นายกฯ เปิดงานเลี้ยงขอบคุณทีมช่วย "หมูป่า" แนะถอดบทเรียนเป็นกรณีศึกษา วางแผนแจ้งเตือนภัย เผย "ในหลวง ร.10" พระราชทานเครื่องราชฯ แด่คนไทย-ต่างชาติ ที่ปฏิบัติภาระกิจเสียสละอันยิ่งใหญ่ พร้อมสดุดี "จ่าสมาน" เชื่อความกล้า-คุณความดี จะติดตราตรึงใจ ด้าน "ทีมหมูป่า" ขอบคุณชาวโลก ที่เสียสละ ลั่นขอจดจำบุญคุณไปตลอดชีวิต 

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 6 ก.ย.61 ที่พระลานพระราชวังดุสิต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวในการเป็นประธานเปิดงาน "รวมใจเป็นหนึ่งเดียว United as One" ขอบคุณผู้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ว่า การที่ทุกท่านได้มาอยู่ในงานแห่งนี้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ ในการปฏิบัติภารกิจครั้งประวัติศาสตร์ เพื่อช่วยเหลือทีมเยาวชนหมูป่าอะคาเดมี่ ตลอดระยะเวลา 18 วัน ที่ทีมหมูป่าอะคาเดมี่ติดอยู่ในถ้ำหลวง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงห่วงใยและทรงติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิด มีพระราชกระแสรับสั่งให้กำลังใจราษฎรและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ทรงขอให้มีสติ สมาธิปัญญาในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะภารกิจจะสำเร็จเรียบร้อยต่อเมื่อทุกคนออกมาแล้ว กลับสู่ครอบครัวด้วยความปลอดภัย พร้อมทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ในการจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือและเสบียงอาหาร พระราชทานแนวทางแก้ไขปัญหา ทำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี รัฐบาลขอขอบคุณในน้ำใจและความเสียสละที่ได้ให้การช่วยเหลือ สนับสนุนทั้งกำลังกาย กำลังใจ และสติปัญญา จนสามารถฝ่าฟันปัญหาอุปสรรค เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญการรวมพลัง ร่วมมือร่วมใจของคนในชาติรวมถึงมิตรไมตรีอันดีจากประเทศอื่นๆ ที่ให้ความช่วยเหลือโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

...

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้เป็นการแสดงความขอบคุณผู้ร่วมปฏิบัติภารกิจ ไม่ว่าจะมีหน้าที่น้อยใหญ่เพียงใด แต่ทุกท่านแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ และคุณค่าพลังความสามัคคีเป็นน้ำใจเดียวกัน รวมถึงความรักของเพื่อนมนุษย์ที่เป็นกำลังแข็งแกร่ง ก้าวข้ามอุปสรรคนานานัปการไปได้ ครั้งนี้ขอสดุดีความกล้าหาญของ "น.ต.สมาน กุนัน" เชื่อว่าความกล้าหาญและคุณความดีของ น.ต.สมาน จะประทับติดตรึงในใจของพวกเรา โดยในครั้งนี้ประเทศไทยจะนำเป็นกรณีศึกษา เพื่อปรับใช้เป็นแนวทางในการวางแผนระบบแจ้งเตือนภัยต่างๆ ให้มีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและให้หน่วยงานทางน้ำไปประเมินสถานการณ์รับมือกับภัยพิบัติ แก้ไขปัญหาเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง ทั้งนี้ขอให้ทุกภาคส่วนนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติประยุกต์ใช้กับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถรับมือและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ตามพระราชกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้พระราชทานไว้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สุดท้ายนี้ในนามรัฐบาลขอขอบคุณผู้ปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ทุกส่วน ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ เดชะพระบารมีแห่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประกอบกับคุณงามความดีของทุกท่านที่ได้กระทำโปรดอภิบาลประทานพรให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญโดยทั่วกัน และขอให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

จากนั้นผู้แทนผู้ปฏิบัติหน้าที่แต่ละกลุ่ม ขึ้นรับสำเนาพระราชกระแสทรงขอบใจ เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีผู้ที่รับพระราชกระแสฯรวมทั้งสิ้น 7,120 คน อาทิ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กลุ่มนักประดาน้ำ และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ชุดปฏิบัติการค้นหาในถ้ำและนอกถ้ำ ชุดปฎิบัติการระบายน้ำในถ้ำทั้งภาครัฐและเอกชน ชุดปฎิบัติการเบี่ยงทางน้ำทั้งภายในถ้ำและนอกถ้ำ แผนกสนับสนุนเครื่องมือต่างๆ อาสาสมัคร ประชาชน ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ และกลุ่มสื่อมวลชน

...

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯและคู่สมรสได้เดินทักทายผู้ปฏิบัติงานช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมี่ และผู้มาร่วมงาน รวมถึงเดินเยี่ยมชมร้านอาหารพระราชทานอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่นายกฯและ ครม.พร้อมด้วยคู่สมรสจะร่วมรับประทานอาหารพระราชทาน และร่วมกันร้องเพลงสามัคคีชุมนุม วงดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีปิดงาน

นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการที่ได้หารือกับกระทรวงมหาดไทยในส่วนที่มาจากต่างจังหวัดได้เข้ามาในพื้นที่ครบถ้วนแล้ว ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมงานเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้เชิญประมาณ 7,000 คน ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับผู้ร่วมงานบางท่าน เขารู้สึกดีใจที่ได้มาร่วมงาน รัฐบาลเองก็ดีใจที่ได้มีโอกาสมาขอบคุณผู้ที่มาร่วมงาน

นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ให้กับชาวต่างชาติ จำนวน 114 คน คนไทย 74 คน ขณะที่ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ จะได้รับเข็มที่ระลึก ครบรอบเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 28 กรกฎาคม 2555 จำนวน 184 คน โดย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ และสิ่งอันเป็นที่ระลึกแก่ผู้ปฏิบัติภารกิจสำคัญที่เป็นผู้เสียสละอย่างยิ่ง เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 7 ก.ย.61 เวลา 15.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล

...

ต่อมาเวลา 18.30 น.เยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี่ทั้ง 12 คน ได้ขึ้นบนเวทีเพื่อขอบคุณผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดย ด.ช.อดุลย์ สามอ่อน เป็นตัวแทนกล่าวว่า เราทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่ทรงมีพระเมตตา ห่วงใย พระราชทานความช่วยเหลือ ทำให้พวกเราทั้ง 13 คน รอดชีวิตมาได้อย่างปลอดภัย สามารถมายืนที่นี้ได้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พวกเราจะจดจำพระมหากรุณาธิคุณครั้งนี้ไปตลอดชีวิต นอกจากนี้พวกตนยังขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และทุกท่านทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่ได้ให้ความเมตตาและแรงกายแรงใจ โดยเฉพาะ "จ่าสมาน" ซึ่งถือเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยชีวิตพวกตน

"พวกเราจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ตลอดชีวิต การช่วยเหลือครั้งนี้ทำให้พวกเราสำนึกว่า จะดำเนินชีวิตให้ดีที่สุด เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นลูกศิษย์ที่ดีของครูอาจารย์ หลังจากที่ออกมาจากถ้ำ พวกตนซาบซึ้งถึงความรักของคนไทยและชาวโลกที่มีให้ ทำให้รู้สึกตื้นตันใจและอยากมีโอกาสตอบแทนทุกท่าน ขอสัญญาว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ขอขอบคุณผู้มีพระคุณทุกท่าน"

...

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงาน "รวมใจเป็นหนึ่ง United as One" เพื่อเลี้ยงขอบคุณทีมงานและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในการช่วยเหลือทีมหมูป่าว่า บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการจัดเตรียมซุ้มอาหารพระราชทานทั้งคาวและหวาน รวมถึงเครื่องดื่มจำนวนมาก และซุ้มอาหารในส่วนที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้บริการด้วย นอกจากนี้ยังมีซุ้มบริการแจกจ่ายอาหารและเครื่องดื่มมากมาย จากภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีรายการอาหารหลากหลาย ทั้งอาหารไทยและนานาชาติ โดยมีผู้คนคอยต่อแถวรอรับอาหาร-เครื่องดื่ม พร้อมยังมีเหล่าจิตอาสาและบรรดานักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยคอยเดินให้บริการอยู่โดยรอบ  อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศในขณะนี้ยังคงปลอดโปร่ง สำหรับการรักษาความปลอดภัยนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังที่จุดคัดกรองจำนวน 4 จุด โดยมีตำรวจนครบาลตรวจอาวุธและประชาสัมพันธ์ ให้ผู้ที่มาร่วมงานถือบัตรประชาชนติดตัวเมื่อเข้างานด้วย