ถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจ กับอวัยวะที่พ่อแม่สร้างให้ตั้งแต่กำเนิดเกิดมา ใช่ว่าจะเป็นปัญหาใหญ่ เพราะเทคโนโลยีความทันสมัยด้านศัลยกรรมตกแต่งในประเทศไทยก็พัฒนารุดหน้าไปไกล อยากจะตาโต จมูกโด่ง นมใหญ่ ก็แค่หาข้อมูลคลินิก หรือโรงพยาบาลศัลยกรรมดีๆ ที่มีทีมแพทย์มือฉมัง จ่ายเงินเนรมิตความต้องการให้ออกมาสวยสมใจนึก...

และถ้าอะไรๆ มันง่ายขนาดนั้นคงดี ทำทีเดียวเป๊ะ สวยเปลี่ยน ไม่เกิดปัญหา ไม่ต้องผ่าแก้ ....แต่ที่เห็นเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งอยู่ตลอดทั้งปี เพราะผู้ใช้บริการเลือกคลินิกศัลยกรรมผิดพลาด ไม่ได้มาตรฐาน หรือดำเนินงานโดยหมอเถื่อน ? อันนี้เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ โดยเฉพาะการศัลยกรรมหน้าอก เสริมอึ๋มให้ใหญ่ ปัญหาระดับโลกของสาวๆ สมัยใหม่ที่ "นมเล็ก" ....

เลือกแพทย์ เลือกคลินิกศัลยกรรมอย่างไร ไม่เสี่ยงก่อให้เกิดความผิดพลาด หมดปัญหา นมติดเชื้อ นมเน่า นม 2 ข้างใหญ่ไม่เท่ากัน วันนี้ ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ สัมภาษณ์แพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทาง เชี่ยวชาญด้านการเสริมทรวงอกจากคุณหมอกิตติ์ "อเมทิส คลินิก" ศัลยกรรมความงามทรวงอก 

- กว่าจะเป็นแพทย์ศัลยกรรม - 

หลายๆ คนอาจไม่ทราบว่า กว่าจะเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งได้ จำเป็นต้องผ่านการฝึกอบรมอย่างหนักขนาดไหน? โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 ทางแพทยสภาได้เห็นชอบกับทางสมาคมฯ ทำการเปลี่ยนข้อบังคับ ดังนั้นผู้ที่อยากจะเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งต้องผ่านการฝึกอบรมในสาขาศัลยศาสตร์ทั่วไปเสียก่อน โดยผู้เข้ารับการฝึกอบรม ต้องผ่านการฝึกอบรมสาขาศัลยศาสตร์ทั่วไปอย่างสมบูรณ์เป็นเวลา 3 ปีเต็ม

...

นั่นหมายความว่า จะต้องมีการศึกษาและประสบการณ์การผ่าตัดในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับศัลยศาสตร์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น การดูแลคนไข้หนักทางศัลยกรรม การผ่าตัดช่องท้อง พวกกระเพาะอาหาร ไส้ติ่ง ลำไส้เล็ก สำไส้ใหญ่ ตับ ม้าม การผ่าตัดทรวงอกทั้งหัวใจและปอด การผ่าตัดเส้นเลือดทั่วร่างกาย การผ่าตัดบริเวณต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งลำคอ ต่อมไทรอยด์ หลังจากนั้น ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการฝึกอบรมในสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้างอีก 2 ปี

ซึ่งจะมีการเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติโดยการผ่าตัด ซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ผิดปกติไปทางเชิงรูปร่าง อันจะนำไปสู่ความสามารถในการผ่าตัดเสริมสวยในเวลาต่อมา การฝึกอบรมทางด้านศัลยศาสตร์ทั่วไปมีการเปลี่ยนแปลงกลายเป็น 4 ปี ทำให้การเรียนต่อเพื่อเป็นศัลยแพทย์ตกแต่งยาวนานขึ้น กลายเป็น 6 ปี กระทั่ง เมื่อปี พ.ศ. 2551 ทางสมาคมฯ ได้ขอปรับเปลี่ยนระยะเวลาการฝึกอบรมอีกครั้งหนึ่ง โดยให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องผ่านสาขาศัลยศาสตร์ทั่วไปเพียง 2 ปี แล้วผ่านสาขาศัลยศาสตร์ตกแต่ง 3 ปี ทำให้ระยะเวลารวมเป็น 5 ปี

