมาย

เมื่อตรวจค้นห้องพักของเหยื่อพบว่ามีสิ่งของที่ผิดกฎหมาย จะเรียกเอาทรัพย์สินจากเหยื่อเป็น “ค่าปิดปาก” แลกกับการไม่ต้องดำเนินคดี ตำรวจสืบสวนว่า นายอดิศักดิ์ แช่มช้อย อายุ 26 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ และ นายกิตติศักดิ์ เพชรอาวุธ อายุ 32 ปี คนนั่งซ้อนท้าย ตำรวจขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองคน

จับตัวนายอดิศักดิ์ได้ที่ จ.นครศรีธรรมราช อยู่ระหว่างตามนายกิตติศักดิ์ที่หลบหนีมาดำเนินคดี

คดีนี้ ศปอส.ตร.ให้ความสำคัญจับกุมคนร้ายมาโดยเร็ว หากช้าคงมี เหยื่อถูกหลอกอีกมาก คนที่เคยถูกหลอกขอให้มาชี้ตัวคนร้ายเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่ม ไม่ว่าจะถูกตำรวจจริงหรือคนที่ชอบอ้างเป็นตำรวจ ควรแจ้งความไว้ก่อน

จะได้ช่วยทำให้ภัยนี้หมดไปจากสังคม.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th