ตำรวจเตรียมเรียกสอบผู้เกี่ยวข้อง เหตุอาคารร้างปากซอยรามคำแหง 51 พังถล่มลงมาทับคนเดินถนนเจ็บ 2 เผยกำแพงชั้น 2 รับแรงกระแทกไม่ไหว หลุดตกใส่กันสาด ชี้ อาจเข้าข่ายฯ ประมาท
จากเหตุการณ์อาคารตึกร้างปากซอยรามคำแหง 51/2 ถนนรามคำแหงขาออก แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. พังถล่มลงมาขณะทำการรื้อถอน เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 ม.ค. มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย โดยเหตุดังกล่าว ร.ต.ท.หญิง ศศิพันธ์ คงเอียด รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุ รุดไปรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เจ้าหน้าที่เขตบางกะปิ
ที่เกิดเหตุอยู่ปากซอย พบอาคารไม่มีเลขที่ 4 อาคารปลูกติดกัน สูง 4 ชั้น เป็นตึกร้างได้ถล่มลงมาพังกันสาดล้ำมาในฟุตปาท พบผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ 1.น.ส.โสภิตา ทองเกิด อายุ 23 ปี ถูกนำตัวส่ง รพ.เพชรเวช 2.น.ส.นภาพร ศรีบุญเรือง อายุ 54 ปี ถูกนำส่งรพ.รามคำแหง ทั้ง 2 รายเป็นประชาชนเดินริมถนนโดนเศษอิฐเศษปูนหล่นใส่ศีรษะแตกและมีบาดแผลถลอกตามร่างกาย เบื้องต้นอาการปลอดภัย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจร 1 ช่องทางเลนซ้ายสุด เพื่อป้องกันเศษปูนที่หล่นลงมาจากอาคาร
...
นายสุรศักดิ์ ขุ่นภูมิ อายุ 47 ปี หัวหน้างานก่อสร้างให้การว่า จุดดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมไว้เพื่อทำการรื้อถอนก่อสร้างเป็นปล่องรถไฟใต้ดินสถานีมหาวิทยาลัยรามคำแหง อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ก่อนหน้านี้ได้ทำการเวนคืนตึกซึ่งปล่อยทิ้งไว้ เริ่มดำเนินการในเดือน ธ.ค.60 ใช้รถแบ็กโฮขนาดเล็กรื้อถอนผนังอาคารด้านหลังตั้งแต่เดือน ธ.ค.
"ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ็กโฮขนาดใหญ่มารื้อถอนส่วนที่เหลือ เริ่มดำเนินการเมื่อวานนี้เป็นวันแรก ส่วนวันนี้การรื้อถอนทุบตึกใช้คนงาน 9 คน ขณะทำการรื้อถอนจากด้านใน ตัวระเบียงแผ่นปูนของชั้น 2 รับแรงกระแทกไม่ไหว หลุดมากระแทกกันสาดถล่มลงมา โดยระหว่างรื้อถอนนั้น ทางเดินฟุตปาทหน้าอาคารไม่อนุญาตให้มีคนเดินผ่านเด็ดขาด ต้องไปเดินตรงถนน ผู้บาดเจ็บอยู่ระหว่างเดินผ่าน จึงถูกเศษซากตกใส่ ส่วนคนงานไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
ด้าน พล.ต.ต.ธีระพงษ์ กล่าวว่า การรื้อถอนอาคารดังกล่าวมีการขออนุญาตตามขั้นตอน แต่กระบวนการรื้อถอนที่ทำให้เศษวัสดุตกหล่นลงมาเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บไม่มาก คาดว่าพักรักษาตัวไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบปากคำผู้ที่ดำเนินการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งจะต้องดูว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นหรือไม่ และได้ดำเนินการรื้อถอนตามขั้นตอนหรือไม่
"เบื้องต้นทราบว่าสาเหตุเกิดจากการรื้อถอนทำให้กำแพงชั้นบนสุดหล่นมาทับชั้นที่ 2 และ 3 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่แจ้งข้อหา เนื่องจากต้องรอสอบปากคำในรายละเอียดทั้ง วิศวกรรมเขต และเจ้าหน้าที่โยธา พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุว่าสาเหตุเกิดจากอะไร สำหรับอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่า ถนนมีการขยายฟุตปาท ทำให้ใกล้เคียงกับแนวอาคาร การรื้อถอนก็ยากลำบาก บางครั้งกระทบส่วนหนึ่งแล้วอาจทำให้ส่วนอื่นทลายลงมาได้ อาจเป็นความประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่"
...
พล.ต.ต.ธีระพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้บาดเจ็บสามารถเรียกร้องสิทธิได้ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ทางเจ้าหน้าที่จะต้องสอบปากคำและสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ขณะนี้ทราบรายละเอียดทั้งนายจ้าง ผู้รับเหมา และคนงานก่อสร้างแล้ว พร้อมได้ให้ยุติการรื้อถอนทันที นอกจากนี้ตัวอาคารใกล้เคียงซึ่งเป็นธนาคารออมสิน ได้รับผลกระทบบริเวณชั้น 2 และ 3 ไม่สามารถขึ้นไปใช้งานได้ ส่วนชั้น 1 สามารถใช้ทำการได้ชั่วคราว ซึ่งได้ขอความร่วมมือให้ทางเขตและวิศวกรรมของเขตบางกะปิออกหนังสือให้เจ้าของอาคารที่เกี่ยวข้องทราบ ในอนาคตอาจต้องหยุดทำการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยระหว่างทำการรื้อถอนอาคาร.