ผบช.น.เผย คดีมีมูล “พ่อค้าส้มตำถูกยัดข้อหารีดเงิน” ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงตำรวจชุดสืบสวน บก.น.1 ทั้ง 6 นาย และให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่ผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง จ่อส่งเรื่องฉาววงการสีกากีให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเชือดต่อ แฉพ่อค้าส้มตำยอมรับเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะโดนดำเนินคดีด้วย
กรณีนายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี พ่อค้าขายส้มตำ ชาว จ.ร้อยเอ็ด ถูก พ.ต.ต.บัญชา เจือจาน สว.ธร.สน.บางนา ปฏิบัติราชการ สว.กก.สส.บก.น.1 นำกำลังเข้าค้นบ้านยัดไอซ์ลูกสาว ส่วนนายศักดิ์ชัยมีหมายจับข้อหากรรโชกทรัพย์ ถูกเรียกเงิน 50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ภายหลังตำรวจรับแจ้งความผู้บังคับบัญชามีคำสั่งย้าย พ.ต.ต.บัญชา และตำรวจ กก.สส.บก.น.1 รวม 6 นาย ไปช่วยราชการที่ ศปก.บก.น.1 โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม รวมทั้งแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันใช้อำนาจหน้าที่ข่มขืนใจให้ได้ทรัพย์สินของผู้อื่น ต่อมา พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและให้ตำรวจทั้ง 6 นายออกจากราชการไว้ก่อน
ความคืบหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ก.ย. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า เบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงและให้ออกจากราชการเอาไว้ก่อน ส่วนกรณีที่เป็นข่าวอยู่หลายวัน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง มอบหมายให้ พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกให้ออกจากราชการ 6 นาย มีการยัดข้อหาประชาชนจริงหรือไม่ จากการสอบสวนตำรวจทั้ง 6 นาย ยังให้การปฏิเสธ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงดำเนินการตรวจสอบ จากนั้นจะส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดำเนินคดีอาญาต่อไป
...
“ขณะนี้ความจริงเป็นอย่างไรอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่คดีมีมูลแล้วจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ชุดกองกำกับการสืบสวนสอบสวน บก.น.1 นอกจากนี้ ยังมีชุดจับกุมยาเสพติดหน่วยเดียวกันร่วมก่อเหตุด้วย ผมจะไม่เข้าข้างตำรวจ ผู้เสียหายที่ปรากฏตามสื่อก็รับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะถูกดำเนินคดีเรื่องยาด้วย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำความผิดปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือเรียกรับผลประโยชน์ก็ต้องดำเนินคดีเช่นกัน” ผบช.น.กล่าว
พล.ต.ท.ชาญเทพเผยอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องการกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะไม่เอาไว้เด็ดขาด ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเก่าอยู่ว่ามีการกระทำผิดลักษณะดังกล่าวมาก่อนหรือไม่ ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนท่านใดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวหรือไม่ว่าชุดไหนก็ตามก่อเหตุให้เข้ามาร้องเรียนกับ บช.น.ได้ตลอดเวลา