ทีมข่าวเจาะประเด็น ไล่เรียงข้อมูลจากน้องสาวผู้ตาย ผู้กำกับเจ้าของคดี รวมถึงกูรูด้านยานยนต์ ถอดชนวนสำคัญ สาวใหญ่ไฮโซขับรถจมน้ำเสียชีวิต จมน้ำธรรมดา หรือฆาตกรรม ถอดรหัสไปพร้อมกัน!
น.ส.วราพรรณ เตชะวงศ์ น้องสาวของ น.ส.ภานุมาศ แซ่แต้ ผู้ตายวัย 41 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และนำเข้าเครื่องสำอาง ได้ให้การว่า พี่สาวเดินทางกลับจากไปทำธุระนอกบ้าน แล้วกลับเข้าหมู่บ้านทางซอยอ่อนนุช 65 จากนั้นได้ขับรถออกจากหมู่บ้านผ่านป้อมยามทางฝั่งคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เมื่อขับรถลงอุโมงค์ลอดทางรถไฟแล้วก็ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งเวลาประมาณ 00.43 น. พี่สาวโทรศัพท์ติดต่อไปยังนายเจษฎา ดำสมาน เพื่อนร่วมงาน ว่ารถของพี่สาวเครื่องดับและกำลังจะจมน้ำ ซึ่งพี่สาวว่ายน้ำไม่เป็น ก่อนจะขาดการติดต่อไปในที่สุด


...
พ.ต.อ.อลงกรณ์ ศิริสงคราม ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็นถึงกรณีที่หลายฝ่ายสงสัยในปมฆาตกรรมว่า “เหตุการณ์นี้ไม่เกี่ยวกับฆาตกรรม ไม่มีฆาตกรรมแน่นอน”
ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยว่า ทำไมโทรศัพท์ผู้ตายตกอยู่นอกรถ ทั้งๆ ที่ผู้ตายเสียชีวิตอยู่ด้านในตัวรถ ผกก.สน.ประเวศ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ผู้ตายพยายามเปิดประตูรถออกมา เพราะตอนที่นักประดาน้ำดำเข้าไปพบศพ พบว่า ประตูรถถูกเปิดไว้อยู่แล้ว จึงทำให้โทรศัพท์ลอยออกมาอยู่นอกตัวรถ และถึงแม้ผู้ตายจะสามารถเปิดประตูรถออกมาได้ แต่ด้วยความที่ผู้ตายว่ายน้ำไม่เป็น จึงทำให้ผู้ตายไม่สามารถรอดพ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวได้

“ผู้ตายไม่ได้โกรธแค้นกับใครมาก่อน เขาเพิ่งเดินทางไปส่งสามีขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ ซึ่งเรามีพยานยืนยันชัดเจนว่า ผู้ตายแค่ขับรถลุยน้ำ เครื่องดับ และจมน้ำเสียชีวิตเท่านั้น เพราะวินาทีที่ผู้ตายขับรถลงไปในน้ำ ผู้ตายโทรหาเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง” ผกก.สน.ประเวศ กล่าว
“และผู้ตายบอกกับเพื่อนว่า เฮ้ย รถกูติดอยู่ในอุโมงค์ น้ำกำลังท่วมรถด้วย มีวิธีการยังไง แนะนำหน่อยได้มั้ย กูว่ายน้ำไม่เป็น ตอนนี้น้ำข้างนอกท่วมหลังคาแล้ว แต่น้ำในรถท่วมมาครึ่งคันแล้ว สามนาทีถัดมา เพื่อนของผู้ตาย โทรหาผู้ตายอีกครั้ง ผู้ตายมีการรับโทรศัพท์ แต่ไม่ได้ยินเสียงกันและกัน โดยคาดว่า โทรศัพท์ผู้ตายเปียกน้ำ” ผกก.สน.ประเวศ กล่าว


...
ส่วนประเด็นที่หลายคนยังสงสัยว่า ทำไมน้ำถึงท่วมหลังคารถภายในระยะเวลาอันรวดเร็วนั้น ผกก.สน.ประเวศ ตอบในประเด็นนี้ว่า สันนิษฐานจากปัจจัยต่างๆ ทั้งหมด คาดว่า ผู้ตายขับรถพุ่งลงไปในน้ำด้วยความเร็วพอสมควร จากนั้น รถก็ลอยนำ้และหมุนเอียงประมาณ 35 องศา ส่วนที่ผู้ตายออกมาจากในรถไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำด้านนอกตัวรถสูง และผู้ตายว่ายน้ำไม่เป็น


...
ด้านนายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ ระดับแนวหน้าของเมืองไทย เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็นถึงข้อสงสัยที่ว่า “สาวไฮโซมีเวลาหนีตาย แต่ทำไมไม่รีบหนีออกมา”
“เธอค่อยๆ ขับรถลงไปในอุโมงค์ จนน้ำล้นหน้าหม้อและดับลง จากนั้น เธอมีเวลาโทรหาบุคคลอื่น และยังสามารถบอกกับปลายสายได้ว่า เธอรถขับลุยน้ำจนรถดับ และขอความช่วยเหลือ เพราะฉะนั้น ถ้าเขามีเวลาโทรหาคนอื่นได้ แสดงว่าโทรศัพท์ของเขายังไม่จมน้ำ และย่อมหมายว่า เธอสามารถเปิดประตูลงจากรถได้ เพราะแรงดันน้ำที่ดันประตูรถยังมีไม่มาก” พัฒนเดช กล่าว


...
“แต่เราไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้นกับการตัดสินใจของเธอ ในกรณีที่เคยเกิดขึ้นลักษณะนี้ บางรายอาจะเป็นห่วงทรัพย์สิน หรือเธอคิดอะไรอยู่ไม่มีใครทราบ เท่ากับตัวเธอเอง” พัฒนเดช วิเคราะห์จากประสบการณ์
“ฉะนั้น จุดนี้เป็นจุดที่นำมาเป็นบทเรียนสอนคนได้เลยว่า เมื่อคุณอยู่ในภาวะรถจมน้ำ รถไฟไหม้ หรือเหตุอื่นใดก็ตาม คุณต้องออกไปให้เร็วที่สุด และออกไปให้ไกลจากตัวรถที่สุด” พัฒนเดช ฝากไว้เป็นอุทาหรณ์.