- เช็กรายชื่อศัลยแพทย์ตกแต่งอย่างไร ไม่โดนหมอเถื่อนหลอก? - 

ตามจังหวัดใหญ่ๆ ในหัวเมืองต่างๆ ละลานตาเต็มไปด้วยคลินิกเสริมความงามศัลยกรรมตกแต่ง อาจจะยากตรงที่ผู้เข้ารับบริการบางรายไม่ใช้เวลาหาข้อมูลให้ถี่ถ้วน เลือกทำกับคลินิกที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในพื้นที่ หรือราคาถูก โดยอาจไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือผลลัพธ์ที่อาจจะตามมา เหตุนี้เองทำให้เรื่องราวบานปลายกลายเป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับสภาพร่างกายและจิตใจ เพราะผู้เข้ารับบริการ ไม่ละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบรายชื่อ ที่มาแพทย์ศัลยกรรม

ผู้ใช้บริการสามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อแพทย์จากฐานข้อมูลแพทย์สภา ที่เว็บไซต์ ตรวจสอบรายชื่อ ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการ ทางที่ดีที่สุด ควรจะทำกับคุณหมอที่ได้รับการอบรม เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริง ต้องเป็นหมอศัลยกรรมตกแต่งโดยตรง และต้องคำนึงถึงมาตรฐานของอุปกรณ์ ความสะอาดของสถานที่หรือคลินิกด้วย

- จบด้านอื่น แอบอ้างเป็นหมอศัลยกรรม - 

อย่างที่ข้อมูลระบุไปแล้วว่า แพทย์มีหลายสาขา ดังนั้นแพทย์ที่ไม่ได้จบโดยตรงด้านศัลยกรรมมา ก็มีไม่น้อยที่แอบแฝงอยู่ตามคลินิกต่างๆ ให้บริการเสริมความงาม ซึ่งถือว่าใช้ใบวิชาชีพผิดประเภท นอกจากนี้ ยังมีพวกบรรดาหมอกระเป๋า หรือหมอเถื่อน อาศัยวิชาครูพักลักจำ อาจจะเคยทำงานร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาก่อน ประสบการณ์ที่ได้สามารถนำมาพัฒนาเรียนรู้ด้วยตัวเอง ก่อนแอบแฝงเปิดคลินิกหากิน หลอกลวงผู้ใช้บริการ จึงไม่แปลกที่เกิดปัญหาบานปลายตามมา 

- สาเหตุปัญหา อันตราย นมเน่า นมแตก นมติดเชื้อ  -

หัตถการที่ต้องเสริมวัสดุการแพทย์เข้าไปมีความเสี่ยงอยู่แล้ว หากผู้รับบริการไม่ได้ทำกับศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีความชำนาญ อัตราความเสี่ยงสูงมาก เพราะแพทย์เถื่อนเหล่านี้ นอกจากจะไม่มีทักษะความรู้แม้กระทั่งขั้นพื้นฐาน อาจทำให้อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน ติดเชื้อระหว่างการผ่าตัด รวมไปถึงซิลิโคนที่ใช้ต้องได้มาตรฐาน ผ่านการตรวจสอบ

...

สาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้ นมเน่า นมติดเชื้อ นมแตก ได้ทั้งนั้น  ในส่วนของนมไม่เท่ากัน เราต้องเข้าใจก่อนว่า นมของมนุษย์เราทั้ง 2 ข้าง ไม่เท่ากันอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อต้องการเสริมนมใหม่ ลักษณะขนาดต้องตรวจวัดให้ดี เลือกซิลิโคนให้เหมาะสมในแต่ละข้าง ที่สำคัญควรเลือกใช้ซิลิโคลนที่มีคุณภาพดี สอดรับกับสภาพร่างกายของผู้เข้ารับบริการด้วย 

- การเลือกขนาดสำหรับคนที่อยากเสริมหน้าอก -

หลักการเสริมหน้าอก คือการแก้ปัญหาเรื่องของขนาด และการแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยในระดับน้อยๆ ดังนั้นการเลือกขนาดซิลิโคนเสริมหน้าอก ขึ้นอยู่กับความกว้างของตัวคนไข้ เบื้องต้นควรบอกความต้องการ ว่าอยากได้เพิ่มจากของเดิมประมาณเท่าไร ทั้งนี้หมอต้องดูต้นทุนตัวลักษณะหน้าอกเดิม ว่ามีขนาดประมาณเท่าไร

ดังนั้นซิลิโคนที่ใช้ก็ต้องเลือกตามปัจจัยพื้นฐานลักษณะของเนื้อหน้าอก ความกว้างของตัวหน้าอก ซึ่งเราจะต้องเอาไปสัมพันธ์กันกับขนาดของตัวซิลิโคนที่เราเอาไปใช้ได้ เพื่อกันฐานของซิลิโคนไม่ให้มันล้มไปด้านข้าง และมีขนาดที่สวยงามเหมาะสม 

...

