ฉลาดเกมส์โกงต้องยกให้กลุ่มคนจีนรายนี้ ด้วยการทำเรื่องที่ผิด เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เช่น รับจ้างเข้าสอบ ภาษาอังกฤษของ ACT สำหรับการศึกษาต่อต่างประเทศ เหมือนพล็อตหนังดังของไทย...
ฉลาดเกมส์โกงต้องยกให้หนุ่มจีนรายนี้ เก่งทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องที่ผิดแปลกแหวกกฎหมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองต้องการ จนบางครั้งทำเรื่องง่ายๆ ให้กลายเป็นเรื่องยากไปซะอย่างนั้น สมองซับซ้อนคิดกลอุบายซ่อนเงื่อน อันไหนโกงได้ก็จะมีวิธีที่โกงอย่างแนบเนียน เฉียบคม กว่าจะถูกสะกดแกะรอยติดตามจับกุมตัวได้ ก็สร้างมูลค่าความเสียหายระดับชาติ
ล่าสุดมาแนวใหม่ เหมือนจะลอกเทคนิคกลวิธีแบบในภาพยนตร์ไทยดังเรื่อง "ฉลาดเกมส์โกง" ข่าวว่าภาพยนต์เรื่องนี้ไปโด่งดังมากในจีน กระทั่งล่าสุด สิ่งที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดขึ้นมาจนได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครปฐม ได้รับแจ้งว่า มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในสนามสอบภาษาอังกฤษของ ACT (American College Testing) เป็นการสอบวัดระดับทักษะการการใช้เหตุผลและสื่อสารสำหรับศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก โดยจัดขึ้นที่ ม.มหิดล (ศาลายา) จ.นครปฐม ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ได้รับข้อมูลการเปิดโปงกลโกงครั้งนี้จาก พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สารวัตรสายตรวจ 191 ทีมงานชุดไขคดีโกงสอบ
...
ACT (American College Testing) สถาบันภาษาชื่อดังในเอเชีย
การสอบวัดคะแนนภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปยื่นเรียนต่อสถาบันชั้นนำในประเทศสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง ถือได้ว่า ACT (American College Testing) เป็นสถาบันสอบภาษาที่น่าเชื่อถือ และยอมรับในแถบภูมิภาคเอเชีย เพราะคะแนนผลสอบที่ได้มา การันตีถึงมาตรฐานว่า ผู้ที่สอบผ่านได้คะแนนสูงถึงหลักเกณฑ์กำหนด จะนำไปยื่นขอวีซ่า เพื่อนำไปเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยชั้นนำได้ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศประเทศสหรัฐอเมริกา
กำหนดการการจัดสอบ ACT ในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 7 ครั้งต่อปี ในเดือนกุมภาพันธ์ เมษายน มิถุนายน ตุลาคม และธันวาคม จะจัดสอบหลายประเทศในแถบเอเชีย แล้ว แต่ว่าผู้สอบต้องการจะเดินทางไปสอบยังที่ใด อีกทั้งการจัดสอบเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน กระทั่งล่าสุดได้มีการจัดสนามสอบขึ้นในประเทศไทย ณ มหาวิทยาลัยมหิดล....กระทั่งล่าสุดเกมโกงถูกเปิดโปงขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ...
