ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงเรื่องเล่าขาน ตำนานสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ก่อนศิลปากร ขึ้นทะเบียนตั้งเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์...

โดยข้อมูลจากเทศบาลตำบลท่าเสด็จ จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ระบุถึงตำนานเกี่ยวกับสระศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 4 ที่เล่าขานกันมานานหลายศตวรรษว่า นานมาแล้ว มีเจ้าผู้ครองนครองค์หนึ่ง มีพระราชธิดา 4 พระองค์ทรงพระนามว่า แก้ว คา ยมนา เกศ ทุกพระองค์มีพระสวามีแล้ว แต่องค์สุดท้องคือ เกศ มีพระสวามีเป็นลิงเผือก

ต่อมา เจ้าผู้ครองนครได้สั่งพระราชธิดา และพระราชบุตรเขยว่า ถ้าใครสามารถขุดสระได้ลึกและกว้างที่สุด จะมอบพระขรรค์ศักดิ์สิทธิ์และให้ครองนครต่อไป ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มต้นขุดสระ ส่วนน้องเกศน้องคนสุดท้องต้องขุดอยู่คนเดียว อีกทั้งตอนถึงเวลากลางคืน พี่สาวทั้ง 3 และพี่เขยยังเอาดินมาถมสระอีก

...

ครั้นถึงวันสุดท้ายลิงเผือกกับบริวารมาช่วยกันขุดสระพักเดียวก็ได้สระที่กว้างและลึกที่สุดกว่าทุกๆ สระ และยังปลูกต้นเกศไว้ตรงกลางสระเป็นเครื่องหมายอีกด้วย ครั้งถึงรุ่งเช้าตามกำหนด เจ้าผู้ครองนครก็สวรรคตพอดี บรรดาเสนาอำมาตย์จึงตั้งกรรมการมาตรวจดูสระทั้งสี่ ปรากฏว่าสระของเกศกว้างใหญ่และลึกที่สุด จึงมอบพระขรรค์ให้เกศ ทำให้พี่สาวและพี่เขยไม่พอใจ จึงลักเอาพระขรรค์ศักดิ์สิทธิ์หนีไป ลิงเผือกจึงขี่ม้าติดตามออกไปจนทันที่สระของเกศ เมื่อพี่สาวและพี่เขยเห็นจวนตัวจึงขว้างพระขรรค์ลงไปในสระของเกศ บังเอิญถูกตัดต้นเกศขาดสะบั้นลง และพระขรรค์ก็อันตรธานหายไป น้ำในสระจึงกลายเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ต่อมา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชหัตถเลขาไว้ว่า “แต่เหตุไฉนที่สระนี้ขลังนักไม่ปรากฏ คงจะมีตัวครูบาที่สำคัญเป็นอันมาก น้ำในสระก็ไม่ใช้ ปลาในสระก็ไม่กิน สระมีหญ้าขึ้นรกเต็มไปหมด มีจระเข้อาศัยอยู่ทั้งสี่สระน้ำสระคา สระยมนา ไม่สู้สะอาด มีสีแดง แต่น้ำสระเกษ สระแก้วใสสะอาด”

ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จมาทอดพระเนตรสระศักดิ์สิทธิ์ที่ตำบลนี้ จึงเป็นเหตุให้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเป็น บ้านท่าเสด็จ และกรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียนจัดตั้งสระน้ำศักดิ์สิทธิ์เป็นโบราณสถาน ณ วันที่ 23 ตุลาคม 2548

...

ในปัจจุบัน ไม่ปรากฏหลักฐานว่า สระทั้งสี่ได้ถูกนับถือเป็นสระศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่เมื่อใด แต่หลักฐานโบราณวัตถุที่พบในบริเวณใกล้เคียงกับสระทั้งสี่ มีอายุราวๆ พ.ศ.1500 ด้วยเหตุนี้ทำให้เชื่อว่า สระทั้งสี่ถูกยกสถานะให้เป็นสระศักดิ์สิทธิ์ มาตั้งแต่ก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี (พ.ศ.1893)

อย่างไรก็ดี สระทั้งสี่ไม่ได้อยู่ในบริเวณเดียวกัน โดยสระคา สระยมนา และสระเกษ จะอยู่ฝั่งถนนเดียวกัน คือ ริมถนนสายดอนเจดีย์-สุพรรณบุรี ม.6 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มุ่งหน้าดอนเจดีย์ แต่สระแก้วนั้นอยู่อีกฟากถนน ต้องข้ามสะพานลอยไปชมต่างหาก เวลาเปิด : 08.00-18.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม.

ขอบคุณภาพจาก เทศบาลตำบลท่าเสด็จ