โดยส่วนใหญ่เราควรใช้ซิลิโคนที่ผ่านการรับรองคุณภาพ ในเมืองไทยก็ต้องผ่านการตรวจสอบจาก อย. แต่ถ้าในต่างประเทศก็เป็นมาตรฐานของต่างประเทศ อย่างพวก MBA ฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่เราควรรู้ว่าจะใช้อะไร แบบไหน ทางคลินิกจะต้องเป็นคนบอกว่าเราใช้ซิลิโคนแบบไหน ซึ่งเราสามารถสอบถามทางคลินิกได้

- โอกาสในการติดเชื้อมีมาก ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญที่สุด -

การติดเชื้อมีโอกาสเกิดขึ้นสูง เมื่อไหร่ที่เราใช้วัสดุทางการแพทย์ วัสดุพวกนี้มันไม่ใช่เนื้อเยื่อเรา สิ่งที่เราจะป้องกันได้คือต้องลดการปนเปื้อนให้น้อยที่สุด หรือไม่ให้มีการปนเปื้อนกับแบคทีเรียที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเลย แต่ในความเป็นจริงมันไม่มีใครตรวจเช็กได้ ฉะนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ต้องมีการเตรียมอุปกรณ์ฆ่าเชื้อให้สะอาด ประกอบกับเช็กภูมิคุ้มกัน หรือสภาพร่างกายของคนไข้ ว่าเขามีความแข็งแรงแค่ไหน ถึงแม้จะมีการปนเปื้อนอยู่นิดหน่อย แต่ตามกระบวนการของร่างกายก็สามารถกำจัดได้  

- รู้ตัวว่าติดเชื้อควรทำอย่างไร? - 

จะต้องเอาวัสดุออกโดยทันที และรอระยะเวลาพักนานมากกว่า 6 เดือน จากนั้นคอยดูอาการ เพื่อให้ร่างกายมันฟื้น หากยังอยากจะเสริมขนาดหน้าอก ต้องอยู่ในการพิจารณาของแพทย์ว่าควรเสริมต่อไปหรือไม่ อย่างไร ...ที่ผ่านมา หากสงสัยว่าจะมีการติดเชื้อ แพทย์ต้องทำการส่งเพาะเชื้อ เพื่อพิสูจน์ร่วมกับเอาวัสดุออก แพทย์บางราย เลือกรักษาโดยการยื้อ ให้ยาค่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ ซึ่งส่วนใหญ่ ถ้าเป็นการรักษาหน้าอก มักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะมันเป็นวัสดุขนาดใหญ่ มีโครง และอาจจะเป็นอันตรายมากกว่า 

...

- ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของหมอ เป็นเรื่องสำคัญ -   

นอกจากแพทย์ต้องจบด้านศัลยกรรมโดยตรงแล้ว ประสบการณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก รู้ทฤษฎี ต้องเข้าใจในด้านการปฏิบัติ และมีศิลปะที่จะทำให้ความสวยงามก่อกำเนิดขึ้น สร้างความประทับใจให้ผู้ใช้บริการ ดังนั้นเรื่องของประสบการณ์จึงมีผล ลดความเสี่ยง อันตราย ติดเชื้อไปได้เยอะ

- จำเป็นมั้ยที่ว่า ทำนมออกมาสวยและดี ต้องจ่ายราคาแพงเสมอไป - 

ขึ้นอยู่กับมาตรฐานให้บริการ ความเชี่ยวชาญของแพทย์ และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ว่ามีคุณภาพ และราคาสูงแค่ไหน คลินิกศัลยกรรม หรือโรงพยาบาลต่างๆ คิดค่าบริการเท่าไร? ของแพงไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป ส่วนของถูก ก็ใช่ว่าเป็นของไม่ดี หากตัดสินใจจะทำแล้ว ควรหาข้อมูลเบื้องต้นที่เกริ่นนำมาทั้งหมด อยากให้ผู้ใช้บริการคำนึงถึงความปลอดภัย ออกมาสวยงาม ไม่มีปัญหาการติดเชื้อภายหลัง มากวัดกันที่มาตรฐานราคาว่า ถูกหรือแพง จึงจะดีกว่ากัน