เอเจนซี่จีน จัดหานักเรียนเก่งภาษา เข้าสอบแทนลูกค้า บินมาโกงในไทย
ไม่ใช่เรื่องน่าเหลือเชื่ออะไร เพราะจีนสมองใสทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งสลับตัวเข้าสนามสอบ กลายเป็นเรื่องหมูๆ ที่ตบตากันเป็นกลุ่มก้อน มีบริษัทเอเจนซี่ในจีนเปิดหาลูกค้านักเรียนที่ต้องการเรียนต่อระดับอุดมศึกษามหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก แต่โง่ภาษาอังกฤษ สอบเท่าไรคะแนนก็สูงไม่ถึงตามเป้า เหตุนี้เองการสวมรอยจึงเกิดขึ้น
"อยากสอบภาษาได้ระดับคะแนนพอผ่าน จ่าย 5 หมื่นบาทไทย, อยากสอบผ่านภาษาได้คะแนนสูงริบ จ่าย 1 แสนบาทไทย นักเรียนจีนที่ไม่เก่ง พุ่งตรงไปยังบริษัทเอเจนซี่เหล่านี้ ลงทะเบียนจ่ายเงินเสร็จสรรพ ต่อมาทางเอเจนซี่จะไปจัดหานักเรียนจีนที่เก่งภาษาอังกฤษ ใช้พาสปอร์ตจีน วีซ่าท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทยได้ 15 วัน เข้ามาสอบที่สถาบันดังกล่าวในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ทางเอเจนซี่ได้ปลอมแปลงพาสปอร์ตอีก 1 เล่ม ระบุชื่อผู้จ้าง (คนที่ไม่เก่งภาษาแต่มาจ้างเอเจนซี่) ส่วนภาพถ่ายเป็นภาพของนักเรียนที่เก่งภาษา รับจ็อบหาเงินพิเศษเดินทางมาสอบแทน นั่นหมายความว่า ภาพหน้าพาสปอร์ตตรงกับหน้าคนถือเข้าห้องสอบ แต่ชื่อนามสกุลและรายละเอียดในพาสปอร์ตไม่ตรงกัน"
เจ้าหน้าที่จับพิรุธ จีนเดินทางมาสอบในไทย เยอะผิดปกติ
ความไม่ชอบมาพากลตรงนี้เอง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจเข้มขึ้น ดังนั้นก่อนที่แต่ละคนจะเดินเข้าไปนั่งสอบในห้อง เจ้าหน้าที่จึงรีเช็กอีกที โดยการถามข้อมูลส่วนตัวในบัตร เช่น เกิดวันที่เท่าไร เดือนอะไร บ้านเลขที่เท่าไร ?? ...เหตุนี้เองทำให้โป๊ะแตก เรื่องแดงถูกขุดคุ้ยยกขบวนการ เนื่องจากมีผู้เข้าสอบหลายรายตอบคำถามเกี่ยวกับข้อมูลในพาสปอร์ตไม่ได้ ทางเจ้าหน้าที่คุมสอบจึงโทรแจ้งตรงไปยัง พ.ต.ท.นรบดี ศศิประภา สารวัตรใหญ่ ตม. จังหวัดนครปฐม ก่อนจะประสานทีมงาน พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สารวัตรสายตรวจ 191 ร่วมเข้าไขข้อมูลคดี จึงปรากฏข้อมูลข้างต้นดังกล่าว
...
คนจ่ายเงินค่าสมัครสอบเป็นคนเดียวกันทั้งหมด
นี่คืออีกอย่างที่คนจีนสมองใสคาดไม่ถึง เพราะก่อนจะมีการจับพิรุธว่าคนจีนกลุ่มนี้เดินทางเข้ามาสอบเยอะมากกว่าปกติแล้ว การจ่ายเงินค่าสมัครสอบ ยังใช้บัญชีการโอนจากชื่อบัญชีเดียวกันในประเทศจีน นั่นคือเจ้าหน้าที่จากเอเจนซี่นั้นๆ จ่ายเข้ามาทีเดียวกันหลายๆ ราย และทำซ้ำๆ มาแล้วหลายรอบ เหตุนี้เองจึงเป็นที่มาของการเข้มงวดก่อนเข้าห้องสอบ ตรวจเช็กข้อมูลในพาสปอร์ตจากผู้ถือเข้าสอบจนละเอียดยิบ ทำให้เกมที่ดำเนินมาทั้งหมด ถูกเปิดโปง
ทำมาแล้วหลายประเทศในแถบเอเชีย
ไทยไม่ใช่เป้าหมายเดียวที่เหล่าเอเจนซี่ชาวจีนจะส่งนักศึกษาสมองดีไปสวมรอยสอบ เพราะ ACT (American College Testing) ยังมีการเปิดสอบอีกหลายๆ ประเทศ กดำหนดการเวลาเข้าสอบ และจำนวนการสอบ ขึ้นอยู่กับแต่ละแห่ง ทั้งใน ฟิลิปินส์ เวียดนาม ญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งคนจีนกลุ่มนี้ล้วนแล้วแต่เคยไปสอบมาทั้งสิ้น บางคนสารภาพกับทางเจ้าหน้าที่ว่า เคยเดินทางมาสอบในประเทศไทยโดยใช้วิธีเดียวกันก่อนหน้านี้ 2-3 ครั้ง แต่ไม่เคยถูกจับได้ จากนั้นเอเจนซี่จึงติดต่อจ้างบินมาสอบใหม่ โดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทยได้ 15 วัน เมื่อสอบเสร็จก็บินกลับทันที
...
