ชัยชนะผู้บริโภค! ศาลพิพากษาให้ บ.ฟอร์ดฯ ชดใช้ค่าเสียหายผู้ใช้รถรุ่นเฟียสต้า โฟกัส และอีโค่สปอร์ต 296 ราย กรณีจำหน่ายรถยนต์ที่มีข้อบกพร่องไม่ได้มาตรฐาน และไม่เป็นไปตามโฆษณารวมราว 23 ล้าน...
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายผู้เสียหายจากการใช้รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด นำกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 300 คน เข้ารับฟังคำพิพากษาของศาล หลังเป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด ที่สั่งผลิตและนำรถยนต์ชำรุดบกพร่องออกจำหน่าย ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย

นายจิณณะ กล่าวว่า จากกรณีผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดรุ่นเฟียสต้า โฟกัส และอีโค่สปอร์ต จำนวนกว่า 300 ราย รวมตัวกันยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่มต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.60 และศาลได้รับฟ้องไปเมื่อเดือน พ.ค. 61 ที่ผ่านมา ขณะนี้ ศาลได้ไต่สวนพยานโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้น จึงนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้ โดยผู้เสียหายที่ยื่นต่อศาลทั้งหมดเข้าฟังการอ่านคำพิพากษาด้วยตัวเอง และมั่นใจระดับหนึ่งว่าจะได้รับความเป็นธรรม แต่สิ่งสำคัญคือ ทีมทนายและผู้บริโภคต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ทำคดีนี้ให้เป็นคดีตัวอย่าง สร้างบรรทัดฐานไม่ให้ผู้ประกอบการหาช่องว่างเอาเปรียบผู้บริโภค และสังคมต้องไม่เพิกเฉยหรือยินยอมให้เกิดการเอาเปรียบ
...

“กว่าปีครึ่งที่ทุกคนร่วมต่อสู้กันมาและรอคอยวันนี้ เรามีหลักฐานความเสียหายที่เกิดกับผู้บริโภคที่ชัดเจน ดังนั้น ประเด็นหลักในวันนี้จึงไม่ใช่ผลทางคดีอย่างเดียว แต่เราอยากผลักดันพลังของผู้บริโภค ให้นำไปสู่การออกกฎหมายที่เป็นธรรมและเป็นมาตรฐานเดียวกัน และคดีนี้ถือเป็นคดีประวัติศาสตร์ เพราะเป็นคดีที่มีการฟ้องตาม พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ฉบับที่ 26 พ.ศ. 2558 เรื่องการดำเนินคดีแบบกลุ่ม และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเป็นคดีแรกของประเทศไทย" นายจิณณะ กล่าว

โดยต่อมาเมื่อ 11.20 น. ศาลได้อ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นในคดีที่กลุ่มผู้บริโภคที่ใช้รถยนต์ฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า รุ่นโฟกัส และรุ่นอีโค่สปอร์ต จำนวน 308 รายเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด เรื่องจำหน่ายรถยนต์ชำรุด บกพร่อง ไม่ปลอดภัย เนื่องจากการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ชำรุดบกพร่องไม่ได้มาตรฐาน ไม่เป็นไปตามคำโฆษณา เรียกค่าเสียหายจำนวนทุนทรัพย์ 24.7 ล้านบาทเศษ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย
พิพากษาให้ จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ได้รับความเสียหาย รายละตั้งแต่ 20,000 บาทเศษ - 200,000 บาท พร้อมชำระดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อไป ให้จำเลยชำระค่าทนายความแทนโจทก์ 1.5 แสนบาท พร้อมเงินรางวัลแก่ทนายความ 800,000 บาท ตามกฎหมายด้วย และให้บังคับคดีตามคำพิพากษาให้เสร็จภายใน 7 วัน โดยจำเลยต้องรับผิดชอบต่อโจทก์และสมาชิก โดยกำหนดค่าซ่อมราคาจากการเข้าซ่อม และวันขาดประโยชน์ใช้รถยนต์ของโจทก์ และสมาชิกแต่ละรายรวมเป็นเงินประมาณ 23 ล้านบาทเศษ
ทั้งนี้ ศาลได้ยกฟ้องจำนวนสมาชิกจำนวน 12 รายที่ได้มีการดัดแปลงสภาพรถ หรือไม่เคยนำรถยนต์เข้าซ่อมเกี่ยวกับการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับชุดคลัตช์และกล่องควบคุมโมดูลเกียร์.

...