อัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ข้อหาร่วมฟอกเงินแบงก์กรุงไทยปล่อยกู้ กลุ่มกฤษดามหานคร กรณีเช็ค 10 ล้าน ท่ามกลางการให้กำลังใจของแกนนำพรรคเพื่อไทย   

วันที่ 10 ต.ค. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโต นายทักษิณ ชินวัตร ได้เดินทางมาสำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาฯ ตามอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 นัดสั่งคดี (ครั้งที่2) ในคดีฟอกเงินร่วมกันฟอกเงิน-ทุจริตการปล่อยกู้สินเชื่อธนาคารกรุงไทยกับกลุ่มกฤษดามหานคร ท่ามกลางบรรดาอดีต ส.ส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย มาคอยให้กำลังใจ

...

โดยนายพานทองแท้ เดินทางมาพร้อนางสาวแพทองธาร และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร และมีแกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางมารอให้กำลังใจจำนวนมาก อาทิ พลตำรวจโทวิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายโภคิน พลกุล นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายนพดล ปัทมะ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายสามารถ แก้วมีชัย รวมถึงแกนนำและอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยอีกหลายคน

คดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งสำนวนการสอบสวนที่มีการกล่าวหานายวิชัย กฤษดาธานนท์กับพวก 13 คน กระทำความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน เกี่ยวกับการโอนและรับการโอนธุรกรรมทางการเงินที่ได้จากการอนุมัติสินเชื่อธนาคารกรุงไทยโดยมิชอบ เป็นจำนวนหลายรายการ ซึ่งพนักงานอัยการสั่งฟ้องนายวิชัยกับพวกผู้โอนและฟ้องต่อศาลแล้ว

ต่อมา นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการ ระบุว่า สำหรับคดีที่กล่าวหา นายพานทองแท้ ชินวัตรกับพวก คณะทำงานสำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีเช็ค 26 ล้านบาท มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นางเกศินี จิปิภพ ผู้ต้องหาที่ 1 นายพานทองแท้ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน จำนวน 26 ล้านบาท แต่สั่งฟ้องนางกาญจนาภา และนายวันชัย หงษ์เหิน ฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน

ส่วนกรณีเช็ค 10 ล้านบาท มีคำสั่งฟ้องนายพานทองแท้ ฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน

ขั้นตอนหลังจากนี้ หลังจากนายพานทองแท้ได้เข้ารับทราบคำสั่งฟ้องแล้ว จะต้องนำตัวไปส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป

ด้านนายนพล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า คดีนี้นายพานทองแท้มีกำลังใจดี และพร้อมต่อสู้ ส่วนศาลจะให้ประกันหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจ และยังไม่ทราบว่าทีมทนายได้เตรียมหลักทรัพย์มาไว้รอขอประกันตัวจำนวนเท่าใด เพราะตัวเองไม่ใช่ทีมทนายในคดีนี้.