"ส่วนผลการสอบ ขึ้นอยู่กับว่าผู้จ้างอยากจะได้คะแนนระดับไหน เพราะบางสถาบัน หรือมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกต้องใช้คะแนนที่สูงมากเป็นพิเศษ ส่วนบางมหาวิทยาลัยใช้คะแนนพอผ่านหลักเกณฑ์ ดังนั้นราคาค่าจ้างเอเจนซี่จึงแตกต่างกันออกไปตามความยากง่าย นอกจากนี้ ทราบว่าไม่ได้มีแค่บริษัทเดียว ยังมีอีกหลายบริษัทในจีนที่เปิดรับทำผิดกฎหมายในแบบเดียวกัน"
เพิกถอนวีซ่า แจ้งข้อหา 7 ชาวจีน อ่วมอรทัย
การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำผิดตามลักษณะบุคคลต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 12(7) จึงได้เชิญตัวผู้กระทำผิดทั้ง 7 ราย ไปทำการบันทึกถ้อยคำ แจ้งข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม โดยประทับตราของเจ้าพนักงานปลอมฯ” ส่วนนายเหอ หลิง ที่พบพาสปอร์ตปลอม 8 เล่ม แจ้งข้อหาเพิ่ม “มีไว้เพื่อจำหน่ายหนังสือเดินทางปลอม” และทำการเพิกถอนการให้อยู่ในราชอาณาจักร พร้อมประสานทางการจีนต่อไป
ผอ.เอซีที ภูมิภาคเอเชีย ประจำประเทศจีน ขอบคุณตำรวจไทย
ด้าน นายเอน ฮาน ตัน (MR.ENG HAN TAN) ผอ.ภูมิภาคเอเชีย ประจำประเทศจีน เอซีที เปิดเผยว่า เอซีที มีการตั้งมาประมาณ 60 ปี เป็นสถาบันที่ได้รับความน่าเชื่อถือจากสถาบันการศึกษาทั่วโลกถึงคุณภาพในการสอบมาตรฐานวัดระดับ ผู้ที่ผ่านล้วนประสบความสำเร็จจำนวนมาก สำหรับการสอบในภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทย มาประมาณ 30 ปี มีการสอบปีละ 7 ครั้ง โดยพบการทำผิดแบบสวมรอยหลายรายชื่อแบบนี้ครั้งแรก รู้สึกตกใจกับเรื่องนี้ เพราะมีคนที่พยายามอย่างหนักจำนวนมาก เพื่อให้ผ่านการสอบ เป็นการเอาเปรียบผู้อื่น เอซีที ไม่สามารถยอมรับได้ ต้องขอขอบคุณอย่างมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจไทย ที่สามารถจับกุมผู้ทำความผิด.
...
***การเข้าสอบวัดคะแนนภาษาอังกฤษ ไม่เสมอไปว่าผู้ว่าจ้างเข้าสอบจะนำคะแนนไปศึกษาต่อยังต่างประเทศจริงหรือไม่ เนื่องจากตรวจสอบย้อนหลัง มีคนจีนฉ้อฉลใช้วิธีเดียวกันเป็นจำนวนไม่น้อย จึงอาจเป็นไปได้ว่า คะแนนสอบวัดระดับ เพียงแค่เป็นใบเบิกทาง เพื่อยื่นวีซ่าเข้าประเทศนั้นๆ หรือนำไปสมัครงานตามบริษัทชั้นนำระดับโลก หรืออื่นๆ ซึ่งต้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป