เครือข่ายหาบเร่แผงลอย บุกทำเนียบร้องนายกฯ ทบทวนจัดระเบียบทางเท้าคืนพื้นที่ค้าเดิม ขู่ปักหลักยาว หากรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องไม่มาเจรจาโดยตรง...

เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2561 แกนนำและสมาชิกเครือข่ายหาบเร่แผงลอยจำนวนหนึ่ง รวมตัวกันชุมนุมที่บริเวณด้านหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 4 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ทบทวนนโยบายจัดระเบียบทางเท้า คืนพื้นที่ขายให้กับหาบเร่แผงลอย โดยตลอดการชุมนุมได้ตะโกนส่งเสียงโดยตรงถึงนายกฯ ให้ช่วยด้วย

นายเรวัตร ชอบธรรม ประธานเครือข่ายหาบเร่แผงลอยไทย บอกว่า ปัจจุบันเครือข่ายหาบเร่แผงลอยไทย มีสมาชิกที่เป็นผู้ค้าอยู่ว่า 7,500 คน ครอบคลุมพื้นที่ 50 เขตของกรุงเทพมหานคร สำหรับข้อเรียกร้องคือ ต้องการร้องนายกรัฐมนตรี มีการแก้ปัญหา 3 ระยะ 1. ระยะเร่งด่วน โดยให้รัฐบาล และ กทม.ทบทวนยกเลิกนโยบายคืนทางเท้าให้กับประชาชน พร้อมคืนพื้นที่ค้าขายให้กับหาบเร่แผงลอยที่เคยได้รับอนุญาตในจุดค้าขายเดิมภายใน 7 วัน เพื่อให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ จนกว่ากฎหมายฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้

...

ระยะกลาง ทางกลุ่มยืนยันพร้อมจัดระเบียบแต่ขอให้พัฒนากลไกการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้ง เทศกิจ กทม. เครือข่ายผู้ค้าริมทางเท้า ผู้บริโภค และนักวิชาการ เพื่อพัฒนามาตรการจัดระเบียบให้สามารถอยุ่ร่วมกับชุมชน ไม่ใช่การยกเลิกหาบเร่แผงลอย เช่น การรักษาตวามสะอาด การดูและพื้นที่ให้เป็นไปตามกำหนดของ กทม. รวมถึงควบคุมเวลาตั้งแผงพร้อมลงโทษผู้กระทำผิด และการเสียภาษีอย่างถูกต้องให้แก่รัฐ ขณะที่ในระยะยาวขอให้รัฐบาล และ กทม.ออกกฎหมายการค้าริมทางเท้า เพื่อจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่แผงลอย ป้องกันไม่ให้เกิดนโยบายที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

ทั้งนี้ ประธานเครือข่ายหาบเร่ ยืนยันว่า จะปักหลักการชุมชุมอยู่ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ฝั่งทำเนียบรัฐบาล จนกว่าจะได้การเจรจาโดยตรงจาก 4 รัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยว วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และระหว่างนี้รอตัวแทนจาก กทม. และ บชน. มาเจรจา เนื่องจากที่ผ่านมา กทม.มักอ้างว่าสาเหตุที่ต้องยกเลิกทางเท้าเพราะ บชน.ไม่อนุญาต

ขณะที่การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล1 1 กองร้อย พร้อมควบคุมฝูงชนกว่า 50 นาย คอยรักษาความเรียบร้อย.