คปภ.จัดโปรประกัน 7 กับ 10 บาท

ตำรวจเผยมาตรการดูแลช่วง 7 วันอันตราย ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ ปีใหม่ 2562 เปิดโครงการประชารัฐร่วมใจโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ รวมทั้งระดมปราบปรามอาชญากรรม พร้อมตั้งกองอำนวยการส่วนหน้าตามสถานที่จัดกิจกรรมรื่นเริงใหญ่ๆทั่วประเทศ มีผู้ดูแลรักษาการระดับ พ.ต.อ.ขึ้นไป และสั่งเข้มงวดข้อหาจราจร 10 ข้อหา เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุ ด้านศาลยุติธรรมประกาศเปิดทำงานในวันหยุดเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและหน่วยงานรัฐในการบังคับใช้กฎหมาย เปิดศูนย์ควบคุมติดตามการปล่อยชั่วคราว พร้อมเตรียมอุปกรณ์อีเอ็มสำหรับผู้ที่ถูกปล่อยตัวชั่วคราวตลอด 24 ชม.ด้วย ส่วนคปภ.ผนึกกำลังกับภาครัฐและประกันภัย รณรงค์ความปลอดภัยทางถนน ประสานปล่อยประกันภัยราคาถูก เฉพาะช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วย

ตำรวจเริ่มออกมาตรการป้องกันเหตุช่วงปีใหม่ เปิดเผยขึ้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 ธ.ค. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยคำสั่งของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.61-2 ม.ค.62 เป็นระยะเวลา 10 วัน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมกันระดมกวาดล้างและสอดส่องดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ยังสานต่อโครงการประชารัฐร่วมใจ โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจในห้วงวันดังกล่าวด้วย

พล.ต.ท.ปิยะกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และจัดงานสร้างสรรค์หลายแห่ง อาทิ เซ็นทรัลเวิลด์ เอเชียทีค และไอคอนสยาม นอกจากนี้ ใน จ. ชลบุรีมีการจัดงานอีกด้วย ในสถานที่ต่างๆที่จัดงานจะตั้งกองอำนวยการส่วนหน้าโดยจะมีผู้ดูแลรักษาการระดับ พ.ต.อ.เป็นอย่างน้อย และจะเข้มงวดกวดขันสถานบันเทิงตามคำสั่ง คสช.22/2558 เปิดปิดตามเวลา การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การให้เด็กอายุ ต่ำกว่า 18 ปีเข้าสถานบันเทิง ยาเสพติดต่างๆหากพบว่า มีเด็กกระทำความผิดทางผู้ปกครองจะต้องมีความผิดด้วย

...

ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ยังบังคับ ใช้กฎหมายด้านการจราจรว่าด้วยการกำหนดเวลารถบรรทุก 10 ล้อขึ้นไปในถนนบางสาย ช่วงวันที่ 27 ธ.ค.61 ถึงวันที่ 3 ม.ค.62 ในถนนเส้นทางสำคัญ อาทิ ถนนมิตรภาพ ทับกวาง-คลองไผ่ รวม 78 กม. ช่วงกบินทร์บุรี-นาดี รวม 30 กม. และช่วงอรัญ-ประเทศ-นางรอง รวม 9 กม.

“นอกจากนี้ ยังบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจังและต่อเนื่อง 10 ข้อหาหลักได้แก่ ข้อหาขับขี่โดยใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ข้อหาขับขี่รถย้อนศร ข้อหาฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ข้อหาไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ข้อหาไม่มีใบขับขี่ ข้อหาแซงในที่คับขัน ข้อหาขับรถเมาสุรา ข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย ข้อหาขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และข้อหาใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ในส่วนของมาตรการยึดรถจะตรวจสอบรถต่างๆในช่วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมอยู่แล้ว หากพบว่าการกระทำความผิดจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงผู้ที่เมาแล้วขับจะต้องถูกยึดรถด้วย” พล.ต.ท.ปิยะกล่าว

ที่สำนักงานศาลยุติธรรม วันเดียวกันนายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยสถิติ คดีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 28 ธ.ค.2560 ถึงวันที่ 3 ม.ค.2561 พบว่า มีการนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลชั้นต้นทั่วราชอาณาจักรรวมทั้งสิ้น 15,587 คดี จังหวัดที่มีปริมาณคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 ลําดับ ได้แก่ จ.อุดรธานี 1,284 คดี ชลบุรี 904 คดี จ.ร้อยเอ็ด 688 คดี จ.เชียงใหม่ 681 คดี และกรุงเทพมหานคร 656 คดี ทั้งนี้หากแยกปริมาณคดีฟ้องยังศาลชั้นต้นทั่วราชอาณาจักร ศาลที่มีปริมาณการฟ้องคดีขึ้นสู่การพิจารณาสูงสุด 5 ลําดับได้แก่ ศาลแขวงเชียงใหม่ 561 คดี ศาลแขวงอุดรธานี 530 คดี ศาลแขวงชลบุรี 487 คดี ศาลแขวงพัทยา 375 คดี และศาลแขวงสมุทรปราการ 338 คดี ส่วนข้อหาที่พบว่ากระทําความผิดสูงสุดตามลําดับดังนี้

“1.ขับรถขณะเมาสุราระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ แต่หากเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จะมีระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 2-6 ปี ปรับตั้งแต่ 40,000-120,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 2 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ แต่ถ้าเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่” นายสุริยัณห์กล่าว

นายสุริยัณห์กล่าวด้วยว่า 2.ขับรถขณะเสพสารเสพติดเข้าไปในร่างกาย ต้องระวางโทษสูงกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดอีก 1 ใน 3 กล่าวคือ หากเสพยาเสพติดให้โทษในประเภทหนึ่ง เช่น ยาบ้าแล้วขับรถ ต้องเพิ่มโทษ 1 ใน 3 จากระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000-60,000 บาท หากเสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เช่น กัญชาแล้วขับรถ ต้องเพิ่มโทษ 1 ใน 3 จากระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หากเป็นพืชกระท่อมจะต้องเพิ่มโทษ 1 ใน 3 จากระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน เป็นต้น และ 3.ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วง 7 วันอันตรายของปีนี้คือ ระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2561 ถึงวันที่ 2 ม.ค.2562 สำนักงานศาลยุติธรรมจะเก็บสถิติคดีและรายงานให้พี่น้องประชาชนทราบ เพื่อให้ข้อมูลสร้างการตระหนักรู้แก่ทุกฝ่าย นำไปสู่การแก้ไขปัญหาการกระทำผิดกฎหมายช่วงเวลาดังกล่าว และในช่วงวันหยุดราชการปีใหม่ 2562 ศาลยุติธรรมชั้นต้นทั่วประเทศจะเปิดทำการในวันหยุดราชการ เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินกระบวนพิจารณาในคดีอาญา เพื่อการผัดฟ้องฝากขัง เนื่องจากตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาไว้ได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง และกรณีที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พนักงานอัยการจะต้องนำตัวมาส่งฟ้องต่อศาลให้ทันภายในกำหนด 48 ชม.ด้วย ในช่วงวันหยุดหากมีกรณีต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางของบุคคล (อุปกรณ์ EM) สำหรับการปล่อยชั่วคราวหรือคุมประพฤติ ศูนย์ควบคุมติดตามการปล่อยชั่วคราวและการบังคับตามคำสั่งศาลโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานศาลยุติธรรมจะเปิดทำการตลอด 24 ชม. 7 วันจึงสามารถอำนวยความสะดวกได้ตลอดเวลา

...

ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ.เผยว่า ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ของทุกๆปี มีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองรื่นเริงต่างๆควบคู่ไปกับการใช้รถใช้ถนนเพื่อการสัญจร จึงอาจมีความเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินจากอุบัติเหตุสูงกว่าเวลาปกติ ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งท้ายปี 2561 ต้อนรับปี 2562 อย่างมีความสุขและอบอุ่นใจ โดยเฉพาะช่วงเข้มข้น 7 วันอันตรายระหว่างวันที่ 27 ธ.ค.2561-2 ม.ค.2562 คปภ.จึงเตรียมความพร้อมการให้ความช่วยเหลือประชาชนด้านการประกันภัยช่วงปีใหม่ ผนึกกำลังกับภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมประกันภัยร่วมด้วยมูลนิธิเมาไม่ขับจัดโครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562

“อบรมเครือข่ายอาสาสมัครประกันภัยในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อขับเคลื่อนการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์สร้างกระแสให้เกิดการรับรู้ กระตุ้นจิตสำนึกการขับขี่ปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์และรถยนต์ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือการบริหารความเสี่ยงและสามารถเข้าถึงระบบการประกันภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้สำนักงาน คปภ.ได้เปิดศูนย์บริการสายด่วน คปภ. 1186 อย่างครบวงจรเพื่อให้บริการฮอตไลน์ 24 ชม.ตลอด 7 วันอันตรายด้วย” เลขาธิการ คปภ.กล่าว

นายสุทธิพลกล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ.ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมประกันภัยส่งมอบความสุข และสร้างความอบอุ่นใจการเดินทางให้พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ด้วยของขวัญพิเศษสุดๆในรูปแบบของกรมธรรม์ประกันภัยที่ราคาถูกที่สุดในโลก แต่ให้ความคุ้มครองแบบคุณภาพคือ กรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่อุ่นใจด้วยประกันภัย 7 บาท และกรมธรรม์ประกันภัยปีใหม่อุ่นใจด้วยประกันภัย 10 บาท ให้ความคุ้มครอง 3 กรณีคือ กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ มือ เท้า สูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงเนื่องจากอุบัติเหตุ ได้รับความคุ้มครอง 100,000 บาท สามารถซื้อได้ที่ธนาคารออมสินและเคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศ เริ่มจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2561 ถึงวันที่ 31 ม.ค.2562 ผู้มีสิทธิเอาประกันภัยต้องมีอายุตั้งแต่ 20-70 ปีบริบูรณ์ สำหรับระยะเวลาการคุ้มครอง 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ทำประกันภัย หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ.1186

...